กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--สป.พม.
ประเทศไทย เตรียมแสดงศักยภาพ อาคารศาลาไทยที่แสดงความเป็นไทยผสมผสานกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในงาน The World Exposition Shanghai China 2010 ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้หัวข้อหลัก “Better City, Better Life” สะท้อนถึงความเป็นอยู่ของชนชาติไทยที่มีพัฒนาการทั้งเมืองและวิถีชีวิต โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มั่นใจอาคารศาลาไทยตอบโจทย์บนเวทีระดับโลก รวมทั้งประกาศเชิญชวนอาสาสมัครเยาวชนไทยปฏิบัติหน้าที่ ในการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ โดยตั้งเป้าหมายที่จะทำให้อาคารศาลาไทยเป็นหนึ่งในอาคารยอดนิยมที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดของการจัดงาน
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยถึง การที่ประเทศไทยเตรียมเป็นส่วนหนึ่งในการเข้าร่วมงานแสดงนิทรรศการระดับโลกหรือ The World Exposition ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 ตุลาคม 2553 ว่า งาน The World Exposition ถือเป็นงานมหกรรมโลกภายใต้การกำกับดูแลขององค์การระหว่างประเทศว่าด้วยงานมหกรรมโลก (Bureau of International Exhibition: BIE) โดยในปี 2553 สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน The World Exposition Shanghai China 2010 ภายใต้หัวข้อหลักของการจัดงานครั้งนี้ คือ “Better City, Better Life: เมืองที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น โดยตั้งวัตถุประสงค์เพื่อต้องการผลักดันให้ประคมระหว่างประเทศเข้าใจปัญหามากขึ้น และร่วมกันค้นหาแนวทางที่จะพัฒนาเมืองในอนาคต โดยมีประเทศเข้าร่วมงานกว่า 230 ราย
“การเข้าร่วมงานมหกรรมโลกครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญที่ประเทศต่างๆ จะได้นำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ สู่สายตาชาวโลก รวมทั้งการคิดค้นงานที่มีความท้าทาย ในยุคกระแสโลกาภิวัตน์ที่มีความสอดคล้องตามแนวคิดของหัวข้อหลักการเข้าร่วมงาน คือ “เมืองที่ดีกว่า เพื่อชีวิตที่ดียิ่งขึ้น” เพื่อเป็นโอกาสที่จะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ร่วมกันค้นหาแนวทางการพัฒนาเมืองในอนาคตให้สอดคล้อง และเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ การค้นหาวิถีทางการพัฒนาและการผสมผสานวิถีแห่งการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม ซึ่งการเข้าร่วมงานมหกรรมครั้งนี้ ประเทศไทยตั้งเป้าหมายให้อาคารศาลาไทยเป็นหนึ่งในอาคารที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในงานนี้อีกด้วย” นายอิสสระกล่าว
นายอิสสระ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การเข้าร่วมงานครั้งนี้ยังเป็นผลดีต่อประเทศไทยในด้านการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของประเทศไทย อันจะส่งผลต่อการสร้างความเชื่อมั่นแก่ชาวต่างชาติที่จะเข้ามาในประเทศไทย เพื่อการลงทุน ทั้งในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมงานบริการต่างๆ ตลอดจนยังเป็นการสร้างโอกาสในการเรียนรู้นวัตกรรม และแนวคิดใหม่ๆ ในด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย ที่สามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับสังคมไทยในอนาคต และที่สำคัญยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับนานาประเทศ โดยเฉพาะกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มีความสัมพันธ์กันมาช้านาน ให้มีความแน่นแฟ้นมากขึ้น
สำหรับการจัดงานครั้งนี้ ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มอบหมายกิจการร่วมค้า ไอดีทู เป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินการอาคารศาลาไทย ภายใต้งบประมาณการดำเนินโครงการทั้งสิ้น 599,990,000 บาท ซึ่งประกอบด้วย งบการก่อสร้าง ,การแสดง ตลอดระยะเวลา 7 เดือน ณ ประเทศจีน และได้มีการจัดตั้งคณะทำงานติดตามกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทางกระทรวงฯ ได้เดินทางไปรับมอบพื้นที่การก่อสร้างอาคารศาลาไทย 2,117 ตารางเมตร และเริ่มก่อสร้างไปแล้วจนถึงวันนี้ นับว่ามีความคืบหน้ากว่าที่ตั้งเป้าไว้ และมั่นใจว่า อาคารศาลาไทยจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนเมษายน 2553 เพื่อเตรียมพร้อมก่อนเปิดอาคารศาลาไทยในวันที่ 1 พฤษภาคม 2553
ด้าน นายวัลลภ พลอยทับทิม ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึง รูปแบบของอาคารศาลาไทยครั้งนี้ เป็นการแสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย ผ่านการจัดแสดงนิทรรศการในห้องต่างๆ โดยจะมีการนำเสนอด้วย เทคนิค อุปกรณ์ที่ทันสมัย เพื่อสร้างความน่าสนใจ มีความตื่นเต้น ภายใต้แนวคิด “Thainess : Sustainable Ways of Life เพื่อแสดงให้นานาประเทศได้รับรู้ถึงวิถีความเป็นไทย แนวทางการดำเนินชีวิตทั้งในรูปแบบของเมืองและชนบท ความงดงามอย่างมีเอกลักษณ์ด้านศิลปะและวัฒนธรรมอย่างไทย การนำภูมิปัญญาไทยมาปรับใช้ร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ มาเป็นแนวทางการดำรงชีวิต ที่ก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนและความสงบสุขในสังคม
นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรม ประกอบด้วยการแสดงนิทรรศการภายในอาคารศาลาไทย และการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยประจำวัน ณ ศาลาจัตุรมุข ภายนอกอาคารศาลาไทย รวมทั้ง การจัดกิจกรรมพิเศษวันชาติ (National Day) ซึ่งการจัดงานวันชาติของไทยนี้ กำหนดให้เป็นวันที่ 5 กันยายน 2553 โดยจะมีการจัดกิจกรรม การแสดงอย่างยิ่งใหญ่สวยงาม และมีความน่าสนใจเป็นพิเศษ
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับประชาชน หรือ เยาวชนไทยที่ต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ทางกระทรวงฯ เปิดรับสมัครผู้สนใจ และเยาวชนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของนักแสดง และทีมงานที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำอาคารศาลาไทย ณ ประเทศจีน สนใจสมัครสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล 02-7259333 ต่อ 101,106 www.thailandexpo2010.com
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit