ผ่านไปแล้วกับวงเสวนาระดมสมองเรื่อง “Creativity; The Key to successful life ” จัดขึ้นโดยนิตยสาร Modern Mom นิตยสารเลี้ยงลูกยอดนิยมของคุณแม่ยุคใหม่เพื่อความสมดุลของชีวิต ในเครือของบริษัท รักลูกแฟมิลี่กรุ๊ป จำกัด โดยมีเหล่าวิทยากร และบรรดาผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาอาชีพ มาร่วมถ่ายทอดถึงวิธีคิด ความสำคัญในการเลี้ยงดู ตลอดจนความจำเป็นในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นในวัยเด็ก เพราะ “ความคิดสร้างสรรค์” หรือ ที่รู้จักกันดี “ครีเอทีฟ” เป็นสิ่งที่สามารถสร้าง และเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ใช่เป็นพรสวรรค์ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่กลับเป็นพรแสวงที่สามารถเรียนรู้ได้จากสิ่งแวดล้อมรอบด้าน โดยได้รับเกรียติจาก 5 วิทยากรชั้นนำ ได้แก่ ดร.รอม หิรัญพฤกษ์ รองผู้อำนวยการศูนย์บริหารและจัดการเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) , คุณศรัทธา ศรัทธาทิพย์ หรือครูรักแห่ง อคาเดมี่แฟนตาเซีย , คุณภูวฤทธิ์ ภูวภิรมย์ขวัญ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลช้างเผือก และคุณจิตกร บุษบา บรรณาธิการบทความนิตยสารลิปส์ นักเขียน นักวิจารณ์วรรณกรรม มาร่วมแชร์และตกผลึกประสบการณ์ความคิดร่วมกัน อย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง ให้กับบรรดา พ่อ แม่ ผู้ปกครอง และผู้สนใจฟังอย่างคับคั่ง
นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพเด็กและเยาวชน สถาบันรักลูก กล่าวว่า ความคิดสร้างสรรค์เกิดคิดจากการทำงานของสมองทุกส่วน เป็นความสามารถของผลผลิตอะไรใหม่ๆ ที่ใช้งานได้ และเป็นทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากการต่อยอดความรู้ สามารถแก้ไขปัญหาได้ โดยหัวใจสำคัญที่จะทำให้เกิดความสร้างสรรค์ได้ต้องอาศัยแรงจูงใจเพื่อก่อให้เกิดความเป็นอิสระท้าทายให้เกิดการอยากลอง โดยความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถสร้างเองได้ โดยอาศัยปัจจัยและสิ่งแวดล้อมรอบด้าน ทั้งการเลี้ยงดู โรงเรียน บ้าน และเพื่อน ซึ่งอิบายได้ในลักษณะของกระบวนความคิด (Process) ลักษณะผลผลิต (Product) และลักษณะพฤติกรรมที่แสดงออก (Personality)
ปัจจุบันความคิดสร้างสรรค์หรือ Creativity ได้รับการกล่าวถึงน้อยมากเมื่อเทียบกับ IQ หรือการเรียนรู้ประเภทอื่น เพราะการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับสถานการณ์ของสังคมไทยในปัจจุบัน ในสภาวะเศรษฐกิจแบบฐานความรู้ ผู้ที่มีความคิดแตกต่าง กว้างไกล สร้างสรรค์ ถึงจะอยู่รอดปลอดภัย ความคิดสร้างสรรค์ต้องพัฒนากันตั้งแต่ในระดับปฐมวัย เพราะช่วงเวลานี้เด็กสามารถซึมซับสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ครูและผู้ปกครองควรใส่ใจ และให้อิสระแก่เด็กในการแสดงออกทางความดิด ส่งเสริมบรรยากาศความคิดให้อบอุ่น ปลอดภัย โดยลักษณะเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์ จะสังเกตได้จากการแสดงพฤติกรรมเช่น อยากรู้อยากเห็น ชอบสำสรวจ ชอบซักถามและมีคำถามแปลกใหม่ๆเกิดขึ้เสมอ มีความเป็นตัวของตัวเอง กล้าคิดกล้าแสดงออก และมีความสุขกับการแสดงจินตนาการ” นพ. อุดมกล่าว
สำหรับการเสวนาระดมสมองในครั้งนี้ เพื่อต้องการกระตุ้นให้พ่อแม่ และผู้ให้การเลี้ยงดูเด็กรวมถึงสังคม หันมาเห็นความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ และที่สำคัญจะเน้นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องว่าความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่แค่การวาดรูปเท่านั้น เพราะทุกๆ สาขา อาชีพ ก็จำเป็นที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เหมือนกัน
คราวนี้คงถึงเวลาแล้ว ที่ทุกคน โดยเฉพาะพ่อและแม่ ผู้ปกครอง ตลอดจนโรงเรียน ต้องเปิดโอกาสและพัฒนาให้เด็กเกิดกระบวนการคิดอย่างอิสระ ได้เต็มที่ เพราะบุคลลเหล่านี้ล้วนมีส่วนสำคัญอย่างมากในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก โดยต้องหันมาให้ความสำคัญในการพัฒนา กระบวนการเรียนรู้ ความคิดเชิงสร้างสรรค์ ให้เกิดขึ้น เพราะการนำความคิดสร้างสรรค์ไปปรับใช้ในการเรียนและชีวิตประจำวัน เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ แต่ก็ต้องมีเทคนิคในการนำมาประยุกต์ใช้ ซึ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการค้นหาตัวเอง รู้ว่าตนเองชอบและไม่ชอบอะไรสามารถทำได้
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
คุณจิตต์สิริ กลิ่นบุญนาค jitsiri glinboonnak
E-mail:
[email protected]
บริษัท พิตอน คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
โทรศัพท์: 0-2612-2211-7
โทรสาร: 0-2612-2319