สัมภาษณ์ ดัง-พันกร บุณยะจินดา อัลบั้ม METRO SEXUAL (เมโทร เซ็กซ์ชวล)

เปิดตัวให้แฟนๆได้มันสะใจกันไปแล้ว สำหรับอัลบั้มชุดใหม่ล่าสุดของนักร้องหนุ่ม ผู้นำความทันสมัยทั้งในเรื่องของแฟชั่นและเสียงเพลง ดัง-พันกร บุณยะจินดา จาก เมโลดิก้า ในเครือ อาร์.เอส.ฯ กับอัลบั้ม METRO SEXUAL (เมโทร เซ็กซ์ชวล) ที่ตอนนี้เพลง เจ็บ (มาก...มาก) ของ ดัง ก็ได้กลายเป็นเพลงฮิตทุกคลื่นวิทยุไปแล้ว และในอัลบั้มนี้นอกจากดังจะมีส่วนร่วมในการทำงานทุกขั้นตอนแล้ว ดังยังได้มีโอกาสโชว์ฝีมือเขียนเนื้อเพลง ความหวังดี (ของมือที่สาม ให้แฟนๆได้ฟังเป็นครั้งแรกอีกด้วย อัลบั้มนี้ห่างจากอัลบั้มที่แล้วไปนานไหม? ดัง : ก็ห่างไปปีหนึ่ง ปีหนึ่งได้แต่พอไปเจอเพื่อน เพื่อนก็บอกว่าเหมือนหายไปนานเลย เพราะว่าเก็บตัวก็คือไม่ได้ไปไหนเลยช่วงที่พักงานก็คืออยู่บ้าน ก็ประมาณปีนึงนะฮะกว่าจะคลอดชุดใหม่ออกมา ชุดใหม่ก็แนวดนตรีก็จะคงเป็นป๊อบร๊อคเหมือนเดิม แต่ว่าชุดนี้ เรียกว่าอะไรที่เราอยากทำแล้วยังไม่ได้มีโอกาสได้ทำก็เรียกได้ว่ามามีโอกาสทำในชุดนี้นะฮะ ในส่วนของดนตรี เนื้อหา เมโลดี้ ดนตรีก็จะเป็นป๊อบร๊อคซึ่งก็เพิ่มความ. . .เขาเรียกว่าทำแนวดนตรีให้ร่วมสมัยมากกว่า คือตอนนี้เขาฮิตอะไรกันเราก็เอามาผสมผสานด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นดังเองก็ไม่ได้ตามแฟชั่นขนาดนั้น คือดังชอบอะไรดังถึงจะนำเสนออันนั้นมากกว่า ก็จะมีเป็นแนวแจ๊ส มีเป็นแนว R&B ในส่วนของการร้องก็จะ เนื้อร้องก็จะเป็นเรื่องราว เนื้อหาทั้งหมดที่เป็นเรื่องราวของดังที่ได้ไปประสบพบเจอมา แล้วก็อยากจะถ่ายให้เพื่อนๆได้ฟังกัน ชื่ออัลบั้มได้มายังไง? ดัง : ชื่ออัลบั้ม METRO SEXUAL (เมโทร เซ็กซ์ชวล) เหรอครับ ก็คืออย่างที่บอกไปว่าเป็นศัพท์ที่มีอยู่แล้ว แต่คนไทยอาจจะงงกับคำนี้เพราะมันมีคำว่า เซ็กซ์ชวล เท่านั้นเอง แต่จริงๆแล้วคำว่า เมโทร เซ็กซ์ชวล มันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับการแบ่งแยกเพศนะฮะ มันคือการที่คนยุคใหม่ที่วัดกันที่ไลฟ์สไตล์มากกว่า อย่างผู้ชายที่มีการดำเนินชีวิตที่ดูแลตัวเอง อย่างเมื่อก่อนเนี่ยจะเป็นผู้หญิงที่ดูแลตัวเอง ผู้ชายจะไม่ค่อยสนใจตัวเองมากเท่าไหร่ คือสมัยนี้แล้วเนี่ยผู้ชายดูแลตัวเองให้ตัวเองดูดีมันก็เป็นสิ่งที่ดี และทรงผมที่ถักเปียนี่หล่ะ คิดเองหรือเปล่า? ดัง : คิดเองฮะ ผมมันยาวฮะพี่ มันเลยรำคาญ แต่ก็อยากไว้ผมยาว ก็เลยออกความคิดว่า ลองถักเปียข่างหนึ่งสิ ปรากฏว่าถักข้างหนึ่งอีกข้างมันก็ยาว มันเอียงก็เลยถักอีกข้างหนึ่ง ทรงผมนี่ก็เปลี่ยนค่อนข้างบ่อยอยู่แล้วเพราะผมยาวมันค่อนข้างเปลี่ยนได้เยอะ แล้วความแปลกใหม่ตรงไหนบ้างในอัลบั้มชุดนี้? ดัง : ความแปลกใหม่ในชุดนี้ก็คือ ดังได้มีโอกาสเขียนเพลงเองเพลงนึงนะฮะ ชื่อเพลงความหวังดีของมือที่สาม ซึ่งก็กำลังจะทำเป็นมิวสิกวีดีโอตัวที่สองนะฮะ ก็อยากให้ลองติดตามกันดู เพลงนี้เป็นยังไงบ้างละค่ะ? ดัง : จริงๆแล้วดังไม่ได้กะจะแต่งเพลงนี้เอง แต่ส่วนตัวก็ชอบแต่งแพลงอยู่แล้ว แต่ก็จะแต่งเอาไว้ฟังเองมากกว่า จะเป็นคนที่ค่อนข้างจะไม่มั่นใจเรื่องการแต่งเพลงเท่าไหร่นะฮะ ชุดนี้ดังก็เอาเมโลดี้มาฟังแล้วดังก็เขียนไปๆ แล้วมีอยู่วันนึง ได้คุยกับพี่ปอที่เป็น Co-producer ก็เลยลองอ่านให้พี่เขาฟัง พออ่านแล้วพี่เขาว่าก็ดีนะ ก็เลยปลุกความมั่นใจเราขึ้นมา ก็โอเคเราเขียนเพลงสักเพลงนึงก็คงไม่แปลกอะไร ก็เขียนเพลงขึ้นมาเป็นเพลงความหวังดีของมือที่สาม แล้วดูเหมือนว่าในชุดนี้กระแสการแต่งตัวจะมาก่อนเลย ตั้งใจให้เป็นอย่างนี้หรือเปล่า? ดัง : คือดังเป็นคนที่ชอบแฟชั่นอยู่แล้วนะฮะ แล้วในชุดนี้ก็อยากจะทำอะไรที่แบบว่าเป็นแฟชั่นก็เป็นแฟชั่นไปเลย อย่ามาครึ่งๆกลางๆ คืออย่างเราดูหลายๆ คนจะไปเต็มที่แล้วก็กักไว้ กลัวเสียภาพพจน์ หรือกลัวอะไรอย่างเนี่ย สำหรับดังแล้วถ้าดังจะทำอะไรสักอย่างแล้ว ดังต้องทำให้ดีที่สุด อย่างเสื้อผ้าดังอาจจะแรงเกินไป แต่ว่ามันคือแฟชั่น ก็คือดังจงใจให้เป็นแฟชั่นที่ไม่สามารถลงไปเดินถนนได้ แฟชั่นมันคือแฟชั่นโชว์ เรามองศิลปินแล้วเนี่ยดังเองไม่อยากให้ศิลปินออกมาร้องเพลงธรรมดาๆ คือศิลปินมันอยู่ในวงการเอ็นเตอร์เทนเมนมันเป็นวงการที่ให้ความบันเทิงถูกต้องมั้ยฮะ ต้องให้ความบันเทิงในทุกๆด้านไม่ใช่แค่ออกมาร้องเพลง เพราะฉะนั้นศิลปินของดัง ดังก็อยากเห็นอะไรให้ของศิลปินของดังบ้างเป็นผู้นำให้เราบ้าง ให้เราได้รู้สึกว่าเออมันยังมีอะไรใหม่ๆนอกเหนือจากที่เราเห็นอยู่นะ พอเรามาทำงานตรงนี้ดังก็เลยเอาตรงนั้นนะมาทำ เพราดังเชื่อว่าก็น่าจะมีหลายๆคนที่อยากจะให้เป็นเหมือนดัง ผลตอบรับเป็นยังไงบ้าง จากแฟนคลับ? ดัง : แฟนคลับเห็นตอนแรกแฟนคลับก็ตกใจกันว่า โหพี่ดังมันมาก แต่ว่าตอนหลังเขาก็กลายเป็นว่าเขาก็ชอบกัน ในส่วนของผู้ใหญ่เองตอนแรกเขาก็ตกใจ ทีมงานเองก็ยังตกใจ อาจจะเป็นเพราะว่าดังทำเลยตกใจเพราะว่าถ้าเป็นคนอื่นทำก็คงไม่ตกใจ อาจจะมองว่าชุดนี้ทำไมพี่ดังเปลี่ยนไป ชุดนี้ทำไมดังแรงเลยจริงๆแล้ว มันเป็นแค่องค์ประกอบภายนอกเป็นแค่ สีผม เสื้อผ้า แต่ว่าสุดท้ายแล้วก็คือดังเหมือนเดิมไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ เพียงแต่ว่าดังเองเนี่ยก็อย่างจะทำอะไรให้คนดู คนที่ติดตามผลงานดังเนี่ย รู้สึกว่าเราอยากจะนำเสนอ เพราะงานตรงนี้เนี่ยเป็นเหมือนกับงานครีเอทีฟ มันไม่ใช่แค่ว่าทีมงานเอางานมาให้เราทำแล้วเราก็ทำ บางทีเราทำเราก็มีความคิดของเราว่าเราอยากทำอะไรบ้างอะไรอย่างเนี่ย คือไม่ว่าผลตอบรับจะเป็นยังไงก็ตามไม่ว่าใครจะเกลียด จะด่า จะหมั่นไส้ ดังถือว่าดังโอเคเพราะดังแฮปปี้ แล้วก็ดังขอบอกว่าทุกขั้นตอนในอัลบั้มชุดนี้ ดังก็ตรองแล้ว คือดังทำตรงนี้ออกไปแล้ว ก็มีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ ก็ยินดีรับทุกคำติชม แล้วก็หวังว่าคงถูกใจใครหลายๆคน แล้วเรื่องมิวสิกวีดีโอ มีโดนบ้างไหมว่ามันแรงเกินไป? ดัง : ส่วนใหญ่แล้วคนเขาจะแบบว่า เฮ้ย! กล้าได้ยังไง ก็สิ่งที่ดังทำอยู่ดังก็ไม่ใช่เป็นการจงใจอะไรอย่างที่เป็นข่าวว่าดังจงใจให้ชาวสีม่วงอะไร ต่างๆนานา จริงๆแล้วเจ็บมากๆเนี่ยมันเป็นเพลงที่เล่าถึงการที่เราไปรักใครสักคนนึงเนี่ย ซึ่งไม่ได้หมายความเป็นเรื่องของคู่รักเสมอไป อาจจะเป็นเพื่อน เป็นคนสนิท เป็นญาติ เป็นพ่อ เป็นแม่ ก็การที่เราไปรักใครสักคนนึงที่เขาไม่สนใจเราที่เขาไม่แคร์เราเนี่ย มันก็ทำให้เราเจ็บได้ทั้งนั้นเหมือนกัน แล้วในส่วนของ MV เนี่ย จริงๆแล้วมันเป็น 9 คนด้วยกันมันเป็นการเจ็บมากๆ 9 รูปแบบนะฮะ ซึ่งจริงๆแล้วที่เราทำออกมาเนี่ยไม่ได้จะไปอะไรใครอย่างที่เป็นข่าวออกมานะฮะ คือว่าดังอยากสะท้อนมากกว่า เป็นกระจกให้กับสังคมไทยในตอนนี้มากกว่า เพราะว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน MV ของดังเนี่ยมันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยจริงๆ จริงๆ แล้วดังอยากบอกอะไรในอัลบั้มชุดนี้? ดัง : ในอัลบั้มชุดนี้ เนื้อหามันจะเป็นเรื่องราวในประสบการณ์ของดังทั้งหมดฮะ ก็คือไปเจออะไรมาบ้างก็ถ่ายทอดลงมาเป็นเพลงของดัง เนื้อหาของเพลงเป็นยังไงบ้าง? ดัง : เนื้อหาของเพลงนี้ก็เนื้อหาของมือที่สาม เพราะถ้าพูดถึงเรื่องของมือที่สามแล้วเนี่ย ก็คงไม่มีใครอยากที่จะเป็นมือที่สามจริงมั้ยฮะ ก็บอกตามตรงเลยว่าตัวเองก็เคยเป็นมือที่สามนะฮะ เคยเป็นมือที่สาม ดังเชื่อว่าทุกคนต้องเคยเป็นมือที่สามไม่มากก็น้อยหล่ะ แต่จะยอมรับหรือเปล่าเท่านั้นเอง เพราะว่ามือที่สามมันเป็นสิ่งที่ไม่ดี ผิดจรรยาบรรณ แล้วเราก็เคยเป็นมือที่สามแล้วมันก็คือความจริงของชีวิตเราอะ เพราะการที่เราไปแอบชอบคนที่เขามีแฟนแล้วมันก็ไม่ผิดอะพี่ เพราะว่าความรักไม่มีเหตุผล แล้วถ้ามือที่สามมันไม่ดี แต่ทำไมคนรอบๆตัวดังเคยเป็นมือที่สามทั้งนั้นเลย แล้วทำไมถึงยังมีมือที่สามอยู่มากมายเลยในปัจจุบันนี้ ดังก็เลย ลองมองในมุมของมือที่สามดูบ้างเพราะจริงๆแล้วมือที่สามเนี่ยมันไม่ได้เลวร้ายหรอก ไม่มีใครหรอกที่อยากจะเป็นมือที่สามเราพูดแทนมือที่สามด้วย แล้วนอกจากเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมที่เปลี่ยนไปแล้ว ในเรื่องของซาวด์ดนตรีหละมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง? ดัง : เหมือนแฟชั่นนะฮะพี่ ก็คือมันจะมีวิวัฒนาการของมัน อย่างในชุดนี้มันก็จะโตขึ้น ก็จะมีดนตรีสด แล้วอย่างกีตาร์ก็จะมีลูกเล่นอย่างเอากีตาร์คลาสสิกเข้ามา บางเพลงก็จะมีซาวด์ R&B แจ๊ส แดนซ์บ้างก็มีมันก็จะคละๆ กันไป จากแฟชั่นชุดนี้มันแรงมาก แล้วเลยมีคำถามว่าชุดหน้าจะมีอะไรแรงกว่านี้อีกไหม? ดัง : เรื่องของความแรงดังว่าแต่ละคนไม่เท่ากัน สำหับดังเองดังคิดว่ามันเป็นอะไรที่มันมากกว่า ดังไม่เคยมองตัวเองแรง ดังคิดว่ามันเป็นอะไรที่มันๆ สนุกๆมากกว่า คือเราอยู่ตรงนี้เรามีโอกาสได้ทำ เราก็ทำ มีคนที่อยากขอบคุณเป็นพิเศษไหมค่ะ? ดัง : ก็อยากขอบคุณทุกๆคนนะฮะ ทีมงานทุกคน ทุกคนที่เข้ามาให้ชีวิตดังที่ดังได้พบเจอทุกวัน ก็ขอขอบคุณทุกคน ทีมงาน ผู้บริหาร ครอบครัว พี่น้อง เพื่อนสนิททุกคนที่เป็นกำลังใจทุกคน แล้วก็อาร์เอสที่ให้โอกาสในการทำงานของดัง ในอีก 10 ปีข้างจะให้คนเรียกดังว่าอย่างไร? ดัง : อยากให้พูดถึงเพลงของดังมากกว่า ร้องเพลงของดังได้ก็ โอเคแล้ว ฮะ พบกับอัลบั้ม METRO SEXUAL (เมโทร เซ็กซ์ชวล) ของดัง-พันกร บุณยะจินดา พร้อมกันวันนี้ทั่วประเทศ และติดตามชมมิวสิกฯเพลง “เจ็บ (มาก...มาก)” ได้แล้วทางรายการโทรทัศน์ในเครืออาร์.เอส.ฯและทางเคเบิ้ลทีวีทุกช่อง สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

• ข่าวอาร์.เอส.ฯ
• ข่าวการทำงาน
• ข่าวอัลบั้ม
• ข่าวเปิดตัว
• ข่าวo:event