วันที่ 4 พฤษภาคม 2548 เวลา 11.30 น. นายอดิศร เพียงเกษ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานบอร์ด ขสมก. นายปกศักดิ์ เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการ ขสมก. ได้ออกตรวจการให้บริการของรถโดยสารประจำทาง ขสมก. รถเอกชนร่วมบริการ รถมินิบัสและพบปะประชาชนที่ใช้บริการรถเมล์ย่านรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยได้เดินสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องการปรับราคาค่ารถเมล์เพิ่มอีก 1 บาท โดยผู้โดยสารส่วนใหญ่ให้คำตอบว่า รับได้ ไม่เดือดร้อน แต่ ขอให้ ขสมก. และรถเอกชนร่วมบริการเพิ่มการให้บริการที่ดี แก่ ประชาชนด้วย
จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ขึ้นไปบนรถมินิบัสที่ให้บริการย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ เพื่อทักทายและสอบถามพร้อมกำชับ ให้พนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสารให้บริการผู้โดยสารด้วยรอยยิ้ม และติดสติ๊กเกอร์ข้างประตูรถมินินัสว่า “มินิบัส ปลอดภัยด้วยรอยยิ้ม” เพื่อเตือนใจและรณรงค์ให้พนักงานประจำรถมินิบัสให้บริการที่ดี คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญเพื่อตอบแทนประชาชนกับ ค่าโดยสารที่ปรับขึ้น 1 บาท หลังจากที่ได้มีการจัดอบรมพนักงานประจำรถมินิบัสครั้งใหญ่กว่า 2 พันคน ไปแล้ว เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ เพื่อให้กำลังใจและตรวจสอบประเมินผลการให้บริการต่อ ผู้โดยสารหลังการอบรมด้วย
หลังจากนั้น นายอดิศรฯ ได้แถลงข่าวกับสื่อมวลชนว่า “ ที่มาพบปะประชาชนย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเพื่อสอบถามปัญหาต่างๆ และฟังความคิดเห็นของประชาชนซึ่งส่วนใหญ่ยอมรับการปรับค่าโดยสารในครั้งนี้ เนื่องจากสภาวะค่าน้ำมันดีเซล ที่มีการปรับราคาสูงขึ้น อีกทั้ง ขสมก.ไม่ได้ปรับค่าโดยสารมาตั้งแต่ปี 2543 และขณะนี้ได้เปิดตู้ ปณ.52 ปณจ.ราชดำเนิน กทม. 10200 เพื่อให้ประชาชนต้องการ ติ-ชม หรือแนะนำบริการ ถึงรัฐมนตรีโดยตรง ส่วนที่มีข่าวลือว่าจะปลด ผอ.ขสมก.นั้นไม่เป็นความจริง การมาครั้งนี้ก็เพื่อสยบข่าวลือนี้ด้วย ขณะนี้ได้ให้คณะที่ปรึกษา มาดูปัญหาขาดทุนของ ขสมก.เพื่อจะแก้ไขในเรื่องนี้ โดยจะมาเคลียปัญหาทีละเรื่อง และในอนาคตตามแผนฟื้นฟู ขสมก.จะปรับองค์กรเป็นรูปบริษัทในทำนองเดียวกับ บขส.และก้าวต่อไปจะต้องเป็นบริษัทมหาชนในอนาคต”--จบ--