กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมพร้อมรับมือพายุหมุนเขตร้อนที่อาจเคลื่อนตัวผ่านประเทศไทยในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคมนี้ โดยหมั่นติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด ตรวจสอบสภาพบ้านเรือนให้มั่นคงแข็งแรง จัดเตรียมเครื่องอุปโภคบริโภคไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ในขณะที่เกิดพายุห้ามออกไปอยู่ในที่โล่งแจ้งเพราะอาจได้รับอันตรายจากสิ่งของที่ปลิวมาตามลม
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ในแต่ละปีประเทศไทย จะได้รับผลกระทบจากพายุหมุนเขตร้อนกำลังปานกลางและอ่อนกำลังผ่านเข้ามาเฉลี่ยปีละ ๒ - ๓ ลูก โดยจากสถิติพายุหมุนเขตร้อนในรอบ ๕๘ ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๔ - ๒๕๕๑ พบว่า มีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวผ่านเข้าสู่ประเทศไทย จำนวน ๔๖ ลูก จาก ๑๘๓ ลูก คิดเป็นร้อยละ ๒๕.๑ ของพายุที่เคลื่อนตัวผ่าน ซึ่งพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะได้รับผลกระทบในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม ในขณะที่พื้นที่ภาคใต้ของไทย จะได้รับผลกระทบจากพายุหมุนเขตร้อนที่ก่อตัวบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม โดยพื้นที่ที่พายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวผ่านจะมีฝนตกหนักพายุลมแรง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยได้ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือพายุหมุนเขตร้อน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยปฏิบัติตน ดังนี้ ก่อนเกิด หมั่นติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาหรือประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานภาครัฐอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างบริเวณรอบบ้านให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง หากพบต้นไม้ ป้ายโฆษณาและเสาไฟฟ้าอยู่ในสภาพเสี่ยงต่อการหักโค่นให้แจ้งหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขโดยด่วน พร้อมทั้งจัดเตรียมเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ตลอดจนควรย้ายปลั๊กไฟให้สูงกว่าระดับน้ำท่วมถึง และเข้าร่วมการฝึกซ้อมการอพยพหนีภัยที่หน่วยงานต่างๆจัดขึ้น ขณะเกิด ผู้ที่อาศัยในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งที่ลาดเชิงเขา ที่ราบลุ่มริมแม่น้ำและใกล้ทางน้ำไหล ควรหลบในอาคารที่มั่นคงแข็งแรง ปิดประตู หน้าต่างอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันแรงลมพัดสิ่งของภายในบ้านเสียหาย ไม่ออกไปอยู่ในที่โล่งแจ้งเพราะอาจได้รับอันตรายจากกิ่งไม้ ใบไม้ สังกะสีและกระเบื้องที่ปลิวมาตามลมได้ พร้อมทั้งหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ หากน้ำเปลี่ยนเป็นสีเดียวกับดินบนภูเขา ระดับน้ำในลำน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มีเสียงดังมาจากป่าต้นน้ำ สัตว์ป่าแตกตื่นให้รีบอพยพขึ้นที่สูงตามเส้นทางที่กำหนด ส่วนผู้ที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเล ผู้ประกอบการและชาวประมง ควรอพยพไปอยู่ในพื้นที่ห่างจากชายฝั่ง ไม่นำเรือออกจากฝั่ง เพราะช่วงที่พายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวผ่านจะมีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง อาจทำให้เรือล่มกลางทะเลได้ หลังเกิด ไม่ควรรีบออกไปในที่โล่งแจ้ง ควรรอจนกว่าพายุสงบภายในบ้านอย่างน้อย ๒ - ๓ ชั่วโมง หากพบเห็นสายไฟฟ้าขาด เสาไฟฟ้าล้ม ไม่ควรเข้าใกล้บริเวณดังกล่าวหรือนำไม้ไปเขี่ยอย่างเด็ดขาด เพราะอาจได้รับอันตรายจากไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าช๊อตจนเสียชีวิต ท้ายนี้ ขอเตือนให้ประชาชนติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศ เตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อลดความรุนแรง ความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินจากภัยพิบัติ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit