กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--กองประชาสัมพันธ์ กทม.
กทม. เร่งยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการ เน้นการจัดสวัสดิการสังคมให้เท่าเทียมคนปกติ พร้อมตั้งคณะกรรมการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการกทม. เพื่อทำหน้าที่ติดตามงานด้านคนพิการโดยตรง เร่งสร้างศูนย์พัฒนาเด็กกลุ่มพิเศษ และศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและเวชศาสตร์ฟื้นฟู ที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 21/2552 เกี่ยวกับแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการว่า กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับคนพิการ โดยมุ่งให้คนพิการได้รับความคุ้มครองสิทธิอย่างเสมอภาคกับคนทั่วไป และได้รับสวัสดิการความช่วยเหลือที่เหมาะสม ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น โดยแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการกรุงเทพมหานครขึ้น เพื่อทำหน้าที่กำหนดแผนงานและติดตามการดำเนินงานด้านคนพิการในกรุงเทพมหานคร
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้ดำเนินงานด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการโดยแบ่งเป็น 5 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านกายภาพและสิ่งแวดล้อม คือ การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกในอาคารสถานที่ต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร และในระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (BTS) เช่น การติดตั้งลิฟท์สำหรับคนพิการ ห้องน้ำสำหรับคนพิการ พร้อมจัดทำทางลาด ทางเท้า และติดตั้งสัญญาณไฟคนข้ามถนนสำหรับคนพิการ ในโครงการปรับปรุงก่อสร้างถนน จำนวน 118 สาย 2. ด้านการส่งเสริมอาชีพและการจ้างงาน จ้างคนพิการเป็นอาสาสมัครในสำนักงานเขต 50 เขตๆ ละ 1 คน โดยปัจจุบันมีอาสาสมัครจำนวน 49 คน เป็นชาย 27 คน หญิง 22 คน พร้อมทั้งดำเนินการร่วมกับองค์กรต่างๆ ในการจัดอบรมด้านอาชีพแก่บุคคลออทิซึม และเด็กพิการทางสติปัญญา 3. ด้านสวัสดิการสังคม กรุงเทพมหานครจะดำเนินการขอจัดสรรงบประมาณเบี้ยยังชีพคนพิการเพิ่มเติมอีกจำนวน 11,524 ราย คิดเป็นงบประมาณกว่า 69 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2553 และดำเนินการให้ความช่วยเหลือในด้านอื่นๆ พร้อมจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาการกีฬาของกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2550-2554 กำหนดประเด็นยุทธศาสตร์และกลยุทธ์การกีฬาเพื่อสุขภาพสำหรับคนพิการ 4 ด้าน ประกอบด้วยการรณรงค์ให้ความรู้ การพัฒนาบุคลิกภาพ พัฒนาอุปกรณ์กีฬา และปรับสภาพสถานกีฬา พร้อมจัดทำโครงการส่งเสริมกีฬาเพื่อมวลชน (คนพิการ) และส่งนักกีฬาคนพิการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย และต่างประเทศ 4. ด้านการศึกษา ตั้งเป้าเปิดสอนหลักสูตรโรงเรียนร่วมให้ครบ 100 โรงเรียน ในปีการศึกษา 2553 โดยปัจจุบันเปิดสอนแล้ว 74 โรงเรียน พร้อมจัดอบรมครูในหลักสูตรต่างๆ เพื่อให้มีความรู้ในการจัดการเรียนการสอนเด็กที่เรียนร่วมเฉพาะทางอย่างต่อเนื่องทุกปี เช่น โครงการส่งครูเรียนต่อด้านการศึกษาพิเศษ โครงการส่งครูแนะแนวเข้ารับอบรมวิธีคัดกรองเด็ก 5. ด้านการแพทย์ มีการปรับปรุงด้านกายภาพของโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครทุกแห่ง โดยติดตั้งลิฟท์มีเสียงบอกชั้นและอักษรเบรลล์ ทางลาดและราวจับ ที่จอดรถ ห้องน้ำ และส่วนอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการที่มารับบริการในโรงพยาบาล เช่น จัดทำสลากซองยาอักษรเบรลล์สำหรับผู้พิการทางสายตา
นอกจากนี้กรุงเทพมหานครได้จัดสร้างศูนย์พัฒนาเด็กกลุ่มพิเศษ (Special Child Center) และศูนย์เวชศาสตร์การกีฬาและเวชศาสตร์ฟื้นฟู ขึ้นที่โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เพื่อให้การบำบัดรักษาและพัฒนาการด้านสุขภาพ จิตใจ และสังคม แบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ โดยอยู่ระหว่างดำเนินการ สำหรับศูนย์พัฒนาเด็กกลุ่มพิเศษ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2555 ส่วนศูนย์เวชศาสตร์การกีฬา และเวชศาสตร์ฟื้นฟู คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2554
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit