กรุงเทพฯ--24 พ.ย.--โตชิบา
โตชิบา สิงคโปร์ และบริษัท ชีวาเลียร์ ไอเทค ไทย เปิดตัวนวัตกรรมเครื่องมัลติฟังก์ชั่นรุ่นใหม่ล่าสุด e-STUDIO 3511/4511 และ e-STUDIO 230/280 เพียบพร้อมไปด้วยโซลูชั่นการทำงานอันทรงประสิทธิภาพสูงสุดด้วยการรวมฟังก์ชั่นการถ่ายเอกสาร, พิมพ์, สแกน, อินเตอร์เน็ทแฟกซ์ และขีดความสามารถด้านเน็ทเวิร์คอื่นๆ เข้าไว้ด้วยกัน ตั้งเป้ายอดจำหน่ายกว่า2,000 เครื่องภายในสิ้นปีหน้า หรือครองส่วนแบ่งตลาดรวม 10 เปอร์เซ็นต์จากมูลค่าตลาดรวม
คุณจิมมี่ ลิม ผู้จัดการประจำสำนักงานประเทศไทย (แผนกอิเล็กทรอนิกส์ อิมเมจจิ้ง) กล่าวว่า “ในปัจจุบันเครื่องมัลติฟังก์ชั่นได้รับการตอบรับจากหลายองค์กร ไม่ว่าขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ เพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยทางบริษัทตอบรับความต้องการของตลาดจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ล่าสุด e-STUDIO 3511/4511 และ e-STUDIO 230/280 เพื่อการจัดการเอกสารที่ง่ายกว่า สะดวกกว่า ซึ่งจะนำไปสู่ความได้เปรียบทางธุรกิจอย่างเหนือชั้น เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างฟังก์ชั่นการทำงานระดับสูงให้เข้ากับความง่ายในการใช้งาน เพื่อเป็นโซลูชั่นที่สามารถตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของแต่ละกลุ่มธุรกิจต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะทุกฟังก์ชั่นที่คุณใช้งาน คือต้นทุนที่ลดลง เครื่องมัลติฟังก์ชั่นรุ่นดังกล่าวจึงเป็นทางเลือกเพียงหนึ่งเดียวสำหรับองค์กรที่ต้องการก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
สำหรับฟังก์ชั่นพิเศษที่มาพร้อมกับความโดดเด่นด้านเทคโนโลยี e-BRIDGE จาก โตชิบา e-STUDIO 230/280 และ e-STUDIO 3511/4511 นั้น สามารถยกระดับประสิทธิภาพการทำงานขององค์กรได้อย่างน่าทึ่ง โดยนวัตกรรมอันล้ำสมัยนี้ได้อาศัยสถาปัตยกรรมแบบ All-in-One ที่รวมความสามารถในการทำสำเนา พิมพ์ สแกนและอินเตอร์เน็ตแฟกซ์เข้าไว้เป็นหนึ่งเดียว จึงช่วยให้คุณสามารถประมวลผลงานจากฟังก์ชั่นต่างๆ ได้พร้อมกันผ่านอินเตอร์เฟซเดียว
คุณสมบัติที่โดดเด่นของเครื่องโตชิบา e-STUDIO 230/280 คือ “100% Toner Recycling System” เทคโนโลยีการนำผงหมึกกลับมาใช้ใหม่ จึงไม่ต้องมีภาชนะสำหรับทิ้งเศษหมึก และไม่ต้องเสียเวลาหยุดการทำงานของเครื่องเพื่อนำเศษหมึกไปทิ้ง อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถเปลี่ยนตลับหมึกได้สะดวกง่ายดายอีกด้วยเนื่องจากไม่มีฝุ่นหมึกเลอะเปรอะเปื้อน และให้ความรวดเร็วที่ 23 และ 28 แผ่นต่อนาที (ตามลำดับ) ในการถ่ายเอกสารขาว-ดำและสแกนเอกสารได้ที่ 45 แผ่นต่อนาที แม้ในขณะที่เอกสารอยู่ ใช้เวลาอุ่นเครื่องรวดเร็วเพียง 25 วินาที และให้งานเอกสารแผ่นแรกในเวลาเพียงแค่ 5.4 วินาทีเท่านั้น
สำหรับเครื่อง e-STUDIO 3511/4511 พิมพ์ และถ่ายเอกสารที่ 35 และ 45 แผ่นต่อนาทีตามลำดับ สำหรับเอกสารขาว-ดำให้ความละเอียดคมชัดถึง 2,400 x 600 dpi นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถพิมพ์ และถ่ายเอกสาร “สี” ที่ความเร็ว 11 แผ่นต่อนาทีด้วยค่าใช้จ่ายที่ถูกอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้ง 2 รุ่นนี้ใช้เวลาในการถ่ายเอกสารแผ่นแรกเพียง 6.8 วินาที (ขาว-ดำ) และ 16.2 วินาที (สี) ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะในการทำความร้อนจากโตชิบาจึงสามารถอุ่นเครื่องได้ภายในเวลาเพียงแค่ 40 วินาทีเท่านั้น”
ทางด้านบริษัทชีวาเลียร์ ไอเทค ไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายเครื่องมัลติฟังก์ชั่นรุ่น e-STUDIO 3511/4511 และ e-STUDIO 230/280 โดย ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป มร.เคล็มเมิ่นส์ เอส เอฟ เลิง กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับแผนการตลาดในปีหน้าซึ่งมีการปรับตัว และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา เราจึงเปิดกว้างสำหรับแนวคิดใหม่ๆ ในการทำการตลาดสินค้าของเรา นอกเหนือจากการทำตลาด หรือประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทั่วไป เรามีความตั้งใจที่จะลงทุนทำการตลาดมากขึ้นผ่านช่องทางมัลติมีเดีย ซึ่งนำเสนอแนวคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ที่ตอบรับกับภาพลักษณ์สินค้าทั้งในด้านเทคโนโลยี และคุณภาพ ซึ่งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในครั้งนี้ ทางบริษัทฯ มีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่าเครื่องมัลติฟังก์ชั่นรุ่นดังกล่าวจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งองค์กรเล็ก และบริษัทระดับใหญ่ที่ให้ความมั่นใจในสินค้า และเชื่อมั่นในคุณภาพชองสินค้า และบริการหลังการขาย ซึ่งมีการทำตลาดผ่านดีลเลอร์ทั่วประเทศ ทั้งนี้คาดว่าภายในปีหน้าจะสามารถกระตุ้นตลาดได้มากกว่า 2,000 เครื่อง ซึ่งจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้ถึง 10 เปอร์เซ็นต์จากมูลค่าตลาดรวม”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
อำนาจ มุกดาประกร (อ้น)
โทร.0-1420-1886
คุณณัชชา โกมลวัจนะ (เอ)
โทร.0-1616-1288
คุณรสวันต์ ดวงสร้อยทอง (โอ๋) โทร.0-9665-6819--จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit