กรุงเทพฯ--7 มี.ค.--เอสจีเอส
ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ เอสจีเอส เปิดโครงการ Road Show Seminar ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการไทย เพื่อเตรียมความพร้อมและแนะนำแนวทางการรับมือ กับข้อกำหนด และกฏหมาย PFOS ต่อสินค้าที่จะส่งไปจำหน่ายยังสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2551 นี้ โดยสัมมนานี้จะไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เอสจีเอสมุ่งหวังให้ผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกชาวไทย ไม่เสียเปรียบต่อข้อบังคับ และสามารถแข่งขันทางธุรกิจได้ เปิดสัมมนาให้ความรู้ครั้งแรกวันที่ 7มีนาคม พ.ศ. 2551 ที่จังหวัดอยุธยา คุณประดิษฐ์ ยงศ์พันธ์ชัย ผู้จัดการฝ่ายห้องปฎิบัติการวิทยาศาสตร์ เอสจีเอส กล่าวถึง ความเป็นมาของการห้ามใช้สาร PFOS ว่า “สื่บเนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็ว และการแข่งขันทางด้านเทคโนโลยีของอุตสาหกรรม กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมไปถึงอุตสาหกรรมเครื่องหนัง และสิ่งทอ ทำให้ปัจจุบันผู้ผลิตชั้นนำต่างหันมาให้ความสนใจและช่วงชิงการเป็นผู้นำตลาดโดยการพัฒนาสินค้าที่รักษ์สิ่งแวดล้อม และทำให้ผู้ประกอบการรายอื่นมีการตื่นตัวตามในการผลิตสินค้าของตนเอง โดยมุ่งหวังน่าจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภคเช่นกัน ที่จะได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง และยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมของเราด้วย” "เจ้าสาร PFOS นี้ ด้วยคุณสมบัติของเขาเองมีประโยชน์มากต่อวงการอุตสาหกรรมต่างๆ เพราะ มีคุณสมบัติไม่ติดน้ำ ไม่ติดไขมัน ไม่จับฝุ่น ใช้ลดแรงตึงผิว และสามารถใช้ในงานที่ทนสารเคมีในอุณหภูมิสูง แต่ PFOS ก็ให้โทษมหันต์เช่นกัน เพราะ PFOS เป็นสารที่คงอยู่นาน (Persistent) สะสมในสิ่งมีชีวิต (Bio accumulative) และเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม มีรายงานการตรวจพบ PFOS ในหมีขั้วโลก หมาป่า ในแถบอาร์ติก ปลาโลมาที่ฟอร์ริดา แมวน้ำและนากในแคลิฟอร์เนีย นกอัลบาทรอสในกลางแปซิฟิก และในมนุษย์ทั่วโลก นอกจากนี้ สาร PFOS ไม่เหมือนสารประกอบตัวอื่นที่คงอยู่ได้นานในสภาวะแวดล้อมทั่วไป เพราะ PFOS ไม่สะสมในไขมันแต่จะไปยึดติดกับโปรตีนแทน และด้วยความอันตรายของ PFOS นี้ จึงทำให้ EU ออกมาตรการอย่างเข้มงวด เพื่อเป็นข้อข้อกำหนดในการห้ามนำเข้าสาร PFOS ” คุณประดิษฐ์ กล่าว สาร PFOS สามารถเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ โดยการรับประทานเข้าไป ซึ่งถ้าสะสมในปริมาณน้อยก็จะไม่มีผลใดๆ ต่อร่างกาย และถ้ามาก ก็อาจจะนำไปสู่การเกิดเป็นโรคมะเร็งได้ในที่สุด อย่างไรก็ดี จากการที่ผู้ประกอบการได้ส่งตัวอย่างของผลิตภัณฑ์มา ทำการตรวจสอบที่ห้องปฏิบัติการ เอสจีเอส มากกว่า 100 ตัวอย่าง ยังไม่พบสาร PFOS ปนเปื้อนอยู่ในตัวอย่างเหล่านั้น จะมีพบก็คือ สาร PFOA หรือ Perfluorooctanoic Acid ซึ่งมีคุณสมบัติและอันตรายเหมือน PFOS “ในความคิดเห็นของผมนั้น การที่ EU ออกข้อกำหนดต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าที่จะจำหน่ายยัง 27 ประเทศทั่วสหภาพยุโรป ตั้งแต่ ROSH REACH หรือ แม้กระทั่ง PFOS นั้น สามารถมองได้ 2 มุม คือ เขาต้องการผู้บริโภคได้ใช้หรือบริโภคสินค้าที่ปลอดภัยต่อชีวิตและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจริงๆ แต่ถ้า EU เลือกสุ่มตรวจเฉพาะบางประเทศ หรือ สินค้าที่ผลิตจากบ้านเขาและส่งขายไปยังประเทศอื่นกลับมีสารอันตรายปนเปื้นอยู่ นั้นหมายความว่า EU ต้องการกีดกันทางการค้า โดยเอาข้อกำหนดและกฏหมายเหล่านี้มาสร้างเงื่อนไข” คุณประดิษฐ์ กล่าวเสริม ความตื่นตัวของผู้ประกอบการไทยต่อสาร PFOS ยังมีไม่มากนัก อาจเพราะยังขาดความรู้ความเข้าใจที่ดีพอเกี่ยวกับข้อกำหนด กฏหมาย และโดยเฉพาะความรู้เกี่ยวกับสาร PFOS บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด จึงจัดโครงการ Road Show Seminar ขึ้นในเขตอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อความสะดวกสบายให้กับผู้ประกอบการในการเดินทาง รวมทั้งเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการไทย ที่จะสามารถปรับตัว และ พัฒนาสินค้าของตนเองได้อย่างต่อเนื่องไปพร้อมกับตลาดโลก คุณประดิษฐ์ย้ำถึงความตั้งใจในการจัด Road Show Seminar ว่า “เราอยากเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ให้สามารถแข่งขันทางการค้าในตลาดโลกได้ โดยเฉพาะสหภาพยุโรป เอสจีเอส เราจึงนำความรู้ที่เราเชี่ยวชาญ คือการตรวจสอบ และข้อมูล
รายละเอียดของ PFOS มาให้ความรู้กับผู้ประกอบการไทย” สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมสัมมนา
สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คุณนวพร พันธุ์พงษ์สิทธิ์ 02 – 683 0541 # 2129
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit