ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ที่ออกโดย SICCO 2 และ SICCO 3 พร้อมทั้งให้อันดับ Loss Severity

01 Oct 2009

กรุงเทพฯ--1 ต.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัทซิกโก้ นิติบุคคลเฉพาะกิจ 2 จำกัด (SICCO 2) และบริษัทซิกโก้ นิติบุคคลเฉพาะกิจ 3 จำกัด (SICCO 3) พร้อมทั้งให้อันดับ loss severity ดังต่อไปนี้

SICCO 2

  • หุ้นกู้มูลค่า 1.16 พันล้านบาท ที่ระดับ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ อันดับ loss severity ที่ ‘LS-1’ โดยมีวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันสุดท้ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2556

SICCO 3

  • หุ้นกู้มูลค่า 930 ล้านบาท ที่ระดับ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ อันดับ loss severity ที่ ‘LS-1’ โดยมีวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันสุดท้ายในเดือนเมษายน 2555

การประกาศคงอันดับเครดิตของหุ้นกู้ทั้งสองโครงการแสดงถึง ผลการดำเนินงานของกลุ่มลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์ภายใต้โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ทั้งสองที่ยังอยู่ในระดับที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับสมมติฐานพื้นฐานของฟิทช์ และความสามารถของโครงการที่รักษาระดับของส่วนช่วยสนับสนุนเครดิต (credit enhancement) ให้สอดคล้องกับอันดับเครดิต ‘AAA(tha)’ ได้นับตั้งแต่วัน closing จากสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลงส่งผลให้การผิดนัดชำระหนี้ของกลุ่มลูกหนี้ภายใต้โครงการสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม อัตราการผิดนัดชำระหนี้สะสม (cumulative default rate) ของกลุ่มลูกหนี้ภายใต้โครงการทั้งสองยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับสมมติฐานพื้นฐานของฟิทช์และจากรายงานของตัวแทนเรียกเก็บหนี้เดือนสิงหาคม 2552 อัตราการผิดนัดชำระหนี้ (delinquency and default ratio) ของกลุ่มลูกหนี้ภายใต้โครงการทั้งสอง อยู่ในระดับที่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของระดับที่จะเป็นเหตุให้มีการทยอยคืนเงินต้นของหุ้นกู้ก่อนกำหนด (early amortisation event)

ผลการดำเนินงานของกลุ่มลูกหนี้ภายใต้โครงการทั้งสอง ได้รับผลกระทบจากประเภทของลูกหนี้เช่าซื้อและประเภทรถยนต์ภายใต้โครงการ โดยลูกหนี้เช่าซื้อส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้เช่าซื้อในต่างจังหวัด ซึ่งโดยทั่วไปจะมีความอ่อนไหวต่อสภาพเศรษฐกิจมากกว่าลูกหนี้เช่าซื้อในกรุงเทพฯ ในขณะที่ผลการดำเนินงานของรถประเภทรถบรรทุก (ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนร้อยละ 12 ของยอดลูกหนี้รวมสำหรับ SICCO 2 และร้อยละ 14 สำหรับ SICCO 3) ได้รับผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจอย่างมาก ส่งผลให้อัตราการผิดนัดชำระหนี้ของรถบรรทุกเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา

เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแออย่างต่อเนื่อง ฟิทช์ได้ทดลองใช้นิยามการผิดนัดชำระหนี้ที่เข้มงวดขึ้นเพื่อเป็นตัวบ่งชี้ถึงอัตราการผิดนัดชำระหนี้ในอนาคต โดยถือว่าลูกหนี้เช่าซื้อที่ค้างชำระหนี้เกิน 90 วันเป็นลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ (จากนิยามที่ใช้ในสมมติฐานพื้นฐานซึ่งคิดจากลูกหนี้เช่าซื้อที่ค้างชำระหนี้เกิน 180 วัน) ซึ่งปรากฏว่า อัตราการผิดนัดชำระหนี้สะสมของลูกหนี้สำหรับ SICCO 2 อยู่ต่ำกว่าระดับสมมติฐานพื้นฐานของฟิทช์ไม่มากนัก ในขณะที่อัตราการผิดนัดชำระหนี้สะสมของลูกหนี้สำหรับ SICCO 3 ยังคงต่ำกว่าระดับที่ฟิทช์ใช้ในสมมติฐานพื้นฐานพอสมควร

แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบของ SICCO 2 สะท้อนถึงความกังวลของฟิทช์ต่อแนวโน้มที่อ่อนตัวลงของผลการดำเนินงานของกลุ่มลูกหนี้ ซึ่งถ้ายังคงดำเนินไปในลักษณะเช่นนี้ อาจส่งผลกระทบต่อระดับของส่วนช่วยสนับสนุนเครดิตของ SICCO 2 ได้ เนื่องจากอัตราการผิดนัดชำระหนี้สะสมของลูกหนี้สำหรับ SICCO 2 อยู่ต่ำกว่าระดับสมมติฐานพื้นฐานของฟิทช์ไม่มากนัก ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพของ SICCO 3 สะท้อนถึงการคาดการณ์ของฟิทช์ว่าอัตราการผิดนัดชำระหนี้สะสมของลูกหนี้สำหรับ SICCO 3 ที่ยังอยู่ต่ำกว่าระดับที่ฟิทช์ใช้ในสมมติฐานพื้นฐานพอสมควร จะเพียงพอที่จะสนับสนุนอันดับเครดิตของ SICCO 3 ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอได้

โครงการออกหุ้นกู้ทั้งสอง เป็นโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ประเภทลูกหนี้เช่าซื้อรถยนต์โครงการที่สองและสามของบริษัทเงินทุน สินอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ SICCO โดย SICCO ยังคงทำหน้าที่เป็นผู้เรียกเก็บหนี้และมีธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ (อันดับเครดิต ‘AA’/‘F1+’/แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ) ทำหน้าที่ตัวแทนสำรองการเรียกเก็บหนี้สำหรับทั้งสองโครงการ ในขณะนี้โครงการทั้งสองอยู่ในช่วงของการทยอยชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้ตามปกติ (controlled amortisation period)

อันดับเครดิตของฟิทช์แสดงถึงความสามารถในการชำระดอกเบี้ยตามที่กำหนด และชำระคืนเงินต้นได้ครบภายในวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้วันสุดท้าย ฟิทช์มีการประกาศให้แนวโน้มอันดับเครดิต (rating outlook) สำหรับโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2551 โดยแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นตัวบ่งชี้ถึงทิศทางการเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งต่างจากเครดิตพินิจ (rating watch) ที่เป็นตัวบ่งชี้ถึงการมีความเป็นไปได้ที่อันดับเครดิตจะมีการเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาสั้นสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์บางอย่าง

รายละเอียดของหลักเกณฑ์ในการจัดอันดับเครดิตสามารถหาได้จาก www.fitchratings.com ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้จากรายงาน ‘Global Structured Finance Rating Criteria’ วันที่ 30 กันยายน 2552 และ ‘Criteria for Structured Finance Loss Severity Ratings’ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552

สำหรับรายงานฉบับสมบูรณ์ของทั้ง 2 โครงการจะถูกจัดทำภายหลังและสามารถหาได้จากเว็บไซต์ของฟิทช์

หมายเหตุ: การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) เป็นการวัดระดับความน่าเชื่อถือในเชิงเปรียบเทียบกันระหว่างองค์กรในประเทศนั้นๆ โดยจะใช้ในประเทศที่อันดับเครดิตแบบสากลของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ อันดับเครดิตขององค์กรที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ ‘AAA’ และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับองค์กรที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อใช้ในตลาดในประเทศเป็นหลักและจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น ‘AAA(tha)’ ในกรณีของประเทศไทย ดังนั้นอันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถใช้เปรียบเทียบระหว่างประเทศได้

ติดต่อ : ประมุข มาลาสิทธิ์, อรวรรณ การุณกรสกุล, วินเซนต์ มิลตัน +662 655 4755