สิงคโปร์--14 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์ – เอเชีย /อินโฟเควสท์
- ผู้ป่วยทุกคนจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์แต่เนิ่นๆ เพื่อแบ่งเบาภาระทางสังคม เศรษฐกิจ และความลำบากที่ผู้ป่วยต้องแบกรับ
- โครงการใหม่นี้มีขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทบทวนวิธีการรักษาโรคในเอเชียแปซิฟิก
(โลโก้: http://www.prnasia.com/sa/2009/09/08/20090908110532.jpg )
(โลโก้: http://www.prnasia.com/sa/2009/09/08/20090908483219.jpg )
โดยโครงการ Every Day Counts เป็นสื่อกลางที่แสดงให้เห็นความจริงที่ว่า แต่ละวันที่ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ไม่ได้รับการวินิจฉัยและรักษา พวกเขาต้องเสียสิ่งที่ไม่ควรจะเสียไปทุกวัน ในขณะที่ชุมชนและสังคมที่ผู้ป่วยอาศัยอยู่ก็ต้องเสียเงินจำนวนมหาศาลไปกับสวัสดิการดูแลผู้ป่วยที่ว่างงานและค่าใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพและการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
“ในช่วงที่เศรษฐกิจยังขาดเสถียรภาพเช่นนี้ หลายประเทศคงไม่สามารถรองรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อรังจนต้องออกจากงานและทำให้งบประมาณของรัฐบาลสูญไปโดยไม่จำเป็นได้” ดร.โฮ-ยูน คิม ประธาน APLAR กล่าว “การวินิจฉัยและรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์แต่เนิ่นๆ จะช่วยลดภาระและค่าใช้จ่ายได้ทั้งในระดับบุคคลและสังคม”
“การรักษาโรคแต่เนิ่นๆ ไม่เพียงแต่เลื่อน ชะลอ หรือแม่แต่ระงับการกำเริบของโรคเท่านั้น แต่ยังช่วยลดคาใช้จ่ายด้วยการลดความจำเป็นในการเข้ารับการผ่าตัด รเข้ารักาตัวในโรงพยาบาล และการใช้บริการทางสังคมต่างๆ” ดร.คิม กล่าวเสริม “เราหวังว่าโครงการนี้จะช่วยให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์แต่เนิ่นๆ เพราะแต่ละวันที่ผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาจะส่งผลเสียอย่างใหญ่หลวง”
ภาระที่เกิดจากโรค
องค์การอนามัยโลก (WHO) ประเมินว่าโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์สร้างภาระทางเศรษฐกิจใน 3 ระดับ ได้แก่ ค่าใช้จ่ายทางตรง ทางอ้อม และทางจิตสังคม(1) โดยค่าใช้จ่ายของภาครัฐอาจมีสัดส่วนสูงมาก ยกตัวอย่างในสหรัฐอเมริกา ค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์อยู่ที่ 5,720 ดอลลาร์ต่อคนต่อปี โดยผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายสูงสุด(2) ส่วนในเอเชียแปซิฟิกค่าใช้จ่ายจากโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ก็อยู่ในระดับสูงพอๆ กัน ตัวอย่างเช่น
- ในเกาหลี ภาระทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์อยู่ที่ราว 624.9 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีสัดส่วน 0.11% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GNP)(3)
- ในจีน ญี่ปุ่น และ ไต้หวัน โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ส่งผลกระทบต่อประชากร 0.3% ของทั้งหมดในแต่ละประเทศ หรือเท่ากับ 4 ล้านคน, 380,000 ล้านคน และ 69,000 คน ตามลำดับ (4, 5, 6)
- ในออสเตรเลีย โรคไขข้อทำให้เกิดค่าใช้จ่ายราว 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในแต่ละปี จากการรักษาสุขภาพ การเสียเวลาทำงาน การมีอายุขัยสั้นลง และการต้องเสียเวลาเป็นผู้ไร้สมรรถภาพอยู่หลายปี(7)
- ในประเทศไทย ค่าใช้จ่ายทางสังคมจากโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์อยู่ที่ราว 2,682 ดอลลาร์ หรือคิดเป็น 41.4% ของรายได้ต่อปีของผู้ป่วย ส่วนค่าใช้จ่ายทางตรงและทางอ้อมอยู่ที่ราว 2,135 ดอลลาร์ และ 547 ดอลลาร์ต่อคนต่อปีตามลำดับ(8)
- ในมาเลเซีย โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ส่งผลกระทบต่อ 0.5% ของประชากรผู้ใหญ่ที่มีอายุระหว่าง 25-50 ปี(9)
การรักษาเพียงอาการของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์อาจทำให้ผู้ป่วยมีอายุขัยลดลงราว 10 ปี(12) และหากขาดการรักษาอย่างเหมาะสมผู้ป่วยจะต้องต่อสู้กับโรคร้ายดังกล่าวไปชั่วชีวิต ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อข้อต่อหรืออาจถึงขั้นทำให้พิการได้
ปัจจุบันผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์จะได้รับการรักษาด้วยยากลุ่ม DMARD ซึ่งจะช่วยควบคุมอาการของโรคและช่วยลดความเสียหายที่จะเกิดกับข้อต่อ อย่างไรก็ตาม ยากลุ่ม DMARD ประเภทรับประทานอย่างยา methotrexate ยังไม่สามารถป้องกันการเสียหายของข้อต่อได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นการรักษาด้วยสารชีวภาพ (biologic agent) (ควบคุมอาการของโรคและไม่ทำให้ข้อต่อเกิดความเสียหายเพิ่มเติม) จึงเป็นเป้าหมายการรักษาในผู้ป่วยส่วนมาก โดยสารชีวภาพเหล่านี้สามารถควบคุมอาการของโรคได้โดยตรงและมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นยังช่วยชะลอและระงับความเสียหายที่เกิดกับข้อต่อและเกิดจากการฉายรังสี และช่วยป้องกันมิให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยได้รับผลกระทบไปมากกว่านี้(13)
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ
เกี่ยวกับ โครงการ Every Day Counts
โครงการ Every Day Counts เป็นโครงการใหม่ของ APLAR ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของการวินิจฉัยและรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยทางโครงการจะจัดกิจกรรมเพื่อเข้าถึงแพทย์ ผู้ป่วย และหน่วยงานรัฐทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกตลอดทั้งปี
เกี่ยวกับ APLAR
APLAR มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์หลักในการให้การรักษาที่ทันสมัยกับผู้ป่วยที่เป็นโรคไขข้อ รวมถึงโรคอื่นที่เกี่ยวข้องกับกระดูกและกล้ามเนื้อ ผ่านการพัฒนาฝีมือของทีมผู้เชี่ยวชาญ การสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโรค การสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย และการพัฒนาการวิจัยด้านโรคไขข้อ ทั้งนี้ APLAR ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2506 ที่ซิดนีย์ และเป็นองค์กรในเครือเดียวกับสมาคมโรคไขข้อนานาชาติ หรือ ILAR (International Leauge of Associations for Rheumatology)
โปรดให้การสนับสนุนโครงการนี้
กิจกรรมในโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนโดยไวเอท (Wyeth)
อ้างอิง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
มิไคอาห์ เอฟ ตัน
โอกิลวี เฮลท์, สิงคโปร์
โทรศัพท์: +65-6213-7846
มือถือ: +65-8123-3928
อีเมล: [email protected]
แหล่งข่าว: สมาคมโรคไขข้อแห่งเอเชียแปซิฟิก
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net ) --
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit