นายปกศักดิ์ เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) เปิดเผยเกี่ยวกับกรณีผู้ประกอบการรถเอกชนร่วมบริการบางรายได้ติดประกาศขึ้นค่าโดยสารตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2548 เป็นต้นไป และอ้างว่าได้รับอนุญาตจาก ขสมก.นั้น ขอยืนยันว่ายังไม่มีการพิจารณา หรืออนุญาตให้รถเอกชนร่วมบริการ หรือรถมินิบัสคันใดปรับราคาค่าโดยสารตามประกาศทั้งสิ้น
นายปกศักดิ์ ฯ ผอ.ขสมก. ได้กล่าวต่อไปว่า การปรับอัตราค่าโดยสาร ขสมก. มิได้มีอำนาจในการพิจารณาเอง แต่เป็นอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ขสมก.เป็นเพียงผู้ถือใบอนุญาตประกอบการขนส่งเท่านั้น และขณะนี้คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางก็ยังไม่มีการพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารขึ้นแต่อย่างใด การที่ผู้ประกอบการรถเอกชนร่วมบริการนำประกาศปรับค่าโดยสาร
ขึ้นไปติดบนรถเป็นการกระทำโดยพลการมิได้รับอนุญาตจาก ขสมก. ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิด
เงื่อนไขใบอนุญาตประกอบการขนส่ง และผิดสัญญาเข้าร่วมเดินรถ ซึ่ง ขสมก. ได้แจ้งให้ผู้ประกอบการงดเว้นการ
ติดประกาศดังกล่าว และให้จัดเก็บอัตราค่าโดยสารตามที่ทางราชการกำหนดจนกว่าจะได้รับการอนุมัติให้ถูกต้องเสียก่อน หากผู้ประกอบการรถเอกชนร่วมบริการรายใดฝ่าฝืนปรับราคาขึ้นโดยพลการ หรือเก็บค่าโดยสารเกินราคา ขสมก.จะถือว่ามีเจตนากระทำผิดสัญญาและกฎหมาย ขสมก.ก็จะพิจารณาลงโทษขั้นเด็ดขาด ตามข้อกฎหมายและสัญญาต่อไป
ผอ.ขสมก.กล่าวในตอนท้ายว่า การพิจารณาปรับราคาค่าโดยสารนั้น นายอดิศร เพียงเกษ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีนโยบายจะให้สถาบันทางวิชาการที่มีผลงานเชื่อถือได้ เข้ามาทำการ
ศึกษาวิจัยอย่างเร่งด่วนและรอบคอบ ตามสภาพที่เป็นจริงเพื่อหาทางออกให้ถูกต้อง เพราะการพิจารณาปรับ
ราคาค่าโดยสารทุกครั้งจะมีผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บริการที่มีรายได้น้อยอยู่แล้วให้ได้รับความเดือดร้อนเพิ่มขึ้น--จบ--