ห้องอาหารพิซเซอเรีย"โรงแรมนารายณ์"ปิดตำนานพิซซ่าเจ้าแรกของไทย เตรียมทุ่มงบกว่า 12 ล้านบาท เปิดห้องอาหารอิตาเลี่ยนหรูแห่งใหม่บนถนนสีลม

22 May 2006

กรุงเทพฯ--22 พ.ค.--โรงแรมนารายณ์

โรงแรมนารายณ์ ปล่อยหมัดเด็ดสวนกระแสศึกตลาดพิซซ่าที่มาแรง เตรียมปิดตำนานห้องอาหาร "พิซเซอเรีย" ผู้บุกเบิกพิซซ่าเจ้าแรกของไทยในขณะที่เป็นช่วงขาขึ้น ...เผยวางแผนกลยุทธ์เด็ดทางตลาดรูปแบบใหม่ด้วยการทำ "รีแบนด์ดิ้ง" (Rebrading) โดยทุ่มงบกว่า 12 ล้านบาทเนรมิตห้องอาหารอิตาเลี่ยนสุดหรูใหม่เอี่ยมบนถนนสีลม ที่ชื่อ "เป๊ปเป้อโรนี" (Peperoni) หวังโกยใจคนไทยและคนต่างชาติ ซึ่งมั่นใจว่ามีความโดดเด่นกว่าพิซซ่าเรียหลายเท่า...พร้อมเตรียมเปิดให้บริการภายในเดือนกันยายน 2549 นี้ โดยตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 15%

นายพิเชษฐ นิธิวาสิน กรรมการผู้อำนวยการ โรงแรมนารายณ์ เปิดเผยว่าในขณะนี้โรงแรมมีนโยบายที่จะปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ทั้งหมดด้วยการวางแผนงานรีโนเวชั่น (Renovation) ครั้งใหญ่ และการทำ "รีแบนด์ดิ้ง" (Rebrading) ซึ่งในช่วงมกราคมที่ผ่านมาทางโรงแรมได้ดำเนินการปรับปรุงโฉมห้องพักในชั้นที่ 3 และ 12 ที่เพิ่งแล้วเสร็จและขณะนี้กำลังดำเนินการปรับปรุงชั้นที่ 9 ใหม่หมด โดยงบประมาณไม่ต่ำกว่า 12 ล้านบาท เพื่อยกระดับให้โรงแรมนารายณ์เป็นโรงแรมที่มีความทันสมัย และตอบสนองกลุ่มลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติให้มากยิ่งขึ้น และล่าสุดโรงแรมนารายณ์มีแผนที่จะปิดห้องอาหารพิซเซอเรีย ซึ่งถือเป็นห้องอาหารที่เปิดให้บริการพิซซ่าดั้งเดิม เป็นแห่งแรกของประเทศไทยที่อยู่คู่กับโรงแรมนารายณ์มากว่า 30 ปีพร้อมกับเตรียมจัดสรรงบประมาณกว่า 12 ล้านบาท เพื่อเปิดห้องอาหารอิตาเลี่ยนที่ทันสมัยแห่งใหม่ที่มีชื่อว่า "เป๊ปเป้อโรนี" (Peperoni) ให้บริการแก่ลูกค้าภายในเดือนกันยายน 2549 นี้

ทั้งนี้นายพิเชษฐ กล่าวว่าที่ผ่านมาทางโรงแรมนารายณ์ได้มีการโอนธุรกิจพิซซ่าในนามของนารายณ์พิซซาเรียให้กับกลุ่มเจ.เพรส.เป็นที่เรียบร้อยเมื่อปี 2545 แต่อย่างไรก็ตามโรงแรมนารายณ์ยังคงเปิดบริการพิซซ่าที่ห้องอาหารพิซเซอเรียดังกล่าว ณ ชั้น G ของโรงแรมเป็นปกติมากว่า 30 ปี แล้ว ดังนั้นเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจด้านงานบริการ ทางโรงแรมจึงมีแนวคิดที่จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางการตลาดแนวใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการทำ "รีแบรนด์ดิ้ง" ที่ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่และฉีกตัวเองออกไปจากเดิมอีกทั้งเพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น จึงมีนโยบายที่จะปิดห้องอาหารพิซเซอเรีย อย่างเป็นทางการเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2549 นี้เป็นต้นไป

"ถึงแม้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา ผลประกอบการของห้องอาหารพิซเซอเรียยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยภาพรวมของยอดขายของ ห้องอาหารพิซเซอเรียนั้นสามารถทำกำไรให้กับธุรกิจโรงแรมนารายณ์ในอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมามีอัตราเติบโตอยู่ที่ 16% และล่าสุดตัวเลขยอดขายภายในไตรมาสแรกของปี 2549 นี้มียอดขายร่วม 9 ล้านบาทเศษ โดยมีลูกค้าทั้งคนไทยและคนต่างชาติมาใช้บริการ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลสำคัญที่จะทำให้โรงแรมนารายณ์หยุดอยู่กับที่เราจึงพยายามปรับเปลี่ยนห้องอาหารพิซเซอเรีย ให้เป็นห้องอาหารแห่งใหม่ในสไตล์อิตาเลี่ยนที่ทันสมัยและแตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง แต่ยังคงรักษาความคลาสสิคแห่งรสชาติของพิซซ่าอยู่เช่นเดิม โดยเน้นที่อาหารอิตาเลี่ยนขนานแท้เป็นหลัก ทั้งนี้โรงแรมได้ตั้งเป้าที่จะมีรายได้จากห้องอาหารอิตาเลี่ยนเพิ่มสูงถึง 20%ภายในปีนี้ และตั้งเป้าที่จะครองส่วนแบ่งในตลาดกว่า 15%นายพิเชษฐ กล่าว

ทางด้านนายสุรัตน์ พาชู ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมนารายณ์ กล่าวว่า สำหรับห้องอาหารแห่งใหม่นี้มีชื่อว่า "เป๊ปเป้อโรนี" (Peperoni) ซึ่งมีความหมายเป็นไทยว่า "พริก" มีสัญลักษณ์เป็นขวดไม้สำหรับบดเมล็ดพริกไทยแห้งขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของห้องอาหารใหม่ทั้งหมด โดยมี concept เป็นห้องอาหารอิตาเลี่ยนแนวใหม่ ที่มีความทันสมัย สำหรับการตกแต่งภายในห้องอาหารเน้นโทนสีสดใส มีชีวิตชีวา และดีไซน์ให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ดูอบอุ่น โล่ง โปร่งสบาย ส่วนบริเวณภายนอกห้องอาหารเป็นลักษณะเทอเรสที่ออกแบบเป็น open-air โดยลูกค้าจะเกิดความรู้สึกที่เป็นอิสระ สะดวกสบายมีสีสันที่สนุกสนาน ในบรรยากาศแบบเป็นมิตร พร้อมกันนี้ได้มีการปรับเปลี่ยนเมนูเป็นอาหารอิตาเลี่ยนใหม่ทั้งหมด ภายใต้การดูแลจาก Mr. Vittorio Bertini เชฟชาวอิตาเลี่ยนมืออาชีพผู้สั่งสมประสบการณ์จากห้องอาหารอิตาเลี่ยนชั้นนำของสหรัฐอเมริกา มาเป็นที่ปรึกษาให้คำแนะนำในด้านอาหารอิตาเลี่ยนแก่โรงแรมนารายณ์โดยเฉพาะ โดยพ่อครัวจะโชว์การปรุงอาหารให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงวิธีการปรุงอาหารอย่างใหล้ชิด

นายสุรัตน์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้โรงแรมนารายณ์ยังทุ่มงบคัดเลือกพนักงานใหม่ทั้งชายและหญิงที่เป็นคนรุ่นใหม่ ไฟแรง มีความรู้ ความสามารถและมีประสบการณ์ในการบริการแก่ลูกค้าโดยเฉพาะ พร้อมกันนี้โรงแรมนารายณ์ได้เตรียมการจัดฝึกอบรมพนักงานประจำห้องอาหารใหม่นี้ทั้งหมด พร้อมกับมุ่งเน้นฝึกอบรมเสริมทักษะต่าง ๆ พนักงานให้มีความรู้จริง มีทัศนคติที่ดี มีความเข้าใจและสามารถให้บริการที่ดีแก่ลูกค้า ให้เกิดความประทับใจทุกครั้งที่มาใช้บริการรวมถึงแนวทางการสร้างกลยุทธ์ในการให้บริการที่ดีแก่ลูกค้า ให้เกิดความประทับใจทุกครั้งที่มาใช้บริการรวมทั้งแนวทางการสร้างกลยุทธ์ในการบริการที่เหนือชั้น ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดพนักงานกล่าวทักทายลูกค้าเป็นภาษาอิตาเลี่ยน เพื่อให้ลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้เกิดความประทับใจทุกครั้งเมื่อมาใช้บริการ รวมทั้งกลยุทธ์อื่น ๆ อีกด้วย

นายสุรัตน์ กล่าวเสริมอีกว่าโรงแรมนารายณ์ถือเป็นหลักการรีโนเวตและรีแบรนด์ดิ้งให้สำเร็จได้นั้นนอกเหนือจากการปรับเปลี่ยนโฉมโรงแรมให้ดูทันสมัยและเข้าถึงลูกค้าได้แล้วนั้น การบริหารคนโดยเฉพาะผู้ที่ทำหน้าที่ให้บริการ นับเป็นปัจจัยที่โรงแรมนารายณ์ให้ความสำคัญเสมอมาทั้งนี้เพื่อให้ทันต่อสภาบะการแข่งขันที่รุนแรง ในธุรกิจด้านโรงแรมทที่กำลังเติบโตอย่างไม่มีวันสิ้นสุดในขณะนี้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ

นายยงยุทธ ดุจธังกร

รองผู้จัดการทั่วไป

โรงแรมนารายณ์ ถนนสีลม กรุงเทพ

โทร 02-237-0100 ต่อ 8419