แพทย์เตือนผู้ปกครองเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไอพีดี ย้ำไม่ใช่โรคใหม่ แต่เป็นแล้วอันตรายและรุนแรง

กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์

กุมารแพทย์โรคติดเชื้อเตือนให้พ่อแม่ผู้ปกครองเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไอพีดี ย้ำไม่ใช่โรคใหม่ แต่มีความรุนแรงมากกว่าเดิม เนื่องจากมีเชื้อดื้อยาจำนวนเพิ่มขึ้น และมีโอกาสเกิดการติดเชื้อ สูง เน้นสร้างภูมิคุ้มกันแก่ทารก เด็กเล็ก ตลอดจนฝึกสุขนิสัยที่ดีแก่สมาชิกในครอบครัว ศ.เกียรติคุณ นพ.ธีรชัย ฉันทโรจน์ศิริ ประธานชมรมโรคระบบหายใจและเวชบำบัดวิกฤตในเด็ก แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากข่าวการเสียชีวิตของน้องโฟร์โมสต์อายุ 1 ขวบ 8 เดือน ที่เสียชีวิตภายในระยะเวลาอันสั้น หลังจากที่ไปพบแพทย์ด้วยอาการไข้ขึ้นสูงและช็อก และแพทย์สันนิษฐานว่าอาจมีความเป็นไปได้ที่ติดเชื้อนิวโมคอคคัสชนิดรุนแรง (โรคไอพีดี) หรือ เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดอยู่นั้น อาจทำให้พ่อแม่ที่มีเด็กเล็กเกิดความตื่นตระหนกเกี่ยวกับโรคดังกล่าว ซึ่งอันที่จริงแล้วโรคไอพีดีนี้ ไม่ใช่โรคใหม่สำหรับคนไทย โดยโรคไอพีดี เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ นิวโมคอคคัส หรือ สเตรปโตคอคคัส นิวโมเนียอี และมีการแพร่กระจายที่รุนแรงไปยังอวัยวะอื่นๆ โดยเชื้อนี้สามารถพบอยู่ในโพรงจมูกและลำคอของคนทั่วไป ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ทำให้เชื้อสามารถแพร่กระจายสู่คนอื่นได้ง่ายคล้ายไข้หวัด จากการไอหรือจาม ทำให้ละอองเสมหะแพร่กระจายออกไป และเมื่อไรก็ตามที่เชื้อเข้าสู่ร่างกายจะสามารถก่อให้เกิดโรคได้ โดยพบว่าอัตราการเป็นพาหะในเด็ก (มีเชื้อในโพรงจมูก แต่ไม่แสดงอาการใดๆ) เฉลี่ยแล้วสูงถึงร้อยละ 26 หรือคิดเป็นอัตรา 1 ใน 4 ของประชากร และปัจจุบันสามารถเพิ่มภูมิต้านทานในการป้องกันโรคด้วยการฉีดวัคซีนไอพีดีในเด็กเล็ก กลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคไอพีดีคือเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี เพราะภูมิคุ้มกันของเด็กยังไม่แข็งแรงเท่าเด็กโตหรือผู้ใหญ่ ถึงแม้ว่าจะเป็นเด็กสุขภาพดีก็ตาม และโอกาสเสี่ยงจะเพิ่มสูงขึ้นในเด็กที่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกลางวัน เด็กที่อยู่ในชุมชนแออัด ในเด็กที่เป็นโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคปอด โรคเบาหวาน และโรคซิกเคิลเซลล์ และในกลุ่มเด็กที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ที่ตัดม้ามออก หรือม้ามทำงานไม่ปกติ ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี เป็นต้น นอกจากนี้ ยังพบว่าสภาพแวดล้อมมีผลต่อการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคติดเชื้อไอพีดี เช่น ในสถานเลี้ยงเด็กกลางวัน (Day care) หรือ เนอสเซอรี่ (Nursery) ที่เด็กเล็กอยู่รวมกันมากๆ และในเมืองใหญ่ที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น “เนื่องจากโรคไอพีดี เป็นโรคที่มีระยะเวลาการดำเนินการของโรคสั้นมาก เพียง 2-3 วัน รวมทั้งอาการเริ่มแรกของโรคคล้ายการเป็นไข้หวัด คล้ายกับโรคติดเชื้อทั่วไป คนส่วนใหญ่จึงมักคิดว่าเป็นไข้ธรรมดา ซึ่งถ้าไม่พาไปพบแพทย์และรับการรักษาได้ทันเวลา เชื้อโรคอาจลุกลามจนทำให้เด็กอาการมากขึ้น ในบางรายถ้าติดเชื้อรุนแรงอาจทำให้เด็กทารกเสียชีวิตจากโรคได้ภายใน 48 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังพบว่าปัจจุบันโรคติดเชื้อไอพีดี ยังมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากพบว่าปัจจุบันเชื้อนิวโมคอคคัสมีอัตราการดื้อยาสูง อีกทั้งยังมีโอกาสเกิดจากการติดเชื้อแทรกซ้อนทั้งจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส ส่งผลให้ทำการรักษาได้ยากขึ้น ทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสพิการ และเสียชีวิตสูง” อย่างไรก็ตาม อาการและระดับความรุนแรงของโรคติดเชื้อไอพีดี จะขึ้นอยู่กับอวัยวะที่ติดเชื้อ ได้แก่ 1) การติดเชื้อเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เด็กจะมีไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน คอแข็ง ในเด็กทารกจะวินิจฉัยยากขึ้นเพราะอาการเบื้องต้นอาจจะยังไม่ชัดเจน เด็กอาจมีอาการงอแง ซึม ไม่กินนม และชักได้ ถ้ารักษาไม่ทันท่วงทีอาจเสียชีวิตหรือเกิดความพิการเช่น เป็นโรคลมชัก หูหนวก ปัญญาอ่อน 2) การติดเชื้อในกระแสเลือด เด็กจะมีไข้สูง ร้องกวน งอแง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา เช่น ช็อก เสียชีวิต นอกจากนี้เชื้ออาจกระจายไปสู่อวัยวะอื่นๆ เช่น เยื่อหุ้มสมอง ปอด กระดูกและข้อ เป็นต้น และ 3) ปอดบวมหรือปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อในกระแสเลือด หรือเกิดจากเชื้อโรคที่เข้าไปในปอดโดยตรง เด็กจะมีอาการไข้ ไอ หายใจเร็ว หอบ เขียว เนื่องจากขาดออกซิเจน ซึ่งอาจรุนแรงถึงต้องใส่เครื่องช่วยหายใจและเสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม เราสามารถป้องกันได้ง่ายๆ โดย การสร้างสุขอนามัยที่ดี ล้างมือบ่อยๆ และ ปิดปาก ปิดจมูกทุกครั้งที่ไอจาม และที่สำคัญที่สุดคือ การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับทารก และเด็กเล็กด้วยการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพื่อให้มีภูมิต้านทานจากแม่ส่งผ่านไปลูกทางน้ำนม และในปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคไอพีดี ซึ่งเป็นอีกวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง พ่อแม่และผู้ปกครองอาจต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าในการฉีดให้ลูกหลาน” ศ.เกียรติคุณ นพ.ธีรชัย ฉันทโรจน์ศิริ กล่าวทิ้งท้าย สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ บุษบา (บุษ) / พิธิมา (ก้อย) โทร. 0-2718-3800 ต่อ 133/135

ข่าวธีรชัย ฉันทโรจน์ศิริ+แห่งประเทศไทยวันนี้

รณรงค์วันปอดบวมโลก 12 พ.ย. 2555

ในโอกาสวันปอดบวมโลก 2555 ซึ่งตรงกับวันที่ 12 พ.ย. 55 ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ สมาคมโรคระบบทางเดินหายใจและเวชบำบัดวิกฤตในเด็กแห่งประเทศไทย จัดแถลงข่าวรณรงค์ “วันปอดบวมโลก 2012” โดย ศ.เกียรติคุณ นพ.ธีรชัย ฉันทโรจน์ศิริ ที่ปรึกษาชมรมโรคระบบทางเดินหายใจและเวชบำบัดวิกฤตในเด็กแห่งประเทศไทย และ รศ.พญ.อัจฉรา ตั้งสถาพรพงษ์ กุมารแพทย์โรคติดเชื้อ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ พร้อมบริการตรวจสุขภาพเบื้องต้นและให้คำปรึกษาการป้องกันโรคปอดบวมในเด็กโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ในวันจันทร์ที่ 12

ภาพข่าว: เปิดการสัมมนา

คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี รองประธานกรรมการมูลนิธิสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ เป็นประธานเปิดการสัมมนา เรื่อง “ทิศทางการวิจัยโรคไตเรื้อรังในประเทศไทย” โดยมี ศ.เกียรติคุณ นพ.ธีรชัย ฉันทโรจน์ศิริ ผู้อำนวยการสถาบันฯ, ศ.กิตติคุณนพ.วิศิษฏ์ สิตปรีชา ประธานคณะกรรมการฝ่ายวิจัยสถาบันฯ ฯลฯ...

ภาพข่าว: เวชธานี หนุนกิจกรรมเพื่อเด็กผู้ด้อยโอกาส

โรงพยาบาลเวชธานี ลาดพร้าว 111 ร่วมสนับสนุนนักเรียน HARROW INTERNATIONAL SCHOOL ที่นำเด็กด้อยโอกาสจากชุมชนสลัมคลองเตยมาร่วมเรียน ร่วมเล่น และทำกิจกรรมกับเด็กนักเรียนนานาชาติ ในการนี้ ทีมกุมารแพทย์ นำโดย ศ.เกียรติคุณ นพ.ธีรชัย ฉันทโรจน์ศิริ , พญ.สินดี...

ภาพข่าว: เวชธานี เปิดตัว Digital Lightbox จออัจฉริยะช่วยผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม

โรงพยาบาลเวชธานี ลาดพร้าว 111 จับมือ Asia Pacific BrainLab Ltd. แถลงข่าวเผยผลวิจัยความสำเร็จการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม พร้อมเปิดตัว Digital Lightbox จออัจฉริยะเสริมศักยภาพการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมผ่านคอมพิว...

ภาพข่าว: รางวัล “นักบริหารโรงพยาบาลเอกชนดีเด่น”

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.ธีรชัย ฉันทโรจน์ศิริ ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลเวชธานี เข้ารับรางวัล “นักบริหารโรงพยาบาลดีเด่น” ประเภทนักบริหารโรงพยาบาลเอกชนดีเด่น ประจำปี 2553 จากสมาคมนักบริหารโรงพยาบาลแห่งประเทศไทย โดยมี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ...

ภาพข่าว: รพ.เวชธานี รุกตลาดอินเตอร์เต็มที่หลังผ่านมาตรฐาน JCI

คณะผู้บริหารโรงพยาบาลเวชธานี นำโดย ดร.ชาคริต ศึกษากิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (กลาง) พร้อมด้วย ศ.เกียรติคุณ นพ.ธีรชัย ฉันทโรจน์ศิริ (ที่ 2 จากขวา) , นพ.บุญรัตน์ เอื้อสุดกิจ (ที่ 2 จากซ้าย) , ศ.คลินิก นพ.เอาชัย กาญจนพิทักษ์ (ซ้ายสุด) และ นพ...

รพ.เวชธานี เชิญชมรายการ 37 องศา ตอน "โรคหลอดเลือดสมองแตก” True Vision 7 (ช่อง TNN 24) 21 มีนาคมนี้

โรงพยาบาลเวชธานี ลาดพร้าว 111 เชิญผู้รักและใส่ใจสุขภาพ ชมรายการ 37 องศา ตอน “โรคหลอดเลือดสมองแตก” คือภาวะที่เส้นเลือดในสมองเกิดการอุดตัน ขาดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการ ตาพร่ามัว ...

ทีวีไกด์: รายการ "37 องศา" ตอน “พินัยกรรมขอตาย...ทำได้จริงหรือ?”

โรงพยาบาลเวชธานี ลาดพร้าว 111 เชิญชมรายการ 37 องศา ตอน “พินัยกรรมขอตาย...ทำได้จริงหรือ?” เมื่อวาระสุดท้ายของชีวิตใกล้เข้ามา หากผู้ป่วยต้องการปฏิเสธการรักษาจะทำได้หรือไม่ แพทย์ผู้ทำการรักษาผิดหรือไม่ ไขทุกข้อข้องใจกับ นพ.ชาตรี เจริญศิริ...

รพ.เวชธานี ให้การต้อนรับอดีตรัฐมนตรีบังคลาเทศ

ชาคริต ศึกษากิจ กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลเวชธานี ให้การต้อนรับ และมอบของที่ระลึกเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ แก่ Mr. Shehkh Abdul Hye อดีตรัฐมนตรี ประเทศบังคลาเทศ และครอบครัวที่มาใช้บริการตรวจสุขภาพประจำปี โดยมี ศ.เกียรติคุณ นายแพทย์ธีรชัย ฉันทโรจน์ศิริ...

แพทย์เตือนผู้ปกครองเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไอพีดี ย้ำไม่ใช่โรคใหม่ แต่เป็นแล้วอันตรายและรุนแรง

กุมารแพทย์โรคติดเชื้อเตือนให้พ่อแม่ผู้ปกครองเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไอพีดี ย้ำไม่ใช่โรคใหม่ แต่มีความรุนแรงมากกว่าเดิม เนื่องจากมีเชื้อดื้อยาจำนวนเพิ่มขึ้น และมีโอกาสเกิดการติดเชื้อ สูง เน้นสร้างภูมิคุ้มกันแก่ทารก ...