เอสซี แอสเสท เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2547 กำไรโต 107 ล้านบาท ประกาศปี 2548 เดินหน้าผุดโครงการหลายรูปแบบ ยังคงเน้นทำเลศักยภาพ
นายสุรเธียร จักรธรานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอสซี แอสเสท คอรปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยถึงผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่สามของปี 2547 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 107 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 60 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 176 ล้านบาท หรือคิดเป็น 78 % เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2546 ที่มีรายได้ 224 ล้านบาท และผลประกอบการรวม 9 เดือน บริษัทมีรายได้ทั้งสิ้น 1,053 ล้านบาท กำไรสุทธิ 260 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.81 บาท
สำหรับสาเหตุหลักที่ทำให้บริษัทฯ มีรายได้และกำไรสุทธิเติบโตขึ้นมากจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เกิดจากยอดขายและรายได้จากค่าเช่าของบริษัท และบริษัทย่อย ใน 2 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย ส่วนที่ 1 โครงการพัฒนาที่พักอาศัย (Residential) จำนวน 214 ล้านบาท เป็นสัดส่วนประมาณ 54 % ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 187 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2546 ส่วนที่ 2 การบริหารจัดการอาคารให้เช่า (Rental & Service) จำนวน 170 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 43 % ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 58 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2546
ทั้งนี้บริษัทมีสินทรัพย์ ณ สิ้นไตรมาส 3/2547 จำนวน 7,160 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน จำนวน 967 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16 % โดยมีสินทรัพย์หมุนเวียน 2,715 ล้านบาท และมีหนี้สินรวม 3,146 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 707 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29% ซึ่งเกิดจากเงินกู้ระยะยาวที่เพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการจัดสรร
ส่วนความคืบหน้าของยอดขายโครงการต่าง ๆ ที่ได้เปิดตัวไปแล้วนั้น ขณะนี้โครงการบางกอกบูเลอวาร์ด รามอินทรา-วงแหวน-นวมินทร์ ในส่วนของเฟสที่ 1 ที่เปิดขาย มียอดขายแล้ว กว่า 80 % โครงการชาลิสา ลาดพร้าว-โชคชัย 4, โครงการชาลิสา กรุงเทพกรีฑา และโครงการ Centric Place ปัจจุบันปิดการขายแล้ว ส่วนอาคารสำนักงานชินวัตร ทาวเวอร์ 3 ปัจจุบันมีผู้เช่าแล้ว 92 %
นายสุรเธียร กล่าวต่อถึงกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทฯในปี 47 ว่า Key Success Factors ประกอบด้วยหลักการบริหารในหลายประการ 1.การผสมผสานหลักการบริหารการลงทุนทั้งระยะสั้นที่เป็นรายได้จากการขาย และระยะยาว ในรูปแบบรายได้จากการเช่า ซึ่งเป็นจุดที่สร้างความมั่นใจได้ว่า บริษัทจะได้รับผลกระทบไม่มากหากภาวะเศรษฐกิจถดถอยลง 2.บริษัทมีฐานด้านการเงินที่แข็งแกร่ง 3.Land Bank ที่บริษัทเลือกรวมถึงที่มีอยู่แล้วในขณะนี้เป็นทำเลศักยภาพ โดยเน้นที่ดินในเขต Prime area คือ พื้นที่เขตชั้นในและชั้นกลางของกรุงเทพ ที่มีเส้นแบ่งจากบริเวณถนนวงแหวนรอบนอกเข้ามาสู่ย่านใจกลางเมือง และเป็นพื้นที่หน้ากว้างโดยเห็นว่าเป็นกลยุทธ์ทางการตลาด
สำหรับแผนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในปี 2548 เพื่อเป็นการตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ระดับราคาปานกลางขึ้นไป บริษัทฯกำหนดเปิดโครงการพร้อมกันครบ 3 รูปแบบ มูลค่าโครงการรวม 2,720 – 3,020 ล้านบาทในครึ่งปีแรกประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยวพระราม 5 มูลค่าโครงการ 1,600-1,800 ล้านบาท โครงการทาวเฮ้าส์ วัชรพล มูลค่าโครงการ 420 ล้านบาท และโครงการอาคารชุด บริเวณพหลโยธิน มูลค่าโครงการ 700-800 ล้านบาท และอีก 2-3 โครงการในครึ่งปีหลัง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
บริษัท โอเอซิส มีเดีย จำกัด
คุณภัทธิรา บุรี หรือ คุณฤดี ธรรมเทียร
โทรศัพท์ 0-2937-4000 ต่อ 2068
หรือ 0-2937-4658-9 , 0-2937-4735 ต่อ 16-17
โทรสาร. 0-2937-4658 ต่อ 18--จบ--