ปภ.เตือน 28 จังหวัดภาคเหนือ อีสานระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและลูกเห็บตก ส่วน 8 จังหวัดภาคใต้เตรียมรับมือพายุฝนฟ้าคะนองและคลื่นลมแรง

17 Mar 2010

กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--ปภ.

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสาน 28 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือแจ้งเตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมือพายุฤดูร้อน พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกในช่วงวันที่ 17-18 มีนาคม 2553 ส่วน 8 จังหวัดภาคใต้ให้เตรียมการรับมือพายุฝนฟ้าคะนองและ คลื่นลมแรงในระยะ 2-3 วันนี้ (วันที่ 17-19 มีนาคม 2553)

นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า ช่วงวันที่ 17-18 มีนาคม 2553 ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้พื้นที่ 28 จังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ ตาก กำแพงเพชร หนองบัวลำภู เลย หนองคาย อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ และชัยภูมิ มีสภาพอากาศแปรปรวน เกิดพายุฤดูร้อน พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก ประกอบกับความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้กระแสลมแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยในพื้นที่ภาคใต้ 8 จังหวัดของประเทศไทย ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ทำให้ทะเลฝั่งอ่าวไทยมีคลื่นลมแรง และห่างฝั่งบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูง สำหรับจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานให้เตรียมการป้องกันอันตรายจากพายุฤดูร้อน พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก ซึ่งอาจทำให้อาคารบ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากพายุลมแรง พร้อมประสานผู้ว่าราชการจังหวัดกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบป้ายโฆษณาและสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรง หากพบว่าไม่ปลอดภัยหรือติดตั้ง โดยไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยเคร่งครัด รวมถึงตัดแต่งกิ่งไม้ใหญ่ที่ไม่แข็งแรง เพื่อป้องกันการโค่นล้มทับบ้านเรือนได้รับความเสียหาย ทั้งนี้หากมีประกาศแจ้งเตือนพายุฤดูร้อนหรือลูกเห็บตกให้เก็บสิ่งของที่สามารถปลิวไปตามลมได้ ในที่มิดชิด ไม่อยู่ใกล้บริเวณวัตถุที่เป็นสื่อนำไฟฟ้าและไม่สวมใส่เครื่องประดับ เช่น ทองคำ เงิน เป็นต้น งดเว้นการใช้โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดในขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า ทำให้ได้รับอันตรายถึงชีวิตได้ อีกทั้งเกษตรกรควรจัดเตรียมสถานที่ปลอดภัยไว้ให้สัตว์เลี้ยง และจัดทำที่ค้ำยันต้นไม้ โดยเฉพาะกิ่งที่กำลังผลิดอกออกผล เพื่อป้องกันผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย

นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า ปภ.ได้ประสานให้จังหวัด 8 ภาคใต้ดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนเตรียมการป้องกันอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและคลื่นลมแรงที่อาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน โดยหมั่นติดตามพยากรณ์อากาศจาก กรมอุตุนิยมวิทยา รวมทั้งสั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดและรายงานสถานการณ์ภัยที่เกิดขึ้นให้ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯทราบ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที หากเกิดสถานการณ์รุนแรง ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันภัยของจังหวัดและอำเภอ ส่วนคลื่นลมบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง และชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ สุดท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อน พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และคลื่นลมแรง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป