CYBER รุกหนักธุรกิจสถาบันเสริมทักษะการเรียนรู้สำหรับเด็ก “Geniusplanet” ทั้งขยายสาขาเองและเปิดขายแฟรนไชส์ วางเป้า 12 เดือนนับจากนี้เปิดเองอีก 30 สาขา และในส่วนที่เป็นแฟรนไชส์ปัจจุบันมี ผู้จองเข้ามาแล้ว ภาคตะวันออก 30 สาขา และกรุงเทพฯ 15 สาขา “ชนินทร์เดช วานิชวงศ์” เผยวางเป้าปีแรกมีสัดส่วนรายได้ 35-45% ของรายได้รวม ส่วนภาพรวมผลประกอบการปี 2553 มั่นใจเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยธุรกิจในส่วนของการผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์เกมส์ยังไปได้สวย โดยได้รับโปรเจ็คท์ใหม่อย่างต่อเนื่อง
นายชนินทร์เดช วานิชวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด (มหาชน) หรือ CYBER เปิดเผยถึงธุรกิจในส่วนสถาบันเสริมทักษะการเรียนรู้สำหรับเด็กภายใต้ชื่อเครื่องหมายการค้า “Geniusplanet” มีความคืบหน้าไปมากในด้านการขยายธุรกิจ ทั้งส่วนที่ดำเนินการโดย CYBER เอง และส่วนที่ขายเป็นแฟรนไชส์
ทั้งนี้ในส่วนที่ดำเนินการโดย CYBER วางเป้าหมายภายในระยะ 12 เดือนจากนี้เตรียมจะเปิดให้ได้ถึงประมาณ 30 สาขาก่อน โดยจะเปิดตามจังหวัดใหญ่ๆ ของแต่ละภาคทั่วประเทศ และในส่วนการขายแบบ แฟรนไชส์ ปัจจุบันมีผู้จองเข้ามาแล้ว ภาคตะวันออก 30 สาขา และกรุงเทพฯ 15 สาขา
สำหรับวิชาที่สอนในปัจจุบัน คือ การสอนวิชาภาษาอังกฤษ ในเรื่องของหลักไวยากรณ์ และคำศัพท์ สำหรับเด็ก ประถม 1-6 และเร็วๆ นี้ จะมีวิชาที่สองออกมา คือ Brain Training ซึ่งเป็นวิชาที่จะช่วยพัฒนาสมองของเด็กๆ ทั้ง 4 ด้าน และในอนาคตจะพัฒนาหลักสูตรคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ซึ่งทุกวิชาจะสอนอยู่บนเครื่องคอมพิวเตอร์พกพา และอยู่ภายใต้ Concept หลักของ Geniusplanet คือ ความรู้ คู่ความสนุก
“ก่อนหน้านี้ Geniusplanet เปิดตัวไปแล้ว 3 สาขา คือ ที่เซ็นทรัล ชิดลม (ชั้น 8 ชิดลม ทาวเวอร์), เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ และ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดีมาก เด็กที่เข้ามาเรียน Turn over เท่ากับศูนย์ คือ ไม่มีเด็กออกเลยหลังจากที่สมัครเรียนกับเรา และภายในไตรมาส 3/53 เราเตรียมจะเปิดสาขาเพิ่มขึ้นอีก 5 แห่ง ได้แก่ บางนา, รามคำแหง, ประเวศ, วัฒนา และหลักสี่ สำหรับแผนงานในอนาคตเรามีเป้าหมายที่จะเปิดให้ได้ครอบคลุมทุกภาคของประเทศ และจะขยายเข้าไปทุกจังหวัด และถ้าเป็นจังหวัดใหญ่ ก็อาจจะเปิดมากกว่า 1 สาขา เพื่อความสะดวกของลูกค้า โดยดูจากจำนวนนักเรียนในแต่ละพื้นที่เป็นหลัก”
เขากล่าวต่อว่า สถาบันเสริมทักษะการเรียนรู้สำหรับเด็ก Geniusplanet เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง เนื่องจากเป็นธุรกิจด้านการศึกษา ซึ่งผู้ปกครองให้ความสำคัญในเรื่องนี้อยู่แล้ว และ Geniusplanet ยังเป็นธุรกิจการศึกษาที่มีรูปแบบการเรียนการแนวใหม่ ที่มีความโดดเด่น ไม่เหมือนใคร เพราะเป็นสถาบันที่มีเทคนิคการสอนแบบใหม่ และยากที่จะลอกเลียนแบบ ด้วยการใช้คอมพิวเตอร์พกพารายแรกของโลก พร้อมหลักสูตรซึ่งออกแบบให้เด็กสนุกกับการเรียนรู้ และลดความเบื่อหน่ายในการทำแบบฝึกหัด จนสามารถท่องศัพท์ได้ถึง 2,000 คำ และเข้าใจหลักไวยากรณ์อังกฤษระดับ ป. 1-6 โดยมีแบบฝึกหัดกว่า 10,000 ข้อ ทำให้เด็กๆ เรียนรู้หลักสูตรทั้ง 6 ปี ได้ ภายในเวลาเพียง 16 เดือน ทำให้มีผู้สนใจ และมีผลตอบรับค่อนข้างดี
“คาดว่า Geniusplanet จะสร้างรายได้ให้ CYBER ประมาณ 35 – 45% ของรายได้ทั้งหมดในปีนี้ และในอนาคตคาดว่าจะขยายตัวจนกระทั่งเป็นหนึ่งในรายได้หลักของบริษัท โดยมีสัดส่วนประมาณ 50-60% และสำหรับผลประกอบการโดยรวมในปี 2553 ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ โดยเฉพาะธุรกิจการผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์เกมส์ ซึ่งขยายตัวดีโดย CYBER ได้รับโปรเจ็คท์ใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาเกมส์ส์เพื่อจำหน่ายสำหรับ Console, PC และ Facebook” นายชนินทร์เดช กล่าวในที่สุด
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net