“ไม่พร้อม…ต้องพูด” บทเรียนสอนหญิงป้องกัน “ท้องไม่พร้อม” ในวันคุมกำเนิดโลก 52

06 Oct 2009

กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--เวิรฟ

“อย่าดีกว่า เดี๋ยวคนอื่นเขาก็มาเห็นหรอก”

“เกิดคนอื่นเขารู้ ฉันจะเสียหาย”

“เอาไว้วันหลังละกัน”

“ไม่ได้หรอก ฉันกำลังมีเมนส์”

“ถ้าเกิดท้องขึ้นมา จะให้ฉันทำยังไง”

“ไม่ ถ้าขืนเธอทำอะไรฉัน ฉันจะร้องให้คนช่วย ติดคุกไม่รู้นะ”

นี่เป็นตัวอย่างของ “การพูดปฏิเสธ” ที่วัยรุ่นหญิงใช้บ่อยที่สุดจากสถานการณ์จำลอง “เซ็กซ์ ซีนาริโอ” ในกิจกรรมรณรงค์ “วันคุมกำเนิดโลก 52” ที่จัดขึ้นอันสืบเนื่องมาจากผลสำรวจความคิดเห็นของวัยรุ่นชายหญิงระดับอุดมศึกษาจำนวน 2,617 คนทั่วประเทศ แบ่งเป็น ชาย 630 คน หญิง 1,987 คน ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม – 15 กันยายน 2552 พบว่าส่วนสถานที่ที่นำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์มากที่สุดได้แก่ หอพัก/อพาร์ตเม้นท์ร้อยละ 44 โรงแรมหรือที่พักหลังจัดงานปาร์ตี้/เที่ยวกลางคืน ร้อยละ 28 ต่างจังหวัดร้อยละ 15 และอื่นๆ ร้อยละ 13…และสาเหตุหลักที่ทำให้ยอมมีเพศสัมพันธ์ในขณะอยู่ในวัยเรียนนั้นมาจาก ความรักและปฏิเสธไม่ได้

นี่อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาท้องไม่พร้อมและแท้งในวัยเรียนก็เป็นได้ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าร้อยละ 36-43 ของวัยรุ่นหญิงชายไทยมีเพศสัมพันธ์แล้ว และอายุการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ มารดาวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี มีร้อยละ 19.2 ของการคลอดทั้งหมด หรือประมาณ 150,000 คนต่อปีนอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ที่เข้ารับการรักษาภาวะแทรกซ้อนจากการทำแท้งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีถึงร้อยละ 30 นับว่าเป็นอุบัติการณ์ทางสังคมที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ปัญหานี้เริ่มเห็นได้ชัดขึ้นจากกระแสสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป เริ่มตั้งแต่ สถาบันครอบครัวที่ถูกรุมเร้าจากความตึงเครียดทางเศรษฐกิจ ผลพวงจากกระแสวัตถุนิยม สังคมมีพื้นที่สาธารณะรองรับกิจกรรมของวัยรุ่นลดลง รวมทั้งสื่อตะวันตกที่เข้ามาแทรกซึมในวัฒนธรรมไทยมากขึ้น แม้กระทั่งเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นที่ถูกนำเสนอเพิ่มมากขึ้น รวมถึงภาพล่อแหลมและสื่อลามกที่มีอยู่เกลื่อนกลาดหาซื้อได้ง่ายทำให้ค่านิยมในเรื่องความรักและการมีเพศสัมพันธ์เปลี่ยนไปจาก “เซ็กซ์เมื่อพร้อม” เป็น “พร้อมมีเซ็กซ์”

จากเรื่องจริงดังกล่าว สภาวิชาการคุมกำเนิดแห่งภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข วิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และกลุ่มธุรกิจ ไบเออร์ เชริง ฟาร์มา บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด จึงได้ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์วันคุมกำเนิดโลกปี 2552 (World Contraception Day 2009) ซึ่งจัดขึ้นทุกวันที่ 26 กันยายน โดยปีนี้มุ่งไปยังการปลูกฝังค่านิยม “ไม่พร้อม...ต้องพูด” ภายใต้

แนวคิด “Your Life, Your Voice: Talk Contraception” ผ่านเวิร์คช็อป “เรื่องจริงที่ต้องคุม (Real Life, Real Control)” ครั้งแรกกับการแนะแนวเชิงปฏิบัติการครบวงจรในรูปแบบ “เซ็กซ์ ซีนาริโอ” ซึ่งเป็นการจำลองสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์มากที่สุดพร้อมเชิญนิสิตนักศึกษาจาก 12 สถาบันการศึกษานำร่องได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยศรีปทุม มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และมหาวิทยาลัยสยามเข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้ตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวเพื่อฝึกฝนวิธีรับมือต่อสถานการณ์นั้นๆ

เซ็กซ์ ซีนาริโอ 3 สถานการณ์ ได้แก่

เซ็กซ์ ซีนาริโอ I – รักออนไลน์ (จำลองสถานการณ์โดยโก-โกสินทร์ ราชกรมและนิม-ชณิตณัท จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

สถานการณ์ – ชายหนุ่ม นอกจากจะมีหน้าตาหล่อเหลามากแล้ว ยังเป็นที่หมายปองของสาวๆโลกไซเบอร์มากมาย แม้จะเป็นหนุ่มเนื้อหอมแต่เขาก็ให้ความสนใจกับหญิงสาวคนนี้เป็นพิเศษ ทำให้เธอภูมิใจและลุ่มหลงในตัวชายหนุ่มมากยิ่งขึ้น นับวันทั้งสองคุยกันถูกคอ และสนิทสนมกันมากขึ้นผ่านโลกออนไลน์ และแล้วทั้งสองจึงนัดเจอกัน ชายหนุ่มขอฝ่ายหญิงมีเซ็กซ์ด้วย หญิงสาวจะทำอย่างไรกับรักที่ลุ่มหลงของเธอ

เซ็กซ์ ซีนาริโอ II – เที่ยวต่างจังหวัด (จำลองสถานการณ์โดยนิว-วงศกร ปรมัตถากรและนานา-ธีรภรณ์ จากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต)

สถานการณ์ – หญิงสาวดีใจมากที่แฟนของเธอจำวันเกิดเธอได้ และจะพาไปเที่ยวต่างจังหวัด ซึ่งนับเป็นการฉลองวันเกิดของเธอร่วมกับแฟนครั้งแรกตั้งแต่คบกันมาเกือบปี ทำให้เธอตื้นตันและรู้สึกรักเขามาก เพราะไม่เคยมีใครที่ดีกับเธออย่างนี้มาก่อน แต่ระหว่างที่อยู่ต่างจังหวัด ชายหนุ่มกลับขอบอกเลิกเธอ ด้วยข้ออ้างที่ว่าเธอไม่แคร์เขาเลยเขาต่างหากที่ทำให้เธอสารพัด หญิงสาวง้องอน แต่ชายหนุ่มให้พิสูจน์ความรักด้วยการมีความสัมพันธ์กับเขา ถ้าเธอยอมเขาจะเชื่อว่าเธอรักเขาจริง แล้วก็จะคบกันเป็นแฟนต่อไป เธอจะทำอย่างไรดี

เซ็กซ์ ซีนาริโอ III – ปาร์ตี้ (จำลองสถานการณ์โดยป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์และเต้-นจินี จากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต)

สถานการณ์ – ชายหนุ่มปี 4 กำลังจะเรียนจบและจะไปศึกษาต่อต่างประเทศ จัดปาร์ตี้เลี้ยงอำลา คืนนั้นเขาได้ขอมีความสัมพันธ์กับแฟนรุ่นน้องปี 1 เพื่อเป็นคำมั่นสัญญาว่าจะรอและกลับมาครองรักกันอีกครั้งหลังศึกษาจบ หญิงสาวซึ่งรักเขาและไม่อยากจะเสียเขาไปจะทำอย่างไร

