กรุงเทพฯ--24 พ.ย.--โทเทิ่ล ควอลิตี้ พีอาร์
KUNG FU HUSTLE
ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของขวัญต้อนรับปีใหม่จาก AXN แพร่ภาพพร้อมกันทั่วเอเชีย
วันพฤหัสฯ ที่ 15 ธันวาคม 2548
เวลา 21.00น.
เตรียมพบกับผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ โจวซิงฉือ ดาราตลกหน้าเป็นชั้นแนวหน้าของเอเชีย ที่กลับมาพร้อมกับภาพยนตร์แอ็คชั่นคอเมดี้เรื่อง Kung Fu Hustle สร้างรายได้ถล่มทลายสถิติไปทั่วภาคพื้นเอเชีย และครองตำแหน่งภาพยนตร์ตลกแอ็คชั่น ที่กวาดรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ฮ่องกง Kung Fu Hustle เปี่ยมไปด้วยฉากแอ็คชั่น สุดยอดสเปเชียลเอ็ฟเฟ็กซ์ตระการตา พร้อมแล้วที่จะเรียกเสียงหัวเราะจากคุณถึงหน้าจอ ด้วยเรื่องราวสุดเหลือเชื่อ และแอ็คชั่นสุดอลังการ
เนื้อเรื่องย่อ
ท่ามกลางความวุ่นวายในช่วงก่อนการปฏิรูปการปกครองของประเทศจีน โจรกระจอกใฝ่สูง นามว่า ซิง (โจวซิงฉือ) หวังจะได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของแก๊งค์ขวานซิ่ง มาเฟียอำมหิตและชั่วร้าย ที่อยู่เบื้องหลังเหตุร้ายที่เกิดขึ้นไปทั่วทุกหัวระแหง พวกมันคอยคุกคามผู้คนและทำตัวเป็นใหญ่ โดยมีสัญลักษณ์อันโดดเด่นจากหมวกทรงสูง ฟันสกปรก และความเชี่ยวชาญด้านการใช้ขวาน ซิงคอยเกะกะระรานตามประสาจิ๊กโก๋ ไปทั่วชุมชนที่ชาวบ้านอยู่กันอย่างหนาแน่น ในย่านที่เรียกกันว่า 'ตรอกเล้าหมู' พยายามรีดไถเงินจากชาวบ้านคนหนึ่ง แต่คนแถวนั้นไม่ได้ดูอ่อนหัดอย่างที่เห็นภายนอก ความพยายามของซิง ที่คิดขู่เข็ญชาวบ้านเพื่อเรียกความสนใจจากแก๊งค์ขวานซิ่ง เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทและเกิดเหตุร้ายแรงตามมา ทำให้แก๊งค์โฉดกับชาวบ้านต้องมาเผชิญหน้ากัน เมื่อชาวบ้านตรอกเล้าหมูลุกฮือขึ้นมาต่อสู้เพื่อตัวเอง นั่นคือจุดเริ่มต้นของสงครามที่เจ้าแห่งฝีมือกังฟูลึกลับได้เปิดเผยตัว การปะทะที่ติดตามมาของเหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์วิชากังฟู ก่อให้เกิดสุดยอดฝีมือที่เป็นตำนานขึ้นมามากมาย ส่วนซิง แม้จะพยายามทำชั่ว แต่เพราะเขาไร้ซึ่งวิญญาณของนักฆ่า จึงต้องเผชิญหน้ากับความเป็นความตาย เพื่อจะค้นพบถึงธรรมชาติอันแท้จริงของการเป็น 'สุดยอดกังฟู' ซึ่งนำไปสู่บททดสอบบทสุดท้าย ที่ทำให้ซิงได้เรียนรู้ว่าโชคชะตาแท้จริงที่ฟ้าลิขิตมาเพื่อเขานั้นคืออะไร
ความสำเร็จของ KUNG FU HUSTLE
Kung Fu Hustle โดดเด่นด้วยการเป็นภาพยนตร์จีนอันดับ 1 ในเอเชียของปี 2547 ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นด้วยการถล่มรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศมาแล้วทั่วเอเชีย จากการฉายวันแรกในโรงภาพยนตร์ รวมถึง:
Kung Fu Hustle ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงทั้งหมด 16 รางวัล และได้รับ 6 รางวัล ในงานฮ่องกง ฟิล์ม อวอดส์ ปี 2548 นับเป็นรางวัลที่มีเกียรติสูงสุด ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮ่องกง รางวัลที่ได้ประกอบไปด้วย:
นักแสดงและบทบาทที่ได้รับ
โจวซิงฉือ
ผู้กำกับ ผู้สร้าง ผู้เขียนบท นักแสดงนำจาก Kung Fu Hustle
โจวซิงฉือเป็นดาราตลกหน้าเป็นชั้นแนวหน้าของเอเชีย และได้รับการประกาศจากนิตยสาร TIME ให้เขาเป็นนักแสดงยอดนิยมมากที่สุดในเอเชีย เขาผ่านงานแสดงมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50 เรื่อง เรื่องที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากและสร้างเสียงฮาให้กับคนดูมาแล้วในภาพยนตร์เรื่อง Shaolin Soccer (นักเตะเสี้ยวลิ้มยี่) ในปี 2544 ซึ่งทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
ด้วยประสบการณ์อันยาวนาน โจวซิงฉือได้รับฉายาว่าเป็น “คิงส์ออฟคอมเมดี้” ของฮ่องกงได้อย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยบทบาทที่ทำให้เขาได้รับรางวัลมากมาย เช่น Final Justice, All For The Winner (คนตัดเซียน), Justice My Foot (คนเล็กไม่เกรงใจนรก), Saint of
ในเรื่อง Gamblers และ A Chinese Odyssey (ไซอิ๋ว 95 เดี๋ยวคนเดี๋ยวลิง) โจวซิงฉือได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากการประกาศรางวัลไทเป โกลเด้น ฮอร์ส อวอดส์ รางวัลเอเชีย แปซิฟิก ฟิล์ม และรางวัลสมาคมนักวิจารณ์แห่งฮ่องกง อีกทั้งเขายังได้รับคำชมเชยจาก เคว็นติน ตาแรนติโนผู้กำกับมือทองแห่งฮอลลีวู้ด เคว็นตินยกย่องโจวซิงฉือให้เป็นนักแสดงชายที่ยอดเยี่ยมที่สุดในฮ่องกง
Kung Fu Hustle ยังทำให้ความฝันที่มีมายาวนานของ โจวซิงฉือ ที่ฝันจะได้สร้างภาพยนตร์ที่เป็นการเฉลิมฉลองศิลปะการต่อสู้รูปแบบต่างๆ ให้กลายเป็นจริงขึ้นมาได้ เรียกว่าเป็นสิ่งที่โจวซิงฉือปรารถนามาชั่วชีวิต Kung Fu Hustle ยังแสดงให้เห็นถึงอารมณ์ขันหน้าตายของเขา ในแบบที่ทุกคนคุ้นเคย ในขณะเดียวกัน ยังเป็นการเปิดโอกาสให้โจวซิงฉือได้กระทำสิ่งที่ตัวเขาเองเรียกว่า "เป็นโอกาสที่จะแสดงการคารวะ ต่อภาพยนตร์กังฟูที่ผมเคยดูสมัยเด็ก" นอกจากจะเหมาหน้าที่แสดงนำ และกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้เองแล้ว โจวซิงฉือยังทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้าง และเป็นหนึ่งในทีมเขียนบทของภาพยนตร์เรื่อง Kung Fu Hustle นี้อีกด้วย เขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากดาราบู๊ที่เขาชื่นชอบและเป็นไอด้อลของเขามาตั้งแต่เด็ก นั่นก็คือ บรู๊ซ ลี แต่ก็ยังแฝงไปด้วยแนวตลกที่เป็นตัวเขาด้วย
หยวนวูปิง
นักแสดงคิวบู๊
เพื่อสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ โจวซิงฉือ ได้ทำการรวบรวมทีมนักแสดงและทีมงานชั้นแนวหน้าของวงการ ซึ่งรวมถึงผู้ออกแบบคิวบู๊ที่เป็นตำนานของวงการอย่าง หยวนวูปิง ผู้กำกับคิวบู๊อภิมหาอมตะนิรันดร์กาลของฮ่องกงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่ง โดยผลงานที่หยวนเคยสร้างสรรค์ไว้ ในภาพยนตร์ของโคลัมเบีย ได้แก่เรื่อง Crouching Tiger, Hidden Dragon, The Matrix, Kill Bill: Volume 1 และ Kill Bill 2: Volume 2 เขาได้สร้างมาตรฐานให้กับงานสร้างฉากแอ็คชั่น ที่ทำให้คนดูถึงกับลืมหายใจมาตลอดระยะเวลาสองสามปีมานี้ ก่อนหน้าที่เขาจะเป็นผู้ออกแบบคิวบู๊ และผู้กำกับ เขาเคยเป็นนักแสดงแทนให้กับบรู๊ซ ลีมาก่อน หยวนยังเป็นหนึ่งในผู้สร้างภาพยนตร์ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกและเป็นเหมือนผู้ปฏิวัติภาพยนตร์บู๊ฮ่องกงด้วยฉากแอ็คชั่นที่มีจินตนาการมากขึ้น เขามีผลงานมาแล้วมากกว่า 50 เรื่อง ทั้งนี้รวมถึงภาพยนตร์บู๊ฮ่องกงแนวกังฟูคลาสสิคจำนวนมากที่ยังอยู่ในความทรงจำของทุกคน ไม่ว่าจะเป็น Drunken Master (ไอ้หนุ่มหมัดเมา), Once Upon a Time in China II (หวงเฟยหง ภาค 2) และ Iron Monkey (มังกรเหล็กตัน)
หยวนหว่า
นักแสดงชายสมทบ
การคัดเลือกตัวนักแสดงก็เช่นกัน โจวซิงฉือตัดสินใจเลือกได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยการเลือกนักแสดงหลายคนจากยุคคลาสสิกของภาพยนตร์ฮ่องกง หยวนหว่า ผู้รับบทเป็น เจ้าของบ้านเช่า เขาเคยแสดงภาพยนตร์ฮ่องกงมาเป็นร้อยๆ เรื่องตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่า หยวนหว่า จะได้รับบทเป็นผู้มีคุณธรรมใน Kung Fu Hustle แต่หยวนหว่าเป็นที่รู้จักในบรรดาแฟนๆภาพยนตร์ฮ่องกงดีในฐานะที่เขามักจะรับบทเป็นจอมวายร้ายเสมอ และประมาณปี 2513 เขาไปเรียนจากโรงเรียนปักกิ่งโอเปร่า ซึ่งได้เป็นหนึ่งในทีมสุดยอดวิชากังฟู-สตันต์ ซึ่งทำให้เขากลายเป็นเพื่อนซี้กับหงจินเป่าและได้แสดงนำในงิ้วเรื่อง “Seven Little Fortunes” โดยแสดงเป็นนักแสดงแทนบรู๊ซ ลี เรื่องนี้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่แก่วงการหนังจีน-ฮ่องกงร่วมกันมาถึงปัจจุบัน อันที่จริง หยวนหว่าทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความเชื่อมโยงโดยตรง กับความฝันของโจวซิงฉือที่อยากเป็นบรู๊ซ ลี หยวนหว่าเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากการรับบทเป็นจอมวายร้ายในเรื่อง ‘Eastern Condors’ (หน่วยปฏิบัติการ สายฟ้าแลบ) ในปี 2530 และมีผลงานมาแล้วมากกว่า 100 เรื่อง เขาเคยร่วมงานกับผู้กำกับชาวฮ่องกงระดับแนวหน้า เช่น จอน วู, ฉีเคอะ, หงจินเป่า และ Jeff Lau
หยวนชิว
นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม
ใน Kung Fu Hustle หยวนชิว ผู้รับบทเป็น 'นายหญิง' ภรรยาของ 'เจ้าของบ้านเช่า' เธอคือดาราจากยุค 70 ซึ่งเลิกแสดงภาพยนตร์มานานกว่า 28 ปีแล้ว โจวซิงฉือได้ติดต่อไปหาหยวนชิว และขอร้องให้เธอคืนวงการ ด้วยการแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ของเขา หยวนชิวเริ่มเข้าวงการด้วยการเป็นนักแสดงสตั๊นต์หญิง และเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการภาพยนตร์ฮ่องกง แต่เธอกลับพบว่าสิ่งที่ท้าทายเธอมากที่สุด ไม่ใช่การต้องหันกลับมาฟื้นวิชากังฟูของตัวเอง (ซึ่งเธอเคยเรียนจากโรงเรียนปักกิ่งโอเปร่า ที่เดียวกับที่ หงจินเป่า, หยวนหว่า และ เฉินหลง เคยเรียน) แต่กลับเป็นการเพิ่มน้ำหนักขึ้น 30 ปอนด์ ภายในเวลาสองเดือน เพื่อให้หุ่นอันเพรียวบางของเธอ ดูมีเนื้อหนังและหนา ในแบบที่ตัวละครตัวนี้ต้องเป็น เธอจัดการกินอาหารตามที่โจวซิงฉือแนะนำ ซึ่งเป็นเมนูในแบบที่พวกนักซูโม่ญี่ปุ่นกินเพื่อเพิ่มน้ำหนัก ในปี 2518 หยวนชิวแต่งงานและเลิกอาชีพการแสดง และ Kung Fu Hustle นับว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกทีเธอรับเล่นหลังจากห่างหายจากวงการไปนาน
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit