เตือนทานพริกน้ำปลากับความเค็ม ภัยเงียบเสี่ยงอัมพาตและอัมพฤกษ์

กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--สสส.

นักวิจัย สสส. เตือนเรื่องใกล้ตัวที่ถูกมองข้าม หลังพบคนไทยชอบความเค็มด้วยพริกน้ำปลาระหว่างรับประทานอาหาร เป็นตัวการเพิ่มโซเดียม เสี่ยงเส้นเลือดแตก อัมพาต อัมพฤกษ์ นางอรพินท์ บรรจง จากสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ในการทำโครงการพัฒนาตำรับอาหารท้องถิ่นสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ซึ่งขั้นตอนของการทำโครงการจะต้องนำอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุที่ได้ทำขึ้นใหม่นี้ไปให้ผู้สูงอายุที่ ต.ดอนแฝก อ.นครชัยศรี และ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ได้ประทานเพื่อประเมินผล แต่พบว่าทางกลุ่มผู้นำชุมชนได้วางถ้วยพริกน้ำปลาไว้บนโต๊ะให้ผู้สูงอายุที่มานั่งรับประทานด้วย ซึ่งถือว่าพริกน้ำปลานั้นไม่ได้จัดให้อยู่ในชุดอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุดังกล่าว และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สูงอายุโดยไม่รู้ตัว ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าน้ำปลานั้นมีรสเค็มซึ่งจะไปช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหาร ซึ่งน้ำปลาจะมีสารอาหารที่เรียกว่า โซเดียม ซึ่งเป็นเกลือแร่ชนิดหนึ่งที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย ในการทำหน้าที่ควบคุม ความสมดุลของของเหลวในร่างกาย รักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ ช่วยในการทำงานของประสาทและกล้ามเนื้อ ตลอดจนการดูดซึมสารอาหาร นางอรพินท์ กล่าวอีกว่า ตามข้อแนะนำการรับประทานอาหารสุขภาพ ปี 2546 ระบุไว้ว่าให้รับประทานทานอาหารที่มีโซเดียมได้ไม่เกินวัน 2,400 มิลลิกรัม ซึ่งเทียบได้กับน้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะหรือเกลือประมาณครึ่งช้อนชา แต่ล่าสุดหลังจากการสำรวจพบว่าประชากรทั่วโลกมีปัญหาเกี่ยวกับโรคความดัน โรคไต โรคหัวใจเพิ่มมากขึ้น องค์การอนามัยโลก หรือ WHO จึงได้กำหนดเหลือเพียง 1,400 มิลิกรัมต่อวัน แต่จากการตรวจสอบโซเดียมในอาหารไทยที่ส่วนมากจะมีรสจัด พบว่ามีโซเดียมเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดอย่างมาก ซึ่งแต่ละมื้ออาหารก็จะมีโซเดียมเกินที่กำหนดอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเรารับประทานอาหารวันละ 3 มื้อแล้ว เท่ากับว่าเราได้รับโซเดียมจากการรับประทานอาหารเกินกว่าค่ากำหนดอย่างมากมายมหาศาล โดยโซเดียมที่ใกล้ตัวมากที่สุดและคนมักมองข้าม คือ พริกน้ำปลา ซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการรับประทานอาหารของคนไทย เพราะจะเห็นว่าคนที่จะรับประทานอาหารมักจะคลุกเคล้าข้าวกับพริกน้ำปลา และเติมพริกน้ำปลาในอาหาร นอกจากนี้แล้วก่อนที่จะกินก๋วยเตี๋ยวก็มักจะเติมน้ำปลา น้ำตาล น้ำส้มสายชู ลงในไปชามก๋วยเตี๋ยวทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ชิมก่อนการปรุงเลยด้วยซ้ำ เรียกได้ว่า “ขอให้ได้ใส่ให้ได้ปรุง รสชาติเป็นอย่างไรค่อยแก้ทีหลัง” การรับประทานอาหารรสเค็มมากๆ และบ่อยๆ จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมองแตก โรคหัวใจ และไตวาย รวมทั้งโรคกระดูกพรุน ซึ่งผู้ที่เป็นโรคจะต้องระมัดระวังอาหารที่มีโซเดียมสูง เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในโรคที่เป็นอยู่ เพราะโรคดังกล่าวนี้เหมือนกับภัยเงียบที่ไม่บ่งบอกอาหารให้ผู้ป่วยได้รู้ คนที่เป็นก็จะไม่รู้สึกว่าเป็นอะไร แต่เมื่อเป็นความดันสูงอยู่เรื่อยๆ เมื่ออายุสูงขึ้น ความยืดหยุ่นเส้นเลือดน้อยลง เส้นเลือดแข็งก็จะเปราะบาง เมื่อมีความดันสูงเรื่อยๆ ไม่สามารถคุมได้แล้วเกิดเส้นเลือดแตกตามจุดสำคัญต่างๆ แล้ว ก็จะทำให้เป็นอัมพาต อำพฤกษ์ กลายเป็นคนพิการ และเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ “อย่างไรก็ตามผู้ที่ยังไม่ป่วยเป็นโรคดังกล่าวนี้ หรือคนวัยหนุ่มที่ยังแข็งแรงก็ต้องระมัดระวังและควบคุมการรับประทานอาหารรสเค็มเช่นกัน เพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้เกิดการสะสมโซเดียมไว้ในร่างกายจนมากเกินไป และเลือกใช้เกลือหรือน้ำปลาสโลว์โซเดียมที่มีจำหน่ายตามร้านค้าต่างๆ มาปรุงรสเค็มให้อาหารแทนน้ำปลาทั่วๆ ไป ซึ่งน้ำปลาโลว์โซเดียวนี้จะเป็นโซเดียมที่ได้จากพืชจากผลไม้และมีปริมาณน้อยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพแต่อย่างใด หรือจะงดคลุกข้าวกับพริกน้ำปลาแล้วใช้ความเค็มจากอาหารที่รับประทานควบคู่กันก็เป็นเรื่องใกล้ตัวที่จะลดโซเดียมได้ง่ายที่สุดอีกวิธีหนึ่ง”นางอรพินท์ กล่าว

ข่าวสถาบันวิจัยโภชนาการ+มหาวิทยาลัยมหิดลวันนี้

ผลวิจัยล่าสุดชี้ “อาหารแมว” ต้องเพียบพร้อมทั้งรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ

ผลวิจัยของคณะนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิจัยโภชนาการสัตว์เลี้ยงวอลแธมในเครือมาร์ส เพ็ทแคร์ และมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย พบว่า นอกจากรสชาติแล้ว คุณค่าทางโภชนาการยังมีอิทธิพลต่อแมวในการตัดสินใจเลือกกินอาหาร ผลวิจัยดังกล่าวของมาร์ส เพ็ทแคร์ ที่ได้รับการเผยแพร่ทางวารสาร Royal Society Open Science (http://rsos.royalsocietypublishing.org/lookup/doi/10.1098/rsos.160081 ) ในวันนี้ ได้เผยให้เห็นว่า แมวบ้านเรียนรู้ที่จะเลือกกินอาหารโดยดูจากคุณค่าทางโภชนาการมากกว่ารสชาติ โดยเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ

คณะนักวิจัยเปิดเผยสายพันธุ์แบคทีเรียที่เชื่อมโยงกับโรคเหงือกในแมวเป็นครั้งแรก

ผลวิจัยเผยให้เห็นถึงความแตกต่างของสายพันธุ์แบคทีเรียที่พบในคราบพลัคของมนุษย์และแมว ปูทางไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาโรคเหงือกซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยที่สุดในแมว ขณะที่โรคเหงือกคือหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยใน...

เพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์นี้เองที่ช่วยเป็นสื่อกลางให้เจ้าของได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่

ผลการศึกษาล่าสุดเผยว่า คนเรามีโอกาสทำความรู้จักกันผ่านทางสัตว์เลี้ยงมากกว่าผ่านทางโรงเรียนของลูกหลาน การทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป แต่ผลวิจัยใหม่ล่าสุดได้เผยให้เห็นว่า การเลี้ยงสัตว์ช่วย...

เมื่อคำแนะนำจากคุณหมอคือให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยง...เผยรายงานใหม่ที่นำเสนอถึงผลดีต่างๆที่ผู้สูงอายุจะได้จากการมีสัตว์เลี้ยง

นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากสนับสนุนการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยงเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ แนวคิดที่เกิดขึ้นใหม่นี้สามารถช่วยให้ผู้สูงอายุได้ใช้...

เตือนทานพริกน้ำปลากับความเค็ม ภัยเงียบเสี่ยงอัมพาตและอัมพฤกษ์

นักวิจัย สสส. เตือนเรื่องใกล้ตัวที่ถูกมองข้าม หลังพบคนไทยชอบความเค็มด้วยพริกน้ำปลาระหว่างรับประทานอาหาร เป็นตัวการเพิ่มโซเดียม เสี่ยงเส้นเลือดแตก อัมพาต อัมพฤกษ์ นางอรพินท์ บรรจง จากสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า...

“รักหัวใจ...ดูแลหัวใจให้แข็งแรง” ครั้งที่ 2

โรงพยาบาลเวชธานี ลาดพร้าว 111 ร่วมกับ สมาคมนักกำหนดอาหาร ขอเชิญท่านที่สนใจเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการ “รักหัวใจ...ดูแลหัวใจให้แข็งแรง” ครั้งที่ 2 ในวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2552 ตั้งแต่เวลา 08.30-13.30 น. โดยได้รับเกียรติบรรยายให้ความรู้โดย ศ.นพ.เกียรติชัย...

โครงการจัดประกวดอาหารว่างเพิ่มพลังงานเพื่อสุขภาพคนไทย ชิงถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ

ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ร่วมกับสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และองค์กรเภสัชกรรมจัดการประกวดอาหารว่างเพิ่มพลังเพื่อสุขภาพคนไทย ชิงถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์...

ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย งานแถลงข่าว โครงการประกวดอาหารว่างเพิ่มพลังงานเพื่อสุขภาพคนไทย ในระดับภูมิภาคชิงถ้วยประทานฯ

ด้วยทางศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ร่วมกับสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล สมาคม นักกำหนดอาหารแห่งประเทศไทย และองค์กรภาครัฐและเอกชน จัดการประกวดอาหารว่างเพิ่มพลังงาน...