กลุ่มทิสโก้โชว์ผลงานครึ่งปีแรกสุดโดดเด่น แม้ปัจจัยการเมืองกดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจและความเชื่อมั่น ยันปีนี้ผลงานเข้าเป้าหมายตามแผนแน่นอน ชี้ครึ่งปีหลังเดินหน้าลุยทุกธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมอัดแคมเปญ “เพื่อนเพียบ ดอกเบี้ยพุ่ง” บวกดอกเบี้ยเพิ่ม 2% ต่อ 1 บัญชีที่ลูกค้าเก่าแนะนำลูกค้าใหม่มาเปิดบัญชีเงินฝากซุปเปอร์ออมทรัพย์ ไม่จำกัดจำนวน มุ่งขยายฐานเงินฝากรายย่อย
นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (Mrs. Oranuch Apisaksirikul, CEO, TISCO Financial Group Plc.) เปิดเผยว่า ภาพรวมของการดำเนินธุรกิจในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ต้องเผชิญกับปัจจัยด้านลบโดยเฉพาะปัญหาการเมืองภายในประเทศ ที่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดหุ้นไทย รวมถึงความเชื่อมั่นทั้งของนักลงทุนและประชาชนทั่วไป ด้วยโครงสร้างธุรกิจ แบบรวมกลุ่ม และการดำเนินกลยุทธ์ที่มีความยืดหยุ่นสามารถปรับตัวรับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ค่อนข้างเร็ว ทำให้ผลประกอบการในไตรมาส 2 และงวดครึ่งปีแรกของบริษัทอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ตั้งแต่ช่วงต้นปี ธุรกิจต่างๆ ของกลุ่มทิสโก้สามารถสร้างผลงานที่โดดเด่น โดยทุกธุรกิจหลักของทิสโก้ได้รับรางวัลผลงานยอดเยี่ยมระดับสากล เริ่มจากธนาคารทิสโก้ ได้รับรางวัลบริษัทจดทะเบียนยอดเยี่ยมแห่งปี “Best Managed Company 2009 ประเภท บริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าตลาดขนาดเล็ก (Small Market Cap.)” จากนิตยสาร Asiamoney บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด ได้รางวัล “บริษัทจัดการกองทุน (บลจ.) ที่มีผลงานด้านกองทุนตราสารทุน (กองหุ้น) ยอดเยี่ยมของประเทศไทย ในรอบระยะเวลา 3 ปี (Best Equity Fund Group Over Three Years)” จาก Lipper Fund Awards 2010 และ ล่าสุดบริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ยังได้รับรางวัล “บริษัทหลักทรัพย์ยอดเยี่ยมของไทย (Best Domestic Equity House)” ประจำปี 2010 จากนิตยสาร Asiamoney อีกด้วย
“สำหรับครึ่งปีหลัง กลุ่มทิสโก้จะมุ่งเดินหน้าธุรกิจตามแผนงานที่ได้วางไว้ และคงเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 10% ไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากภาพรวมทางด้านเศรษฐกิจของไทยน่าจะมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้น รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนและประชาชนทั่วไปจะกลับมาได้ในระดับหนึ่ง” นางอรนุช กล่าว
ด้านนายสุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (Mr. Suthas Ruangmanamongkol, President, TISCO Bank Plc.) กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของธนาคารทิสโก้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะยังคงเติบโตได้ตามเป้าหมาย โดยในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อจะรักษาส่วนแบ่งการตลาด และรุกธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ ต่อเนื่อง นอกเหนือจากแคมเปญชิงโชคผลิตภัณฑ์สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ก็จะทยอยออกแคมเปญอื่นมาทำตลาด แต่จะไม่แข่งขันด้านราคา นอกจากนี้การตลาดรถยนต์ภายในประเทศเริ่มฟื้นตัวยังจะเป็นอีกแรงสนับสนุนให้การปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อของทิสโก้สามารถขยายตัวได้ตามเป้า
ด้านปริมาณเงินฝากที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นผลมาจากความสำเร็จจากผลิตภัณฑ์เงินฝากซุปเปอร์ออมทรัพย์ที่ได้รับการตอบรับที่ดีตั้งแต่ต้นปี ทำให้สัดส่วนเงินฝากประเภทเงินฝากออมทรัพย์และเผื่อเรียกต่อยอดเงินฝากรวมเพิ่มสูงขึ้นเป็น 38.2 % นอกจากนี้สัดส่วนจำนวนเงินฝากรายย่อยที่มียอดเงินฝากไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อเงินฝากรวมแบ่งตามรายชื่อลูกค้า ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2553 อยู่ในระดับสูงที่ 30.0% ส่วนช่วงที่เหลือของปีนี้ยังเชื่อว่ายอดเงินฝากจะยังมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ ช่วงที่ผ่านมา ธนาคารได้ตั้งสายงานธุรกิจธนบดี (Wealth Management) ขึ้นมาดูแลบริหารความมั่งคั่งให้แก่ลูกค้าสองกลุ่ม ได้แก่ ลูกค้ารายกลางที่มีเงินฝาก 1 ล้านบาทขึ้นไป และลูกค้ารายใหญ่ที่สนใจลงทุนตั้งแต่
20 ล้านบาทขึ้นไป โดยสายงานดังกล่าวจะเป็นศูนย์กลางแนะนำผลิตภัณฑ์การลงทุนอย่างครอบคลุมตั้งแต่เงินฝาก ตั๋วบีอี กองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล และซื้อขายหลักทรัพย์ ตามความต้องการของลูกค้า เน้นการบริการในลักษณะการเป็นที่ปรึกษาการลงทุนที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ทิสโก้ถนัดและมีความชำนาญ เพราะอยู่ในธุรกิจนี้มายาวนาน ประกอบกับปัจจุบันผลิตภัณฑ์การลงทุนของทิสโก้ ก็มีชื่อเสียงที่ดีในตลาด
นายชาตรี จันทรงาม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายควบคุมการเงินและบริหารความเสี่ยง บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (Mr. Chatri Chandrangam, CFO, TISCO Financial Group Plc.) กล่าวว่า ผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ปี 2553 ของกลุ่มทิสโก้ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 762.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 502.15 ล้านบาท สำหรับงวดครึ่งปีแรกของปี 2553 กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 1,475.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 519.04 ล้านบาท หรือ 54.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 956.12 ล้านบาท จากรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิที่เพิ่มขึ้น 29.6% ตามการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อรายย่อย และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น 44.9% เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารและธุรกิจวาณิชธนกิจ นอกจากนี้ อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ลดลงจาก 2.2% ณ สิ้นไตรมาสก่อน เป็น 2.0% ในไตรมาสนี้
