วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม 2551) เวลา 11.15 น. นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงข่าวกรมศุลกากรจับกุมยาสูบ(บาระกู่) สินค้าลักลอบหนีศุลกากร และสินค้าละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา มูลค่าประมาณ 11.2 ล้านบาท
ตามที่กรมศุลกากรได้เร่งรัดปราบปรามสินค้าหนีภาษี สินค้าละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา สินค้าที่เป็นอันตรายต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมศุลกากร จึงได้สั่งการให้ นายสังกรณ์ พึ่งประดิษฐ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร วางแผนร่วมกับนายธนัท สุวัธนเมธากุล ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม โดยมอบหมายให้ นายเสรี ไทยจงรักษ์ ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 1 นายวิจักษณ์ อภิรักษ์นันท์ชัย ผู้อำนวยการส่วนสืบสวนปราบปราม 2 ร่วมกันดำเนินการวางแผนจับกุมผู้กระทำผิด โดยมีผลการจับกุมระหว่างวันที่ 8-9 มกราคม 2551 ดังนี้
- จับกุมยาสูบ(บาระกู่) น้ำหนักรวมประมาณ 248 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 1.24 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามของศุลกากรปราณบุรี ได้ตรวจค้นรถยนต์โดยสารประจำทางปรับอากาศ เส้นทางด่านนอก – หาดใหญ่ – กรุงเทพฯ และรถประจำทางปรับอากาศ สุไหงโก-ลก – กรุงเทพฯ
-จับกุมไหมดิบ จำนวน 1,000 กิโลกรัม และนาฬิกา กระเป๋าถือสตรี ยี่ห้อต่างๆ เช่น ROLEX , CARTIER , OMEGA , CHANEL , D&G , PRADA ฯลฯ ซึ่งเป็นสินค้าละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา และสินค้าอื่นๆ มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ซุกซ่อนในรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ หมายเลขทะเบียน 80-2926 นครพนม ซึ่งมีนายสมใจ หาญชนะ เป็นผู้ขับขี่ บริเวณริมถนนสาย 212 ก่อนถึงที่ว่าการอำเภอเลิงนกทา ประมาณ 100 เมตร จ.ยโสธร
-จับกุมสินค้าละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา ประเภท โทรศัพท์มือถือ แท่นชาร์จโทรศัพท์ สายชาร์จโทรศัพท์ หูฟังโทรศัพท์ ยี่ห้อ NOKIA, SONY ERICSON ฯลฯ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท จากการตรวจค้นอาคารเลขที่ 73/19 แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร โดยมี นางสาวนัดดา วิจิราม เป็นผู้ต้องหา
กรณีดังกล่าวเป็นความผิดฐานนำของที่ไม่ได้เสียค่าภาษี ของต้องห้าม ต้องกำกัด เข้ามาในราชอาณาจักร หรือรับไว้ด้วยประการใดฯ ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ข้อห้าม ข้อกำกัด อันเป็นความผิดตามมาตรา 27,27 ทวิ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบมาตรา 16,17 พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับ9) พ.ศ.2482 ประกอบมาตรา 108-110 พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ยึดเป็นของกลางพร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งกรมศุลกากรเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป