แนเชอรัล พาร์ค รุกแผนยุทธศาสตร์ต่อยอดรายได้หวังสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจ

กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--แนเชอรัล พาร์ค แนเชอรัล พาร์ค ต่อยอดธุรกิจใหม่หลังเปิดเลอโนท หวังสร้างรายได้การทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท เข้าซื้อร้านอาหารฝรั่งเศส ออร์แบจ ต๊าบ และร้าน พาร์ค อเวนิว สเต๊กเฮ้าส์ บนตึกเมอร์คิวรี่ ย่านเพลินจิต พร้อมปรับโฮมอาคารเมอร์คิวรี่รองรับเศรษฐกิจโตด้วยงบกว่า 200 ล้านบาทเป็นอาคารสำนักงานหรูทันสมัยในย่านเพลินจิตภายใต้ชื่อ "อาคารเดอะแพลตินัม" นายเสริมสิน สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท เพื่อต่อยอดธุรกิจด้วยการกิจการซื้อร้านอาหารฝรั่งเศส ออร์แบจ ด๊าบ (Auberge Dab) และร้าน พาร์ค อเวนิว สเต๊กเฮ้าส์ (Park Avenue Steakhouse) ซึ่งตั้งอยู่ ณ อาคาร เมอร์คิวรี่ ถนนเพลินจิต โดยคาดว่าร้านอาหารทั้ง 2 แห่งนี้จะสามารถทำกำไรได้ประมาณ 20 ล้านบาทในปี 2547 และยังมีแผนที่จะขยายพื้นที่ร้านเพิ่มเพื่อรองรับการบริการลูกค้าที่จะเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการขยายสาขาเข้าไปในเครือข่ายอสังหาริมทรัพย์ของแนเชอรัล พาร์ค ในอนาคต อาทิ โรงแรม ต่างๆ เป็นต้น "บริษัทฯ" มีแผนในการปรับปรุงอาคารเมอร์คิวรี่ วึ่งเป็นสถานที่ตั้งของร้านอาหารทั้ง 2 แห่งนี้ให้เป็นอาคารสำนักงานที่มีรูปโฉมทันสมัยในย่านถนนเพลินจิต โดยใช้งบประมาณกว่า 200 ล้านบาท พร้อมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นอาคารสำนักงาน เดอะ แพลตินัม ( The Platinum) "นายเสริมสิน กล่าว และให้รายละเอียดด้วยว่า การซื้อร้านอาหาร 2 แห่งในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายหลักของบริษัท ที่มุ่งสู่การเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร และเป็นการต่อยอดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วนและสมบูรณ์แบบ" ออร์แบจ ด๊าบ เป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในฝรั่งเศส เปิดบริการในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2541 และได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างดี ด้วยจุดเด่นทั้งรสชาติอาหารที่อร่อย ทำเลที่ตั้งที่ติดสถานีรถไฟฟ้าชิดลม และบรรยากาศที่อบอุ่นตกแต่งด้วยไม้สไตล์ Parisian ตลอดจนบริการระดับ 5 ดาว ทำให้ ออร์แบจ ด๊าบ ได้รับรางวัลร้านอาหารฝรั่งเศสยอดนิยมในปีที่ผ่านมา และยังได้รับรางวัลภัตตาคารยอดนิยม ประเภทอาหารฝรั่งเศส ถึง 2 ปี ติดต่อกันอีกด้วย ส่วน พาร์ค อเวนิว สเต๊กเฮ้าส์ เป็นร้านสเต๊กที่ให้บริการประมาณ 2 ปี มีจุดเด่นที่คุณภาพของวัตถุดิบ ซึ่งจะนำเข้าเฉพาะเนื้อที่ไม่ผ่านการแช่แข็ง และยังการปรุงอาหารที่พิถีพิถัน โดยใช้ระบบอย่างแบบเตาถ่าน ซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้าในปัจจุบันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังเน้นบรรยากาศของร้านในสไตล์หรูหราอบอุ่น และเป็นกันเอง "บริษัทฯ ได้กำหนดกลยุทธ์ในการวางตำแหน่ง (Positioning) ของร้านอาหารแต่ละแห่งแตกต่างกันไปโดยร้านอาหารที่ซื้อใหม่ทั้ง 2 แห่งนี้ เน้นสไตล์หรูหรา ในลักษณะของ Fine Dining เพื่อรองรับลูกค้าระดับบนเป็นหลัก" นายเสริมสิน กล่าวเสริม ส่วนร้าน เลอโนท (LeNotre) ซึ่งจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ เป็นร้านเบเกอรี่ชั้นนำของประเทศฝรั่งเศส ที่เน้นความเป็นคาเฟ่ ในลักษณะร่วมสมัย (Contemporary) เพื่อรองรับลูกค้าระดับกลาง ถึง ระดับบน โดยจะเปิดให้บริการที่ แนเชอรัล วิลล์ เอ็กเซ็กควิทีฟ เรสซิเด้นส์ เซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ หรูของบริษัทฯ บนถนนหลังสวน เป็นสาขาแรกในประเทศไทย ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ: คุณอิทธิชัย เบญจธนสมบัติ บริษัท แนเซอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2658-7680 แฟกซ์ 0-2658-7677--จบ-- -ดพ/นห-

• ข่าวเสริมสิน สมะลาภา
• ข่าวอสังหาริมทรัพย์
• ข่าวแนเชอรัล พาร์ค
• ข่าวแผนยุทธศาสตร์
• ข่าวเมอร์คิวรี่