ผลปรากฏว่าคำตอบที่ได้จากกลุ่มตัวอย่างนั้นเป็นการปฏิเสธแบบไม่เต็มปากเต็มคำ เหมือนจะปากแข็งแต่ใจอ่อน ซึ่งหากตอบแบบนี้ สุดท้ายแทนที่จะ “รอด” จะกลายเป็น “เรียบร้อย” แทน...เพราะพูดไปแล้วก็เจอลูกตื้อของฝ่ายชายที่ไล่ต้อนด้วยข้ออ้างมากมาย เช่น “ไม่มีใครเห็นหรอก เราอยู่กันแค่สองคนเท่านั้น” “ไม่มีใครรู้หรอก ถ้าเธอไม่ไปบอกใคร ฉันไม่ไปบอกคนอื่น ก็มีแค่เราสองคนเท่านั้นที่รู้” “วันนี้แหละดีที่สุดแล้ว โอกาสดีๆอย่างนี้หายาก วันนี้บรรยากาศดีด้วย” “มีเมนส์ก็มีเซ็กส์ได้ แถมดีซะอีก ช่วยมีเมนส์ไข่ไม่ตก ไม่ท้องด้วย” “ไม่ท้องหรอก เธอไม่

ไว้ใจฉันเหรอ ฉันรักเธอนะ” หรือสาวบางคนอาจใช้ประโยคที่รุนแรงเช่น “ไม่ ถ้าขืนเธอทำอะไรฉัน ฉันจะไปแจ้งความ ติดคุกไม่รู้นะ” ซึ่งนอกจากจะเสียตัวแล้ว อาจพลิกวิกฤตให้เป็นวิบัตินำชีวิตไปสู่อันตรายด้วย

หลักการปฏิเสธที่เหมาะสมและได้ผล คือ

1. ความหมายของการปฏิเสธชัดเจน อย่าให้ความหวังลมๆแล้งๆ

2. ไม่เปิดโอกาสให้ฝ่ายชายมีข้ออ้าง ต้อนตื้อจนทำให้ฝ่ายหญิงจนมุม

3. ไม่ทำให้ฝ่ายชายรู้สึกเสียหน้า เสียความรู้สึก ไม่เสียความสัมพันธ์ในฐานะแฟน หรือเพื่อนที่ดีต่อกัน

สิ่งที่สาวๆ ควรจำคือฝึกให้ฝ่ายชายรู้จักการรอ “ตอนนี้ไม่ยอม ตอนพร้อมค่อยมี”...ถือเป็นประโยคคำพูดที่ดีและได้ประสิทธิผล เช่น “การที่ไม่มีเซ็กซ์ ไม่ใช่ไม่รัก แต่ยังไม่ถึงเวลา” “ถ้ารักฉันจริง เธอต้องรอได้” “เธอเป็นผู้ชายที่ฉันรัก แต่ฉันพร้อมก็ต่อเมื่อเราแต่งงานแล้ว” “ฉันทำไม่ได้หรอก ถ้าฉันทำอย่างนั้น ฉันจะหมดศรัทธาตัวเอง” “ศาสนาของฉันถือว่าเป็นเรื่องผิด พ่อแม่และฉันยอมรับไม่ได้”

จำง่ายๆสั้นๆ ถ้าผู้ชายพูดว่า “ถ้าเธอรักฉันจริง เธอต้องยอมเป็นของฉัน” ผู้หญิงต้องกล้าพูดทันทีว่า “ถ้าเธอรักฉันจริง เธอต้องรอฉันได้...เธอเป็นผู้ชายที่ฉันรัก แต่ฉันพร้อมก็ต่อเมื่อเราแต่งงานแล้วเท่านั้น”

…จดจำไว้ใช้ พูดให้ได้เมื่อเจอสถานการณ์ฉุกเฉิน…ถ้าไม่พร้อม ก็ต้องพูด และถ้าพูดเป็น ก็ไม่ต้องเสียรู้ เสียท่า เสียตัว เสียใจ