โดยธุรกิจธนาคารพาณิชย์ มีเงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2553 จำนวน 128,001.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10,170.67 ล้านบาท หรือ 8.6 % จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 13.0% จากสิ้นปี 2552 ทั้งนี้มูลค่าของสินเชื่อรายย่อยมีจำนวน 97,876.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,098.98 ล้านบาท หรือ 5.5% เมื่อเทียบกับสิ้นไตรมาสที่แล้ว โดยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่อนุมัติใหม่มีจำนวน 14,111.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,653.85 ล้านบาท หรือ 34.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2552 ในส่วนของสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ (ทิสโก้ออโต้แคช) ก็เติบโตอย่างมากเช่นเดียวกัน โดยเพิ่มขึ้น 719.36 ล้านบาท หรือ 22.9% จาก 3,140.5 ล้านบาท เป็น 3,859.87 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2553 นอกจากนี้ สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เติบโตเพิ่มขึ้น 1,605.19 ล้านบาท จาก 14,048.13 ล้านบาท เป็น 15,653.32 ล้านบาท หรือ 11.4% จากไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีการเติบโตด้วยเช่นกัน โดยมีมูลค่าสินเชื่อ 5,279.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 632.71 ล้านบาท หรือ 13.6% เมื่อเทียบกับสิ้นไตรมาสที่แล้ว
ธุรกิจหลักทรัพย์ ไตรมาส 2 ปี 2553 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์มีความผันผวนเป็นอย่างมากเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมือง มูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยต่อวันของบล. ทิสโก้ เพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ในขณะที่ส่วนแบ่งตลาดเฉลี่ยโดยไม่รวมบัญชีซื้อขายบริษัทหลักทรัพย์ลดลงจาก 2.97% เป็น 2.81 % โดยส่วนใหญ่เป็นการลดลงของส่วนแบ่งตลาดของลูกค้าสถาบันต่างประเทศ ส่วนธุรกิจวาณิชธนกิจ บล.ทิสโก้มีรายได้ค่าธรรมเนียมในไตรมาส 2 ปี 2553 จำนวน 158.23 ล้านบาท จากความสำเร็จในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการจำหน่ายหุ้นธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ให้กับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ธุรกิจจัดการกองทุน บลจ. ทิสโก้ มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2553 จำนวน 134,449.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบกับสิ้นไตรมาสที่แล้ว แบ่งเป็นสัดส่วนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 56.5% กองทุนส่วนบุคคล 31.2% และกองทุนรวม 12.3% โดยมีส่วนแบ่งตลาด ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2553 ที่ 5.4% หรือ เป็นอันดับที่ 6 ของอุตสาหกรรม ทั้งนี้ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และกองทุนส่วนบุคคลของบลจ. ทิสโก้อยู่ในอันดับ 2 ของอุตสาหกรรม โดยมีส่วนแบ่งตลาด 14.1% และ 17.2% ตามลำดับ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เสาวนีย์ สันทบ, ชลิตา ตันตยานนท์
ฝ่ายนิเทศสัมพันธ์ บมจ. ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
โทร. 02 633 6906, 6909
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
อรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้, สุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ และ ชาตรี จันทรงาม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายควบคุมการเงินและบริหารความเสี่ยงกลุ่มทิสโก้ ร่วมแถลงข่าวสรุปผลประกอบการครึ่งปีแรกของกลุ่มทิสโก้ ซึ่งมีการขยายตัวอย่างโดดเด่นในทุกธุรกิจ และมั่นใจสินเชื่อรวมปีนี้จะขยายตัวตามเป้าหมาย 15% พร้อมเปิดกลยุทธ์การดำเนินงานครึ่งปีหลังยังมุ่งเดินหน้าตอบโจทย์การเงินแก่ลูกค้าทุกกลุ่ม ภายใต้แนวคิด "ออกแบบความมั่งคั่งให้ชีวิต" ณ อาคารทิสโก้ทาว
บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป นำโดยอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (กลาง), สุทัศน์ เรืองมานะมงคล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ (ขวา) และ ชาตรี จันทรงาม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายควบคุมการเงินและบริหารความเสี่ยงกลุ่มทิสโก้ (ซ้าย) ร่วม...
กลุ่มทิสโก้โชว์ผลงานครึ่งปีแรกสุดโดดเด่น แม้ปัจจัยการเมืองกดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจและความเชื่อมั่น ยันปีนี้ผลงานเข้าเป้าหมายตามแผนแน่นอน ชี้ครึ่งปีหลังเดินหน้าลุยทุกธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมอัดแคมเปญ “เพื่อนเพียบ ดอกเบี้ยพุ่ง” บวกดอก...
คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 8/2561 เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2561 ได้มีมติแต่งตั้ง นายจรัมพร โชติกเสถียร นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล และนายเสรี นนทสูติ เป็นกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แทนกรรมการที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 1...