เลขาธิการบีโอไอเดินสายชักจูงการลงทุนในต่างประเทศครั้งสุดท้ายที่ ประเทศญี่ปุ่น ก่อนเกษียณอายุราชการสิ้นเดือนกันยายนนี้ นัดพบปะหารือบริษัท ยักษ์ใหญ่ชั้นนำ เคดันเรน (Keidanren) เจโทร SMEs ญี่ปุ่น และธนาคารญี่ปุ่นที่เป็นเครือข่ายชักจูงการลงทุนกับบีโอไอ เพื่อฝากฝังการลงทุนในประเทศไทย
นายสมพงษ์ วนาภา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงการเดินทางไปชักจูงการลงทุน ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 6 – 9 กันยายน 2547 ว่า การชักจูงการลงทุนที่ประเทศญี่ปุ่นถือเป็นการเดินสายโรดโชว์ครั้งสุดท้ายก่อนที่ตนจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2547 ญี่ปุ่นถือเป็นนักลงทุนที่สำคัญที่สุดของไทย เนื่องจากบริษัทญี่ปุ่นได้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งมาตลอด
การเดินทางไปครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนำนายชิตวร วรศักดิ์ หัวหน้าสำนักงานบีโอไอโตเกียวกับชุมชนธุรกิจญี่ปุ่น รวมทั้งเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ CEO ของบริษัทชั้นนำ ผู้นำองค์กรสำคัญทางธุรกิจ เช่น Keidanren, JETRO และ Japan ASEAN Center เพื่อตอกย้ำยุทธศาสตร์และนโยบายต้อนรับการลงทุนจากญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีของไทย CEO ของบริษัทที่จะเข้าร่วมหารือด้วย เช่น มัตสึชิตะ ฮิตาชิ ชินโนเคนชิ มินิแบ และฟูจิกูระ เป็นต้น
ในโอกาสเดียวกันนี้ จะจัดการประชุมพบปะกับนักลงทุนญี่ปุ่นทั้งรายเก่าและรายใหม่ โดยเน้นเอสเอ็มอีญี่ปุ่น ปรากฎว่ามีนักลงทุนญี่ปุ่นจะเข้าร่วมประชุมกว่า 400 คน รวมทั้งจะมีการพบปะกับกลุ่มอดีต ผู้บริหารของญี่ปุ่นที่เคยทำงานในประเทศไทย รวมทั้งอดีตเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียวเข้าร่วมการประชุมทั้ง 2 การประชุมด้วย
นอกจากนี้ จะเดินทางไปพบปะหารือและฟื้นฟูความสัมพันธ์กับเครือข่ายของบีโอไอ ในการชักจูงการลงทุนจากญี่ปุ่นมาสู่ไทย โดยจะพบปะกับผู้บริหารของธนาคารโตเกียวมิตซูบิชิ ธนาคารมิซูโฮ ธนาคาร UFJ (United Finance of Japan) และธนาคาร Shoko Shukin เพื่อร่วมมือกันรณรงค์ชักจูงการลงทุนจากญี่ปุ่นมาสู่ไทยอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
ยิ่งไปกว่านั้น จะพบปะหารือกับนายเท็ตซึโอะ ฮิรายาม่า ประธานบริษัท Dempa Shimbun ซึ่งเป็นสำนักพิมพ์ที่เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์และวารสารเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เพื่อแสวงหาความร่วมมือในการเผยแพร่บรรยากาศและโอกาสการลงทุนในไทย
สำหรับการลงทุนทางตรงจากญี่ปุ่นในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2547 พบว่า มีโครงการขอรับส่งเสริม 215 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 56,400 ล้านบาท และเป็นประเทศที่ลงทุนในไทยมากที่สุดในบรรดาการลงทุนจากต่างประเทศ--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--