กบข. เผยแผนการดำเนินงานปี 53 กระจายความเสี่ยงการลงทุนรอบด้าน ดันผลตอบแทนระยะยาว ยังห่วงการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลกยังเปราะบาง-ปัญหาการเมืองในประเทศ
นางสาววริยา ว่องปรีชา รองเลขาธิการสายบริหารงานสมาชิก รักษาการ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2553 ว่าการบริหารพอร์ตและเงินลงทุน กบข. ยังคงให้ความสำคัญกับการกระจายสินทรัพย์การลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน และผลักดันผลตอบแทนการลงทุนในระยะยาวให้เป็นไปตามเป้าหมายและมีความยั่งยืน โดยนโยบายในปี 2553 กบข. ได้เตรียมกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องในอัตราประมาณร้อยละ 3.5 - 4.0
สำหรับทิศทางการลงทุนในตราสารหนี้นั้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบในแง่ลบต่อการลงทุนในตราสารหนี้ของ กบข. โดยเฉพาะตราสารหนี้ที่มีอายุค่อนข้างยาว ดังนั้นในปี 2553 กบข. จึงมีนโยบายที่จะลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุสั้นมากขึ้น และจะให้ความสำคัญกับความเสี่ยงด้านเครดิตเป็นหลัก เพื่อป้องกันการผิดนัดชำระหนี้
นอกจากนี้ เนื่องจากภาพรวมแล้วเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องนั้น ทำให้การลงทุนในตราสารทุนทั้งในและต่างประเทศเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ และจะสร้างผลตอบแทนให้กับ กบข. ได้ในระดับที่ดี โดยจะเน้นการลงทุนในหุ้นของบริษัทพื้นฐานดีและหุ้นที่ให้เงินปันผลสูง แต่ผลตอบแทนที่ได้รับในปี 2553 คงจะไม่สูงเท่ากับปี 2552 ที่ผลตอบแทนการลงทุนในตราสารทุนสูงมากกว่าร้อยละ 50 เพราะเป็นช่วงฟื้นตัวจากวิกฤติการเงินโลก
อย่างไรก็ตาม สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่อาจกระทบกับพอร์ตการลงทุนของ กบข. ในปี 2553 คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและไทยที่แม้จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวแล้ว แต่ก็ยังมีความเปราะบาง เนื่องจากการฟื้นตัวในช่วงที่ผ่านมาเป็นการพึ่งพานโยบายการอัดฉีดเงินงบประมาณของภาครัฐ ซึ่งทั่วโลกดำเนินการในเรื่องนี้ และเริ่มมีข้อจำกัดในการใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันปัจจัยภายในประเทศเองปัญหาเรื่องเสถียรภาพทางการเมืองยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก กบข. โทร. 1179 กด 6
[email protected] / www.gpf.or.th