บริษัท โอกิลวี่วัน เวิลด์วายด์ ประเทศไทย เอเจนซี่ที่ปรึกษาด้านการตลาด และความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) ชั้นนำของไทย เปิดเผยผลสำรวจ OgilvyOne Executive Poll ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้บริหารจากบริษัทชั้นนำต่าง ๆ ยอมรับว่าการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านรัฐบาลที่เกิดขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจในปีนี้ แต่ก็ยังคงมีแผนเพิ่มงบด้านการตลาดต่อไป แต่ต้องใช้ความระวัดระวังมากขึ้น
ในการจัดทำแบบสำรวจครั้งนี้ โอกิลวี่วันได้ร่วมมือกับเว็บไซต์ MSN.com และนิตยสารแบรนด์เอจ โดยมีผู้บริหารจากบริษัทต่าง ๆ ของไทยจำนวน 325 คนร่วมตอบแบบสอบถาม ซึ่งครอบคลุมประเด็นเกี่ยวกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ การใช้งบประมาณเกี่ยวกับกิจกรรมด้านสื่อการตลาด และพฤติกรรมของผู้บริโภค ผู้ตอบแบบสอบถามมาจากกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค สื่อสาร ธนาคาร การเงิน ประกันภัย อสังหาริมทรัพย์ โทรคมนาคม เป็นต้น
นางกนกพร นิตย์ธีนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอกิลวี่วัน เวิลด์วายด์ ประเทศไทย กล่าวถึงผลการสำรวจครั้งนี้ว่า ”จะเห็นได้ว่า แม้ปีนี้จะมีปัจจัยที่กระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนอยู่มากมาย แต่บริษัทต่าง ๆ ก็ยังให้ความสำคัญกับการทำการตลาด โดยเน้นการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าหรือ CRM และการใช้สื่อแบบ interactive มากขึ้นในการสื่อสารเกี่ยวกับแบรนด์หรือตัวสินค้า แนวโน้มดังกล่าวยืนยันได้ว่า ทุกวันนี้การใช้สื่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ควบคู่กับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้ามีความสำคัญพอ ๆ กับคุณภาพของสินค้าและบริการเลยทีเดียว”
การสำรวจในเรื่องผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจนั้น ปัจจัยอันดับหนึ่งคือการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านรัฐบาล โดยคิดเป็น 28.5% อันดับสองคือวิกฤตการณ์ราคาน้ำมัน คิดเป็น 27.8% ตามมาด้วยภาวะเงินเฟ้อ เหตุการณ์ความไม่สงบที่ภาคใต้ และไข้หวัดนก
ในด้านการใช้จ่ายเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาดและส่งเสริมความสัมพันธ์กับลูกค้าในปีนี้ ผู้ตอบแบบสอบถาม 60% ยังคงมีแผนที่จะเพิ่มงบประมาณด้านนี้ แต่นับว่าน้อยลงจากปีที่แล้วซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 79% ส่วนนักธุรกิจที่ร่วมตอบแบบสอบถามอีก 12.7% มีแผนจะลงทุนกับกิจกรรมการตลาดด้วยเงินจำนวนสูง โดยตั้งใจจะใช้กลยุทธ์ด้าน CRM ด้วยเช่นกัน
ในด้านการใช้จ่ายเกี่ยวกับสื่อด้านการตลาด การจัดกิจกรรมการตลาด (event marketing) ยังได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็นสัดส่วน 22.8% ตามมาด้วยสื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ สื่อแบบ interactive ไดเร็กท์เมล์ และสื่อกลางแจ้งตามลำดับ ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบธุรกิจหลายรายได้เริ่มหันมาใช้สื่อรูปแบบใหม่ ๆ อย่างอินเทอร์เน็ตมากขึ้น แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการใช้สื่อแบบ interactive จะมีมากขึ้น เนื่องจากอินเทอร์เน็ตและเครือข่ายบรอดแบนด์นั้นได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในกลุ่มผู้บริโภค
ผู้ตอบแบบสอบถามถึง 91.5% มีความเห็นว่าสภาวะการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปส่งผลให้การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ตลอดจนการรักษาฐานลูกค้าเดิมนั้นทำได้ยากขึ้น ทั้งนี้เพราะนอกจากผู้บริโภคจะมีความรู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการที่ดีขึ้นและระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นแล้ว ยังมีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่นิยมเปรียบเทียบราคาสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ
โอกิลวี่วัน เวิลด์วายด์ ประเทศไทย
บริษัท โอกิลวี่วัน เวิลด์วายด์ ประเทศไทย เป็นบริษัทในเครือโอกิลวี่ แอนด์ เมเธอร์ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 และเป็นผู้นำในการให้บริการและที่ปรึกษาด้านการตลาด และความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) แก่ลูกค้าทั้งในระดับประเทศ และระดับภูมิภาค ผ่านสื่อต่าง ๆ ทั้งในระบบออนไลน์ และออฟไลน์ โปรแกรมเสริมสร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์ งานฝ่ายสร้างสรรค์ การบริหารฐานข้อมูลลูกค้า และการประเมินผลตอบแทนการลงทุนจากการทำ CRM และแคมเปญทางการตลาด
บริษัทโอกิลวี่วัน เวิลด์วายด์ ประเทศไทย เป็นหนึ่งในสำนักงานสาขา 99 แห่งใน 63 ประเทศทั่วโลกของ
โอกิลวี่วัน เวิลด์วายด์ ซึ่งได้รับการจัดอันดับจาก Ad Age ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ชั้นนำในวงการสื่อทั่วโลกให้เป็นเครือข่ายเอเจนซี่ที่ใหญ่ที่สุดในด้านไดเร็คมาร์เก็ตติ้ง และอินเตอร์แอคทีฟ (Direct Marketing and Interactive Network) ของโลก และภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิก บริษัทฯ ได้รับรางวัลด้านการสร้างสรรค์มากที่สุดในโลก และในปี 2546 บริษัท โอกิลวี่วันฯ ภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิกได้รับรางวัลเอเจนซี่ยอดเยี่ยมแห่งปี (ด้าน Below the Line) จากนิตยสาร Media
ในปี 2548 ที่ผ่านมา โอกิลวี่วัน เวิลด์วายด์ ประเทศไทย ได้รับรางวัลด้านการสร้างสรรค์จากทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 80 รางวัล
แถลงข่าวในนาม : บริษัทโอกิลวี่วัน เวิลด์วายด์ ประเทศไทย
รายละเอียดเพิ่มเติม : กนกพร นิตย์ธีนานนท์
บริษัทโอกิลวี่วัน เวิลด์วายด์ ประเทศไทย
โทร 0 2205 6700