นายไพบูลย์ เฉลิมทรัพยากร ประธานกรรมการ บริษัท ยูนิมิต เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ UEC หนึ่งในผู้นำธุรกิจรับจ้างออกแบบด้านวิศวกรรม การผลิตภาชนะความดัน และติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในกระบวนการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีประสบการณ์ในธุรกิจนี้กว่า 23 ปี เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เปิดให้นักลงทุนจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯจำนวน 43 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 8.10 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรก ปรากฏว่าได้เสียงตอบรับจากนักลงทุนทั้งสถาบันและรายย่อยให้ความสนใจอย่างท่วมท้นโดยเฉพาะนักลงทุนสถาบัน เนื่องจากมีมูลค่าตลาด (Market Capitalization) สูงสุดในตลาด mai ประมาณ 1,160 ล้านบาท โดยให้ความไว้วางใจในกลุ่มผู้บริหารที่มีประสบการณ์และมีวิสัยทัศน์ในการบริหารงานได้มีผลกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีสัดส่วนการกระจายหุ้นให้นักลงทุนสถาบัน คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 30 ของหุ้นที่จำหน่ายทั้งหมด ซึ่งยังไม่เพียงพอกับความต้องการของนักลงทุนสถาบัน ส่วนนักลงทุนรายย่อยคิดเป็นร้อยละ 53 และที่เหลือเป็นผู้มีอุปการคุณและพนักงาน
นายไพบูลย์กล่าวว่า แม้สถานการณ์ตลาดหุ้นช่วงนี้จะมีภาวะความผันผวน แต่บริษัทฯมีความมั่นใจในศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความเชี่ยวชาญและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานระดับโลก และการเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ครั้งนี้ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ส่งผลให้บริษัทสามารถขยายขอบเขตการรับงานไปยังกลุ่มลูกค้าต่างประเทศได้มากขึ้น และสามารถสร้างผลตอบแทนกลับมาให้นักลงทุนได้ระดับที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการขยายตัวของรายได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 ต่อไปในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ มีอัตราการขยายตัวมากกว่าร้อยละ 20 มาตลอด
“สำหรับเงินทุนที่ได้รับจากการเสนอขายครั้งนี้ จะช่วยให้บริษัทฯขยายธุรกิจได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้นทั้งด้านโครงสร้างเหล็ก อุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อน และ High Pressure Vessel ซึ่งเป็นภาชนะความดันที่ยังไม่มีผู้ผลิตในประเทศไทย และหากดูสัญญางานที่อยู่ในมือและงานที่รับเพิ่มเติมในปีนี้ รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คาดว่าบริษัทฯ จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุน” นายไพบูลย์ กล่าว
ด้านนางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ ผู้อำนวยฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
กล่าวถึงสาเหตุที่นักลงทุนให้ความสนใจและเชื่อมั่นในการลงทุนกับหุ้น UEC จำนวนมาก เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีรายได้และกำไรเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯมีนโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ และราคาดังกล่าวมีส่วนลดให้กับนักลงทุนกว่าร้อยละ 30
นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีฐานลูกค้าที่อยู่ในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยโรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวใกล้เต็มอัตราการใช้กำลังการผลิต ทำให้มีเม็ดเงินที่จะขยายงานใน 5 ปีข้างหน้าอีกประมาณ 4 แสนล้านบาท ซึ่งส่งผลดีกับบริษัทโดยตรง ตลอดจนบริษัทฯ มีโครงการระยะยาวที่จะมีโอกาสสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องให้กับบริษัท คือ โครงการผลิตถังบรรจุก๊าซ NGV ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีผู้ผลิตในประเทศและยังต้องนำเข้าจากต่างประเทศ โดยรัฐบาลได้จัดตั้งโครงการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์
เพื่อผลักดันให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติในรถยนต์มากขึ้น และคาดว่า หุ้นทั้งหมดจะทำการซื้อขาย ได้ภายในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ภายใต้ชื่อ “UEC”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
คุณลัคคณา ขวัญงาม และคุณสุจิรา วิโรจนะ
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ 01-822-2363,01-629-1821--จบ--