นายศุภชัย ธาดากิตติสาร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ปฏิบัติการจัดหาและคลัง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. ให้ความสำคัญในเรื่องของ “ความปลอดภัย” เป็นหัวใจสำคัญอันดับแรกในการปฏิบัติงาน และด้วยเหตุที่ ปตท. มีคลังปิโตรเลียมกระจายอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศ จึงได้จัดให้มีการซ้อมแผนฉุกเฉินที่คลังฯ ปตท. ทั่วประเทศขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์และบุคลากรในหน่วยงานให้สามารถรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งสามารถแบ่งการซ้อมได้เป็น 3 รูปแบบคือ การซ้อมแผนฉุกเฉินด้านความมั่นคงปลอดภัย การซ้อมแผนฉุกเฉินกรณีเพลิงไหม้ และการซ้อมแผนขจัดคราบน้ำมันกรณีน้ำมันรั่วไหลลงสู่แหล่งน้ำ
โดยมีแผนซ้อมในช่วงเดือนมกราคม – พฤษภาคมของทุกปีที่คลังฯ ปตท. และสถานีเติมน้ำมันอากาศยานทุกแห่ง รวมทั้งสิ้น 35 พื้นที่ทั่วประเทศ ทั้งนี้ การซ้อมแผนฉุกเฉินแต่ละครั้งจะเป็นการซ้อมเสมือนจริงทุกประการ โดยจะมีการสมมุติเหตุการณ์ร้ายแรงที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของ ปตท. ตลอดจนอาจส่งผลกระทบต่อชุมชนใกล้เคียง เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีความคุ้นเคยกับอุปกรณ์ และสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ยังเป็นการทดสอบการประสานงานกับหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนลูกค้าและชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงอีกด้วย
สำหรับวันนี้ (24 ก.พ. 54) ได้มีการซ้อมแผนฉุกเฉินที่คลังน้ำมันภูเก็ต โดยสมมุติเหตุการณ์ว่าเกิดน้ำมันรั่วไหลจนเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้น เจ้าหน้าที่ทีมผจญเพลิงทั้ง ปตท. และหน่วยงานท้องถิ่นเข้าควบคุม และได้มีการประสานหน่วยแพทย์ฉุกเฉินของโรงพยาบาลในท้องถิ่นและจังหวัดเข้ามาช่วยเหลือกรณีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จนเหตุการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ
นายศุภชัย เพิ่มเติมว่า นโยบายด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม เป็นที่ ปตท. ได้ให้ความสำคัญและถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดควบคู่กับการดำเนินธุรกิจมาโดยตลอด และจากที่ ปตท. ได้มีการเฝ้าระวังและซักซ้อมการระงับเหตุฉุกเฉินอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกปี และมีการดำเนินการด้านความปลอดภัยในระดับมาตรฐานสากล จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในความปลอดภัยของ ปตท. ที่ดูแลสวัสดิภาพของสังคมส่วนรวมเสมอมา