ลอสแองเจลิส--14 มี.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
บริษัทยายักษ์ใหญ่ปฏิเสธที่จะนำเสนอยาใหม่ๆในประเทศไทยซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโรคเอดส์ หลังจากรัฐบาลไทยประกาศบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยา (Compulsory License) สำหรับยา Kaletra ของบริษัทแอ็บบอต ซึ่งเป็นการบังคับใช้เพื่อช่วยชีวิตประชาชนในไทย
มูลนิธิให้ความรู้ การป้องกันและการดูแลสุขภาพด้านไวรัส HIV/AIDS รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา เห็นว่า การกระทำที่แล้งน้ำใจของ บริษัทแอ็บบอต แล็บบอราทอรี่ส์ (Abbott Laboratories) เป็นการลงโทษประชาชนยากจนที่ต้องการความช่วยเหลือ และเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความละโมบของบริษัทยา
วันนี้ มูลนิธิดูแลสุขภาพผู้ป่วยโรคเอดส์ (AIDS Healthcare Foundation /AHF) ซึ่งเป็นผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและการดูแลสุขภาพที่เกี่ยวกับไวรัส HIV/AIDS รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา และดำเนินงานด้านคลินิกรักษาโรคเอดส์โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในสหรัฐอเมริกา ทวีปแอฟริกา ละตินอเมริกา/แคริบเบียน และเอเชีย ประณามบริษัทแอ็บบอต แล็บบอราทอรี่ส์ ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอย่างรุนแรง จากการที่แอ็บบอตตัดสินใจอย่างไร้น้ำใจด้วยการขึ้นบัญชีดำประเทศไทยและถอดถอนใบแจ้งความจำนงค์ในการจำหน่ายยาตัวใหม่ในขณะที่เรื่องดังกล่าวยังอยู่ในกระบวนการทบทวนของรัฐบาลไทย ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการกำจัดสิทธิประเทศไทยและประชาชนในการเข้าถึงยาตัวใหม่ๆของบริษัทแอ็บบอต การกระทำดังกล่าวของแอ็บบอตเป็นการตอบโต้ที่เห็นแก่ตัว หลังจากที่ประเทศไทยได้ประกาศบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยาเหนือยา Kaletra ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสเอดส์ ที่ผลิตโดยบริษัทแอ็บบอตและใช้เพื่อรักษาโรค HIV/AIDS ทั้งนี้ กฎขององค์การการค้าโลก (WTO) ครอบคลุมถึงความยืดหยุ่นและการอนุญาตให้รัฐบาลในประเทศต่างๆประกาศบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยาได้โดยไม่ต้องปรึกษาเจ้าของสิทธิบัตรต่างประเทศ หากประเทศนั้นๆเห็นว่ามีความจำเป็นและมีเหตุอันเหมาะสมที่จะปกป้องสุขภาพของประชาชนในประเทศของตน
"ผมเกรงแอ็บบอต จะจำกัดสิทธิของคนยากจนที่มีความจำเป็นต้องใช้ยา เพื่อจะรักษาชีวิตเอาไว้ โดยเฉพาะผู้ป่วยด้วยโรค HIV/AIDS ในประเทศที่มีการระบาดของโรคสูงเช่นประเทศไทย" ไมเคิล ไวน์สไตน์ ประธานมูลนิธิดูแลสุขภาพผู้ป่วยโรคเอดส์ กล่าว "หนังสือพิมพ์วอลสตรีท เจอร์นัล รายงานพาดหัวหน้าหนึ่งเมื่อเร็วๆนี้ โดยเปิดโปงบริษัทแอ็บบอตว่า ใช้วิธีการสกปรกและเลวร้ายอย่างไรในการรักษาส่วนแบ่งการตลาด และผลักดันธุรกิจด้วยการกำหนดราคายาและผลิตภัณฑ์ที่สูงเกินจริง ส่วนในกรุงวอชิงตันนั้น คณะกรรมการกำกับดูแลแห่งรัฐสภาคองเกรส กำลังตรวจสอบนโยบายและการตั้งราคาสูงเกินจริงของแอ็บบอตด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกัน แอ็บบอต ได้ขึ้นบัญชีดำด้วยความหยิ่งยโสต่อประเทศที่กล้าหาญเช่นประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศพยายามทำสิ่งที่ถูกต้องสำหรับประชาชนของตน ช่างเป็นเรื่องที่น่าตกใจ"
หลังจากที่ประเทศไทยได้ประกาศบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยา Kaletra เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แอ็บบอตได้เริ่มเจรจาเพื่อต่อรองเรื่องการลดราคากับเจ้าหน้าที่ประจำประเทศไทย โดยไทยเต็มใจที่จะเข้าร่วมในการเจรจาต่อรองดังกล่าว แต่แอ็บบอตจะลดราคายาลงมาเพียง 200 เหรียญสหรัฐ จากราคา 2,200 เหรียญสหรัฐ(ต่อคนต่อปี) ซึ่งคาดว่าการประกาศใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยาทั่วไปในกลุ่มยา Kaletra ของไทยนั้นจะทำให้มีราคายาอยู่ที่ระดับประมาณ 1,000 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อปี
ผลผกระทบเบื้องต้นที่เกิดขึ้นจากกรณีที่แอ็บบอตสกัดกั้นไม่ให้มีการอนุมัติจำหน่ายยาตัวใหม่ๆในประเทศไทยนั้น อาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง การประกาศใช้ยาสำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี หรือผู้ป่วยโรคเอดส์นั้นเกี่ยวข้องกับยา Kaletra (หรือที่เรียกว่ายา Aluvia) ของแอ็บบอต ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการอนุมัติให้มีการใช้รักษาผู้ป่วยในประเทศไทย ทั้งนี้ แอ็บบอตอาจเพิกถอนคำขอจดทะเบียนยาใหม่ในประเทศไทย ตามข้อสรุปที่มีขึ้นวันนี้
นายโฮมายูน กาห์นลู ผู้อำนวยการด้านเวชภัณฑ์สำหรับมูลนิธิดูแลผู้ติดเชื้อเอดส์ กล่าวว่า"หากไม่มียา Aluvia สำรองในคลังยาที่ใช้ในการรักษาเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือเอดส์ ประเทศไทยจะมีแต่ยาที่มีราคาสูงสำรองอยู่ในคลัง ซึ่งประชนที่ติดเชื้อเอดส์ก็จะยิ่งน่าเวทนามากขึ้นเนื่องจากไม่สามารถหายามารักษาได้ และจะต้องเผชิญชีวิตพร้อมกับโรคร้ายต่อไปโดยที่ไม่ได้รับยาในกลุ่ม Kaletra เลย ทั้งนี้ ในขณะที่ภาวะต้านฤทธิ์ยาเป็นประเด็นที่น่ากังวลสำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV นั้น การเข้าถึงยาที่ใช้เพื่อรักษาชีวิตก็เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน
ด้านนายเทอร์รี่ ฟอร์ด ผู้อำนวยการมูลนิธิดูแลผู้ติดเชื้อเอดส์ของระดับโลกเปิดเผยว่า "พวกเราเข้าใจถึงการประกาศใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร ซึ่งรัฐบาลไทยได้ปฏิบัติตามข้อบังคับสากลทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับแอ็บบอตเพื่อวางจำหน่ายยาชุด Kaletra ทั้งหมด โดยมูลนิธิดูแลผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์ได้ให้การรักษาผู้ป่วยจากทั่วโลกผ่านทางคลีนิกของมูลนิธิโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และพวกเรารู้ว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง ผมรู้สึกเสียใจที่แอ็บบอตดำเนินการอย่างเลือดเย็น และเรียกร้องให้บริษัทดังกล่าวพิจารณาอนุมัติให้มีการวางจำหน่ายยาเพื่อรักษาชีวิตผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องใช้ยาในประเทศไทย และที่อื่นๆ
ขณะนี้มูลนิธิดูแลผู้ติดเชื้อเอดส์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้ให้การรักษาผู้ป่วยผ่านทางคลีนิกโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในประเทศต่างๆ อาทิ อินเดีย จีน และ กัมพูชา และกำลังเปิดศูนย์แห่งใหม่ในประเทศเวียดนาม
แหล่งข่าว: มูลนิธิดูแลผู้ติดเชื้อเอดส์ (AHF)
ติดต่อ: เกด เคนส์เลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสาร
โทร +1-323-860-5225
โทรศัพท์มือถือ: +1-323-791-5526
อีเมล์: [email protected] ,
หรือ ลอริ เยกเฮียหยาน
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร
โทร +1-323-860-5227,
โทรศัพท์มือถือ +1-323-377-4312,
อีเมล์: [email protected]
ทั้งคู่จากมูลนิธิดูแลผู้ติดเชื้อเอดส์(AHF)
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net )--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit