กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--ธนาคารกรุงไทย
ผลสำรวจความเชื่อมั่นลูกค้าสินเชื่อธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศไตรมาส 2 ปรับตัวดีขึ้น หลังรัฐบาลทุ่มงบประมาณเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ความเชื่อมั่นในองค์ประกอบด้านต้นทุนการผลิตยังคงปรับลดลง จากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ส่วนผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นในอนาคตอีก 3 เดือนข้างหน้า สูงกว่าระดับปกติเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส
นางพัชรศิริ เกียรติกำจาย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ผู้บริหารสายงาน สายงานบริหารความเสี่ยงและกำกับ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยถึงผลการจัดทำดัชนีธุรกิจกรุงไทย หรือ Krung Thai Business Index (KTBI) ซึ่งเป็นดัชนีความเชื่อมั่นของนักธุรกิจที่เป็นลูกค้าสินเชื่อของธนาคารทั่วประเทศ ปรากฏว่า ดัชนี KTBI ประจำไตรมาสที่ 2 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 โดยปรับจากระดับ 48.02 ในไตรมาสก่อนเป็น 49.63 ตามการเพิ่มขึ้นขององค์ประกอบดัชนีความเชื่อมั่นด้านภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ภาวะตลาด การผลิตและการลงทุน หลังจากเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น เมื่อรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ รวมทั้งประเทศไทยได้ทุ่มงบประมาณเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นในองค์ประกอบด้านภาวะการเงิน และด้านต้นทุนการผลิตยังคงปรับลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน เนื่องจากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน จึงกดดันให้ความเชื่อมั่นโดยรวมของนักธุรกิจยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5 นับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2551 ซึ่งสะท้อนว่านักธุรกิจส่วนใหญ่ยังเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจและภาวะธุรกิจยังคงซบเซา
นางพัชรศิริ เกียรติกำจาย เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นใน 3 เดือนข้างหน้า ได้ปรับตัวสูงขึ้น และสูงกว่าระดับปกติเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส โดยมาอยู่ที่ระดับ 50.56 จากระดับ 48.19 ในไตรมาสก่อน สะท้อนว่านักธุรกิจเชื่อมั่นว่าภาวะเศรษฐกิจและภาวะธุรกิจในไตรมาสที่ 3 ปี 2552 จะเริ่มฟื้นตัวขึ้น ทั้งนี้เป็นผลมาจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 วงเงินรวมกว่า 1.4 ล้านล้านบาทของรัฐบาล แต่ยังมีความเสี่ยงสำคัญที่อาจกระทบความเชื่อมั่นของนักธุรกิจให้กลับลดลงได้อีก ได้แก่ เศรษฐกิจโลกที่ยังอยู่ในภาวะหดตัว แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 และสถานการณ์ทางการเมือง
ทั้งนี้ ธนาคารกรุงไทยได้จัดทำดัชนี KTBI โดยการสำรวจความคิดเห็นของลูกค้าทั่วประเทศ กว่า 6,000 ราย เป็นประจำทุกไตรมาสมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ปี 2547 เพื่อติดตามระดับความเชื่อมั่นของนักธุรกิจทุกประเภท ทุกขนาด และทุกภูมิภาค โดยผลการสำรวจได้แสดงถึงแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจและภาวะธุรกิจในระยะสั้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการบริหารสินเชื่อของธนาคาร
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์
โทร. 0-2208-4174-7
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit