แอฟเน็ท อิล็คทรอนิคส์ มาร์เก็ตติ้ง เอเชีย แปซิฟิค ประกาศยุทธศาสตร์หลังซื้อกิจการเมเมค

การผนึกกำลังที่สร้างความแข็งแกร่งให้กับความเป็นผู้นำในเอเชียของแอฟเน็ทในเรื่องโซลูชั่นการออกแบบและบริการด้านซัพพลาย เชนให้กับชุมชนธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์

หลังจากที่แอฟเน็ท อิงค์ (NYSE: AVT) ได้ประกาศเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า บริษัทได้ซื้อกิจการของเมเมค กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด (Memec) เสร็จเรียบร้อยแล้ว วันนี้ แอฟเน็ท อิเล็คทรอนิคส์ มาร์เก็ตติ้ง เอเชีย แปซิฟิค ได้ประกาศยุทธศาสตร์หลังการซื้อกิจการ

เพื่อเป็นการสร้างโอกาสและคุณค่าอย่างต่อเนื่องให้กับลูกค้าและซัพพลายเออร์ แอฟเน็ท อิเล็คทรอนิคส์ มาร์เก็ตติ้ง เอเชีย แปซิฟิค จะให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์พื้นฐาน 2 ประเด็น คือ การออกแบบ, การสร้างอุปสงค์ และการบริหารซัพพลาย เชนนอกจากนี้ แอฟเน็ทยังได้มุ่งมั่นกับการดำเนินธุรกิจในพื้นที่ต่างๆ 4 แห่งในภูมิภาคเอเชีย แบ่งเป็น พื้นที่ 2 แห่งในจีน, หนึ่งแห่งในเอเชียใต้ และอีก 1 แห่งที่ไต้หวัน เพื่อผลักดันความเป็นเลิศด้านการปฏิบัติการและการขยายตัว

การซื้อกิจการของเมเมคเป็นการตอกย้ำถึงจุดยืนในระดับชั้นนำของแอฟเน็ทในหมู่ผู้จัดจำหน่ายชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์ในเอเชีย แปซิฟิค ด้วยการควบกิจการกับเมเมคทำให้แอฟเน็ทสามารถขยายแหล่งทรัพยากรด้านเทคนิคได้ด้วยการดึงเอาความรู้อย่างลึกซึ่งเรื่องผลิตภัณฑ์และความชำนาญในการออกแบบและวิศวกรรมมาใช้ เพื่อช่วยแหลือซัพพลายเออร์ในการสร้างอุปสงค์สำหรับผลิตภัณฑ์เซมิคอนดัคเตอร์ของตนเอง ความมุ่งมั่นดังกล่าวยังจะได้รับการส่งเสริมจากความสามารถด้านลอจิสติกที่แข็งแกร่งอยู่แล้วและโซลูชั่นในการบริหารซัพพลาย เชนระดับโลกของแอฟเน็ท

สตีเฟ่น หว่อง ประธานแอฟเน็ท อิเล็คทรอนิคส์ มาร์เก็ตติ้ง เอเชีย แปซิฟิค กล่าวว่า การเพิ่มเมเมคเข้ามาทำให้เราสามารถนำเสนอบริการที่ผสมผสานระหว่างการออกแบบและบริการด้านซัพพลาย เชนให้กับลูกค้าได้ นอกจากนี้ ยังสามารถสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของเราให้ประสบความสำเร็จมากที่สุดในฐานะผู้จัดจำหน่ายส่วนประกอบอิเล็คทรอนิคส์ในเอเชีย แปซิฟิคด้วยการสร้างความแตกต่างให้กับตนเองทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและการปฏิบัติการแบบผสมผสาน, การให้บริการที่ครอบคลุมพื้นที่การทำตลาด และการนำเสนอบริการที่ได้รับการยกระดับมาแล้ว ซัพพลายเออร์ของเราจะได้รับประโยชน์จากฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นและจุดแข็งของบริษัทในตลาด

แอฟเน็ทเชื่อว่าการสร้างฐานอำนาจในระดับภูมิภาคถือเป็นปัจจัยสำคัญของความสำเร็จ ดังนั้น เพื่อสนับสนุนมุมมองในเรื่องนี้ แอฟเน็ท อีเอ็มจึงได้อธิบายลักษณะการดำเนินงานในภูมิภาคทั้ง 4 แห่งในเอเชียข้างล่างนี้ไว้เพื่อชี้นำธุรกิจ, สนับสนุนซัพพลายเออร์ และให้บริการแก่ลูกค้า คือภูมิภาคไต้หวัน, ภูมิภาคทางตอนใต้, ภูมิภาคจีนแห่งที่ 1 ในจีน และภูมิภาคแห่งที่ 2 ในจีน

ภูมิภาคไต้หวันจะยังคงนำโดยนายซามูเอล ฟาง ประธานระดับภูมิภาค ส่วนภูมิภาคทางตอนใต้ซึ่งรวมถึงกลุ่มประเทศอาเซีย, อินเดีย, เกาหลี, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ จะนำโดยนายราวี คิชลู ประธานระดับภูมิภาค

เพื่อเป็นการสะท้อนถึงโอกาสในการขยายตัวที่แข็งแกร่งในจีน จึงได้มีการจัดตั้งทีมงานทั้งสองขึ้น คือทีมงานในภูมิภาคแห่งที่ 1 ในจีนและภูมิภาคแห่งที่ 2 ในจีน เพื่อยกระดับความเป็นผู้นำในตลาดของแอฟเน็ทต่อไป

ภูมิภาคแห่งที่ 1 ในจีน (แอฟเน็ท เมเมค) เป็นภูมิภาคที่แยกกันและเพิ่มเข้ามาในจีน ซึ่งมีแฟรนไชส์ของเมเมคอยู่หลายแห่ง ภูมิภาคแห่งนี้จะนำโดยนายวิคเตอร์ โกะห์ ประธานระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นอดีตกรรมการผู้จัดการเมเมค ไชน่า ส่วนนายเรย์มอนด์ เหลียง ประธานระดับภูมิภาคจะยังคงเป็นผู้นำในภูมิภาคแห่งที่ 2 ของจีน ซึ่งจะรับผิดชอบเต็มที่กับแฟรนไชส์หลายแห่งของแอฟเน็ท (แอฟเน็ท เทคโนโลยี, แอฟเน็ท ซันไรซ์ และแอฟเน็ท ไชน่าโทรนิค)

เมื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าแก่ซัพพลายเออร์ทั้งสองราย และแอฟเน็ท อิเล็คทรอนิคส์ มาร์เก็ตติ้ง เอเชีย จึงได้มีการจัดตั้งโครงสร้างด้านการตลาดศูนย์กลางแห่งใหม่สำหรับเอเชีย เพื่อส่งเสริมกลุ่มซัพพลายเออร์แบบเฉพาะเจาะจง

นายเชียน-ชุง ลิม (ซีซี ลิม) อดีตกรรมการผู้จัดการเมเมค อินไซท์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองประธานฝ่ายการตลาด และจะรับผิดชอบด้านการพัฒนาธุรกิจสำหรับซัพพลายเออร์ของแอฟเน็ท อิเล็คทรอนิคส์ มาร์เก็ตติ้ง เอเชีย โครงสร้างใหม่นี้ช่วยเสริมสร้างพันธสัญญาของแอฟเน็ทที่มีต่อธุรกิจของบริษัทในเอเชีย และช่วยให้การปฏิบัติงานที่สร้างสรรค์ โดยความร่วมมือของแอฟเน็ทและเมเมคซึ่งต้องการการเอาใจใส่และมุ่งเน้นประสิทธิภาพนั้น มีความคล่องตัวขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดจีนที่มีการขยายตัวสูง

ส่วนอดีตทีมงานในเอเชียแปซิฟิคของเมเมคที่เหลืออยู่จะดึงให้ไปร่วมงานในบริษัทแอฟเน็ท อิเล็คทรอนิคส์ มาร์เก็ตติ้ง

"เรายินดีที่ได้มีพนักงานที่เก่งกาจของเมเมค" นายหว่องกล่าว "พวกเขาไม่เพียงแต่นำความสามารถที่มีแก่นสารลึกซึ้งที่จำเป็นในการสร้างสรรค์ธุรกิจร่วมของเราเท่านั้น แต่พวกเขาเป็นส่วนเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับความสัมพันธ์ของเรา กับซัพพลายเออร์หลักๆ และลูกค้าใหม่ๆมากมาย"

เกี่ยวกับแอฟเน็ท

แอฟเน็ท อิงค์ (NYSE:AVT) ประสบความสำเร็จจากศูนย์กลางอุตสาหกรรมเทคโนโลยี, ให้บริการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการแก้ปัญหาที่จำเป็นให้กับฐานลูกค้า 100,000 ราย และบริษัทจัดซื้อ 300 ราย บริษัททตลาด, จำหน่าย และเพิ่มมูลค่าให้กับส่วนประกอบอิเล็คทรอนิคส์ที่หลากหลาย, กิจการผลิตสินค้าคอมพิวเตอร์ และระบบย่อยที่ติดไปกับเครื่อง ผ่านตำแหน่งผู้นำทางการตลาดของบริษัท แอฟเน็ทนำมาซึ่งความสามารถทั้งในเชิงลึกและกว้างที่ช่วยบริษัทคู่ค้าขยายตัวเพิ่มขึ้น และได้กำไรจากราคาที่มีประสิทธิภาพ แอฟเน็ท อิงค์ เป็นบริษัทที่ถูกจัดอันดับให้อยู่ในอันดับฟอร์จูน 500 ด้วยรายได้ปัจจุบันที่ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ และเป็นหนึ่งในบริษัทที่ทำการตลาด, จำหน่าย, และให้บริการด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก

แอฟเน็ท อีเลคโทรนิคส์ มาร์เกตติ้ง เป็นบริษัทดำเนินการที่ใหญ่ที่สุดของแอฟเน็ท อิงค์ โดยให้บริการลูกค้าที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตอุปกรณ์ขั้นต้น(OEMs), ผู้ให้บริการส่วนประกอบอิเล็คทรอนิคส์ (EMS) และผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมใน 69 ประเทศ ตลอดจนจำหน่ายส่วนประกอบอิเล็คทรอนิคส์จากบริษัทผู้ผลิตชั้นนำ และจัดหาบริษัทในเครือการออกแบบที่เกี่ยวข้อง และบริการบริษัทในเครือจัดซื้อ เชิญแวะชมเว็บไซต์ของบริษัทที่ http://www.em.avnet.com

สื่อมวลชนติดต่อที่

ไหล เพง แทน

โทร.: +852-2410-2735

อีเมล์: [email protected]

ที่มา: แอฟเน็ท อีเลคโทรนิคส์ มาร์เกตติ้ง

--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท (www.asianetnews.net)--

• ข่าวพีอาร์นิวส์ไวร์
• ข่าวแอฟเน็ท อิงค์
• ข่าวมาร์เก็ตติ้ง
• ข่าวอินโฟเควสท์
• ข่าวการออกแบบ