MILL ลุ้นปีนี้รายได้แตะ 1.2 หมื่นล.เหตุราคาเหล็กเริ่มขยับ หลัง Q1/2553 ยอดเยี่ยมโชว์กำไรสุทธิไตรมาสแรกพุ่ง 138%

18 May 2010

กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--IR PLUS

บมจ.มิลล์คอนสตรีลอินดัสทรีส์ หรือ MILL ไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวัง โชว์ผลประกอบการไตรมาส แรกปีนี้กำไรสุทธิ 33.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 138.17% จากปีก่อน “สิทธิชัย ลีสวัสด์ตระกูล” แจงเป็นผลมาจากราคา ผนวกกับการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผลงานออกมาดีเยี่ยม เผยแนวโน้มราคาเหล็กยังเป็นขาขึ้นซึ่งจะส่งผลดีต่อการดำเนินงานในอนาคต พร้อมมั่นใจสิ้นปีนี้รายได้แตะ 1.2 หมื่นลบ. ตามเป้าหมาย

นายสิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มิลล์คอนสตีลอินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MILL เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสที่ 1/2553 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2553 มีกำไรสุทธิ 33.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 138.17 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2552 สาเหตุที่ทำให้ผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น เนื่องจาก บริษัทฯ มีประสิทธิภาพในการบริหารงานที่เพิ่มขึ้น รายได้จากการขายสินค้าได้เพิ่มมากขึ้น และ MILL ยังคงเดินหน้าขยายตลาดอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน ทั้งตลาดในและต่างประเทศ ไปพร้อม ๆ กับพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มี value Added และตรงกับความต้องการของตลาดมากที่สุด นอกจากนั้นก็ยังมุ่งดำเนินธุรกิจอย่างรัดกุม ด้วยการลดต้นทุนในการผลิตให้ต่ำที่สุด เพิ่มมาตรการป้องกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมุ่งสร้างสรรค์กิจกรรม และความสัมพันธ์อันดี เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน และสังคมโดยรวมด้วย เพื่อให้ทั้งธุรกิจและสังคมเติบโตและพัฒนาควบคู่ไปด้วยกัน

“ผลประกอบการในไตรมาสแรกปีนี้ ถือว่าน่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 138% ซึ่งนั่นเป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนักของทีมผู้บริหารและพนักงานทุกคน เพื่อที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นให้มากที่สุด ผนวกกับในช่วงที่ผ่านมาราคาเหล็กเริ่มขยับขึ้น และ MILL ก็สามารถบริหารจัดการในเรื่องต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสำหรับแนวโน้มในไตรมาส 2 ปีนี้ คาดว่ายังจะขยายตัวดีต่อเนื่องจากปัจจัยบวกที่สนับสนุนไม่ว่าจะเป็นความต้องการใช้เหล็กที่มีต่อเนื่อง และการบริหารจัดการภายในองค์กรที่มีประสิทธิภาพของ MILL เอง”

สำหรับแนวโน้มในอนาคตเชื่อว่า MILL จะสามารถผลักดันผลการดำเนินงานให้ขยายตัวดีต่อเนื่องได้ เพราะแนวโน้มของราคาเหล็กในอนาคตยังอยู่ในช่วงขาขึ้นจากความต้องการใช้เหล็กของลูกค้าในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และออสเตรเลีย ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลบวกต่อธุรกิจอย่างมาก โดยในปัจจุบัน MILL มี Backlog order อยู่ที่ประมาณ 80,000 ตัน ซึ่งคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ดังนั้นคาดว่าจะผลักดันให้รายได้ในปีนี้ของบริษัทฯ แตะที่ระดับ 12,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการขยายตัวร้อยละ 10 ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ: IR Network

คุณณัฐสินี ระเบียบนาวีนุรักษ์ (เก๋) e-mail: [email protected]

คุณณัฐพงษ์ ใจแกล้ว (มิกซ์) e-mail : [email protected]

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net