“เอส.แอล.เอสเตท” ทุ่ม 300 ล้านแจ้งเกิด AMARA คอนโดหรูเขาเต่า-หัวหิน เปิดราคาขายเริ่มต้นที่ 2.8ล้าน มั่นใจกำลังซื้อผู้บริโภคเมืองท่องเที่ยวยังสูง

“เอส. แอล. เอสเตท” ทุ่มลงทุนกว่า 300 ล้านชิมลางตลาดคอนโดมิเนียมที่เขาเต่า หัวหิน ชู Style Design Condominium เรียบง่ายแต่หรูหรา หวังสอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมเปิดราคาขายเริ่มต้น 2.8 ล้านบาท มั่นใจกำลังซื้อสำหรับคนอยากมีบ้านหลังที่สองยังเสถียร พร้อมส่งโปรโมชั่นแถมแอร์-ชุดครัวทุกยูนิต กระตุ้นการตัดสินใจซื้อช่วงพรีเซล เผยหากประสบความสำเร็จพร้อมรุกพัฒนาที่ดินในเมืองท่องเที่ยวอีกแน่นอน นายสุรินทร์ องค์วาสิฏฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส. แอล. เอสเตท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุนกว่า 300 ล้านบาท พัฒนาโครงการอาคารชุดพักอาศัยริมทะเล ที่ตำบลเขาเต่า อำเภอปากน้ำปราณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) ภายใต้ชื่อโครงการ “AMARA” หรือ อามาร่า เขาเต่า จำนวน 97 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ เป็นอาคารชุดจำนวน 2 อาคาร สูง 4 ชั้น บนพื้นที่ใช้สอย 40 – 149 ตารางเมตร และวิลล่า 3 หลัง สูง 2 ชั้น โครงการมีความโดดเด่นที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ชีวิตได้อย่างครบครันเหมาะแก่การพักผ่อน มีพื้นที่ติดชายหาดถึง 40 เมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ สระว่ายน้ำ 2 สระ สวน ที่จอดรถ รักษาความปลอดภย 24 ชั่วโมง โดยจะเริ่มทำตลาดตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป สำหรับราคาขายได้กำหนดราคาขายเริ่มต้นไว้ที่ 2.8 ล้านบาท สำหรับห้อง 40 ตารางเมตร ทั้งนี้ มองว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยว โดยเฉพาะหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ และบริเวณใกล้เคียงเป็นตลาดที่มีความเสถียรสูง กำลังซื้อของผู้บริโภคยังอยู่ในระดับที่ดี โดยที่มีกำลังซื้อทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศที่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจสูงและเป็นกลุ่มที่มองหาซื้อบ้านหลังที่สอง “จากการทำสำรวจธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในย่านหัวหินพบว่า ตัวเลขยอดขายของทุกโครงการที่หัวหิน แม้แต่ในบริเวณอำเภอเขาเต่าดีมาก ทุกโครงการสามารถปิดยอดขายได้อย่างรวดเร็ว” นายสุรินทร์กล่าว สำหรับโครงการ “AMARA” นั้นได้แรงบันดาลใจจากหนังสือนิยายแนวแฟนตาซีเรื่อง “DRAGON Quest” ชื่อ AMARA เป็นชื่อของสถานที่แห่งหนึ่งที่มีน้ำล้อมรอบ 3 ด้าน และมีความสงบสวยงาม และเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าเทพนิยาย ซึ่งเหมาะสมกับที่ตั้งโครงการที่เขาต่าที่มีสภาพแวดล้อมสวย และเห็นทะเลกว้างด้านหน้า จึงได้ให้โจทย์สถาปนิกว่าให้ออกแบบอาคารเป็นลักษณะ Modern เพื่อให้ดูทันสมัย แต่เลือกใช้สีเขียวเข้มที่มีน้ำหนักและให้ความรู้สึกลึกลับน่าค้นหาเหมือนหลุดเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง ซึ่งหลีกหนีจากความวุ่นวายของโลกภายนอก โดยรูปแบบของคอนโดตากอากาศนั้น รูปแบบห้องจะเน้น Exclusive Living ที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่เงียบสงบ เน้นมีความเป็นส่วนตัวสูง เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างอย่างแท้จริง เนื่องจากโครงการมีพื้นที่ติดชายหาดยาวถึง 40 เมตร มีสระว่ายน้ำถึง 2 สระ เพิ่มความกว้างของห้องด้วยบานสไลด์ เพิ่มความเป็นส่วนตัวสูงด้วยเพดานที่สูงถึง 2.45 เมตร ช่วยให้การระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติเป็นไปอย่างเพียงพอ สะท้อนความทันสมัยของไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความแตกต่างที่ลงตัวและต้องการความเป็นส่วนตัวสูง โดยบริษัท ไอโซกรุ๊ป เป็นผู้ออกแบบ ด้านนายศศิพงษ์ สงวนไทย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอโซกรุ๊ป จำกัด กล่าวเพิ่มเติมถึงสไตล์ในการออกแบบว่า การออกแบบโครงการ AMARA จะเป็นสไตล์ Designed Condominium