รู้หรือไม่...เรื่องจริงที่ต้องคุม

ข้อมูลจากผลการสำรวจ “การมีเพศสัมพันธ์และการคุมกำเนิดในวัยรุ่น” โดย Taylor Nelson Sofres (TNS) บริษัทผู้ให้บริการด้านการวิจัยระดับโลก ทำการสำรวจทัศนคติวัยรุ่นอายุระหว่าง 15-24 ปี ชาย 1,610 คน หญิง 1,620 คน จำนวนทั้งสิ้น 3,230 คนจากทวีปอเมริกา ยุโรปและเอเชียแปซิฟิค 15 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร จีน ฝรั่งเศส สเปน โปแลนด์ ออสเตรีย ออสเตรเลีย อิตาลี รัสเซีย ตุรกี เกาหลีใต้ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ระหว่างเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2552 พบว่า

วัยรุ่นยุโรปมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกอายุเฉลี่ย 16 ปี ส่วนในสหรัฐและทวีปเอเชีย-แปซิฟิคเฉลี่ย 17 ปี

ร้อยละ 31 ไม่มีการปรึกษาเรื่องการคุมกำเนิดก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก โดยเฉพาะในประเทศ ตุรกี จีน สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไทยนั้นมีอัตราเฉลี่ยสูงกว่าร้อยละ 40

ร้อยละ 20 มีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนใหม่โดยไม่ป้องกันและคุมกำเนิดเลย ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากไม่ได้เตรียมอุปกรณ์ช่วยคุมกำเนิดร้อยละ 31 รองลงมาคือลืมร้อยละ 12 ตนเองไม่ชอบป้องกัน/คุมกำเนิดร้อยละ 12 คู่นอนไม่ชอบป้องกัน/คุมกำเนิดร้อยละ 12 และเมาร้อยละ 11

ยังมีวัยรุ่นอีกมากที่มีความเข้าใจเรื่องการป้องกันและการคุมกำเนิดที่ไม่ถูกต้อง โดยร้อยละ 36 ใช้วิธีหลั่งข้างนอกซึ่งจากผลการวิจัยพบว่าวิธีนี้มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดมีเพียงแค่ 70% ทำให้ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ยังอยู่ในระดับที่สูง

ร้อยละ 14 มีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดือน ซึ่งวิธีนี้อาจก่อให้เกิดอันตรายหากเกิดการติดเชื้อ เนื่องจากช่วงนั้นพื้นผิวโพรงมดลูกจะมีลักษณะคล้ายแผล ซึ่งถ้ามีเชื้อโรครุนแรงโพรงมดลูกจะเกิดการติดเชื้อและอาจเลยเข้าไปในช่องท้องได้

ร้อยละ 7 เชื่อว่าอาบน้ำหลังมีเพศสัมพันธ์, ร้อยละ 3 มีเพศสัมพันธ์ขณะอาบน้ำ, ร้อยละ 2 ใช้น้ำอัดลมทำความสะอาดหลังมีเพศสัมพันธ์, ร้อยละ 1 ผู้หญิงทำท่าขาชี้ฟ้าหัวลงพื้นหลังจากมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 2 ชั่วโมง ซึ่งวิธีเหล่านี้ไม่มีประสิทธิผลในการช่วยคุมกำเนิด

ที่น่าสนใจคือวัยรุ่นใน 15 ประเทศเชื่อว่าข้อมูลเกี่ยวกับการป้องกันและการคุมกำเนิดที่ได้จากแพทย์ และแม่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุดแต่กลับหันไปปรึกษาเรื่องนี้กับคู่นอนและเพื่อนมากที่สุด โดยมีสาเหตุหลักมาจากอายไม่กล้าเข้าไปปรึกษา

ที่น่าตกใจคือ ร้อยละ 32 ยอมรับว่ามีเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัวเผชิญกับภาวะตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit