“ทิพย” สวนกระแสโจรกรรมATM ออกบัตรเดบิต KTB Shop Smart Pearl Card

ทิพยประกันภัย จับมือธนาคารกรุงไทย เปิดหน้าสู้การโจรกรรมATM ที่เพิ่มมากขึ้น ออกบัตรเดบิต KTB Shop Smart Pearl Card ที่ให้ทั้งความคุ้มครองอุบัติเหตุและยังคุ้มครองเงินที่ถูกโจรกรรมจากการทำธุรกรรมผ่านระบบ ATM เป็นรายแรก เชื่อมั่นยอดรวมถึง 10,000 ล้าน ย้ำชัดปีนี้กำไรมากกว่าปีที่แล้ว นายมารุต สิมะเสถียร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัททิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ในปัจจุบันการใช้บริการตู้เอทีเอ็มกลายเป็นจุดเสี่ยงในการโจรกรรมทั้งขณะกดตู้ด้วยการแย่งชิงเงินหรือการโจรกรรมจากข้อมูลบัตรเอทีเอ็มด้วยเหตุนี้บริษัทฯจึงได้จับมือกับธนาคารกรุงไทยออกบัตรเดบิต KTB Shop Smart Pearl Card ที่ ที่ให้ทั้งความคุ้มครองอุบัติเหตุและยังคุ้มครองเงินที่ถูกโจรกรรมจากการทำธุรกรรมผ่านระบบATM ถือเป็นรายแรกที่ให้ความคุ้มครองดังกล่าว “โดยลูกค้าที่ใช้บัตร KTB Shop Smart Pearl Card แล้วถูกโจรกรรมเงินจากบัตรเดบิต ในขณะกดเงินที่ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ ภายใน 30 นาที หลังจากกดเงินที่ตู้ ATM หรือการถูกโจรกรรมเงินจากบัญชีธนาคารด้วยข้อมูลบัตรเดบิตในวงเงิน 5,000 บาทต่อครั้ง ไม่เกิน 10,000 บาทต่อปีจะได้รับความคุ้มครองในส่วนนี้ด้วย ซึ่งการคุ้มครองจุดนี้ถือว่าเราเป็นรายแรกที่มองเห็นความเสี่ยงของลูกค้าและออกประกันแบบนี้ออกมา” นายมารุต กล่าวต่อไปอีกว่านอกจากนั้นแล้วบัตรเดบิต KTB Shop Smart Pearl Card ยังให้ความคุ้มครอง ผลประโยชน์จากการเสียชีวิต การสูญเสียอวัยวะ หรือสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงจากอุบัติเหตุ จำนวน 100,000 บาท, ผลประโยชน์จากการถูกฆาตกรรม หรือทำร้ายร่างกาย 30,000 บาท, ผลประโยชน์จากอุบัติเหตุขณะขับขี่ หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ 30,000 บาท และการรักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ ขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ รวมการถูกฆาตกรรมหรือทำร้ายร่างกาย 5,000 บาท ต่อครั้ง นายมารุต กล่าวอีกว่าจากข้อมูลของธนาคารกรุงไทยพบว่าในปัจจุบันธนาคารมีบัตรเดบิตประมาณ 3.5 ล้านบัตร และ ตั้งเป้าขยายฐานบัตรเพิ่มขึ้นในปีนี้อีก 7.5 แสนบัตร โดยลูกค้าผู้ถือบัตรเดบิตส่วนใหญ่จะใช้กดเงินสดมากกว่าการชำระค่าสินค้า ใช้บัตรเดบิตเพื่อกดเงินสดมีสูงถึง 1.6 ล้านล้านบาท ขณะที่ใช้บัตรเดบิตเพื่อรูดซื้อสินค้าประมาณ 5,000 ล้านบาทซึ่งคิดเป็นเพียง3 % ของฐานบัตรทั้งหมดซึ่งจากพฤติกรรมผู้บริโภคการใช้บัตรเดบิตเช่นนี้เป็นเหตุผลสำคัญในการที่บริษัทฯร่วมในการออกบัตร KTB Shop Smart Pearl Card และคิดการคุ้มครองแบบนี้ขึ้นมา “การเข้าร่วมกับพันธมิตรการค้าและออกกรมธรรม์ใหม่ร่วมทั้งการพัฒนารูปแบบกรมธรรม์อย่างต่อเนื่องทำให้เป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ว่าในปี2553จะมีเป้ารวมถึง 10,000 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกสามารถทำยอดได้ราว 4,000-5,000 ล้านบาทคาดว่าในครึ่งปีหลังน่าจะไม่ต่ำกว่าครึ่งปีแรก ส่วนกำไรก็น่าจะมากกว่าปีที่แล้วค่อนข้างมาก โดยล่าสุดบริษัทได้มีแผนขยายตลาดประกันภัยรถยนต์อีกครั้งหลังชะลอการทำตลาดมา 2 ปี” นายมารุต กล่าวทิ้งท้าย ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ทิพยประกันภัยจำกัด (มหาชน) คุณศุภกิจ จิตร์เพิ่มพูลผล (โต้ง) มือถือ 089-813-4026, คุณพัทธนันท์ สายสวัสดิ์(อ้อม)มือถือ 089-813-3891 หรือบริษัท ชัยพีอาร์ จำกัด คุณหทัยกาญจน์ คนขยัน (ต่าย) มือถือ 087-707-5667

• ข่าวมารุต สิมะเสถียร
• ข่าวธนาคารกรุงไทย
• ข่าวทิพยประกันภัย
• ข่าวบัตรเอทีเอ็ม
• ข่าวธนาคารกรุงไท