ในรูปแบบ Simple Asian Modern เป็นลักษณะเรียบง่ายแต่ดูหรูหรา มีรสนิยม เป็นตัวของตัวเอง ลักษณะตัวอาคารมีเส้นสายต่างๆในแนวตั้งและแนวนอน รวมไปถึงความมีสีสันของอาคารจะดูเรียบ สงบนิ่ง เป็น Static เมื่อมองแล้วจะไม่เกิดความรู้สึกเบื่อ เป็นลักษณะหรูด้วยความเรียบ “จุดเด่นของโครงการจะอยู่ที่ความเรียบง่าย กลมกลืนทั้งโครงการ การวางผัง ดูเรียบง่าย เน้นมุมมองที่มองเห็นทะเล และสระว่ายน้ำเป็นหลัก เหมือนเข้าไปสู่สถานที่ที่มีความสงบมากๆเหมือนเมืองในเทพนิยายตามที่เจ้าของโครงการได้กำหนดคอนเซ็ปต์มาแต่เริ่มแรก” นายศศิพงษ์กล่าว ขณะที่นายนิรุธ สัจจานิตย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์ที่เลือกใช้สำหรับโครงการ AMARA คือ กลยุทธ์ Blue Ocean เนื่องจากการแข่งขันในปัจจุบันเน้นการแข่งขันที่จะเอาชนะคู่แข่ง ทำให้สินค้ามีลักษณะเป็นแมสมากขึ้น เกิดการแข่งขันด้านราคามากขึ้น จึงทำให้การแข่งขันเป็น Red Ocean ซึ่งสุดท้ายจะไม่ก่อให้เกิดการเติบโตของกำไร โครงการ AMARA จึงไม่เข้าไปในตลาดที่มีการแข่งขันสูง แต่จะทำการค้นหาและสร้างความต้องการใหม่ๆ (อุปสงค์) ทางการตลาดให้เกิดขึ้น (Demand Creation) ทั้งนี้ ความต้องการใหม่ๆ ทางการตลาดคือความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีความเป็นส่วนตัว (Privacy) สูงและเน้นที่อยู่อาศัยที่มีการดีไซน์ที่แตกต่างไม่เหมือนใครในตลาด แต่สามารถอยู่อาศัยได้จริงซึ่งวิธีการสร้างความต้องการใหม่ๆ ทางการตลาดนี้จะใช้กลยุทธ์ Value Innovation คือ 1. สร้างคอนโด จำนวนไม่มากมีเพียงแค่ 97 ยูนิต 2. เน้นการดีไซน์ทั้งภายในและภายนอกคอนโดให้มีดีไซน์และแตกต่าง เช่น อาคารเป็นสีเขียว, Flexible Space คือ ห้องนอนสามารถปรับเปลี่ยนตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้ เป็นต้น “สำหรับในช่วงเปิดตัวนี้เรามีราคาพิเศษ และแถมเครื่องปรับอากาศและชุดครัว Modernform มูลค่ากว่า 200,000 บาท ในทุกยูนิตด้วย” นายนิรุธกล่าว และว่าบริษัทจะไม่เน้นรายการส่งเสริมการขายมากนัก เนื่องจากกลยุทธุ์หลักอยู่ที่การขายโปรดักส์เป็นหลัก นายสุรินทร์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับโครงการอาคารที่อยู่อาศัย “AMARA” นี้ ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทได้ขยายฐานตลาดไปในต่างจังหวัด และหากโครงการนี้ประสบความสำเร็จบริษัทก็พร้อมที่จะขยายการลงทุนไปในจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวอื่นๆเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสในการลงุทนและการสรรหาที่ดินที่เหมาะสมกับการลงทุนในจังหวัดนั้น ๆ ด้วย “ เชิญมาสัมผัสบรรยากาศที่เป็นตัวคุณ “AMARA” ได้แล้ววันนี้ที่ สำนักงานขายเขาเต่า หรือโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-9419631 หรือจะคลิ๊กไปที่ www.amaracondo.com อนึ่ง ปัจจุบันบริษัท เอส.แอล.เอสเตท จำกัด ได้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ไปแล้วจำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย 1. โครงการราชาวดี บ้านเดี่ยวจำนวน 43 ยูนิต มูลค่า 220 ล้านบาท ปิดการขายไปแล้วตั้งแต่ปี 2548-2549 2. โครงการรอยัล ราชาวดี ทาวน์เฮ้าส์หรู 159 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 500 ล้านบาท และโครงการพาร์คราชาวดี บ้านเดี่ยว 65 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 500 ล้านบาท นั้นปัจจุบันยอดขายอยู่ที่ประมาณ 80-85% คาดว่า ปิดการขายได้ทั้งหมดในอีก 4-5 เดือนข้างหน้า ส่วนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 5% บริษัทจะเร่งดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จและปิดการขายได้ทั้งหมดในช่วงไตรมาสสองของปีหน้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ผกากานท์ (ลูกหยี) ภู่ระโหง 081 489-8419 , 02- 910 7998 E-mail: [email protected] , [email protected] สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าวสุรินทร์ องค์วาสิฏฐ์
• ข่าวตลาดคอนโดมิเนียม
• ข่าวเอส.แอล.เอสเตท
• ข่าวคอนโดมิเนียม
• ข่าวอนโดมิเนียม