โรลส์รอยซ์ติดตั้งเครื่องยนต์เทรนท์ เติมพลัง 8 เครื่องบินใหม่คาเธ่ย์ แปซิฟิก

11 May 2004

กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--เอ็มดีเค คอนซัลแทนส์ (ประเทศไทย)

โรลส์รอยซ์ ส่งเครื่องยนต์สมรรถนะเยี่ยมขับเคลื่อนเครื่องบินโดยสาร 8 ลำใหม่ล่าสุดของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก เริ่มส่งมอบสิงหาคมศกหน้า

สายการบินสัญชาติฮ่องกงได้วางแผนซื้อเครื่องยนต์เทรนท์ 800 สำหรับติดตั้งในเครื่องบิน โบอิ้ง 777 จำนวน 2 ลำ ซึ่งเริ่มส่งมอบในเดือนเมษายน 2548 นอกจากนี้ยังติดตั้งเครื่องยนต์เทรนท์ 700 แก่เครื่องบินแอร์บัส เอ300 จำนวน 3 ลำ ซึ่งจะเริ่มส่งมอบในเดือนสิงหาคม 2549 ทั้งนี้มูลค่าทางธุรกิจเครื่องยนต์ของโรลส์รอยซ์คิดเป็น120 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4,720 ล้านบาท

นอกจากการซื้อเครื่องบินโดยสาร 5 ลำแล้ว คาเธ่ย์ แปซิฟิกได้เช่าเครื่องบินแอร์บัส เอ330 จำนวน 3 เครื่อง ติดตั้งเครื่องยนต์เทรนท์ 700 ของโรลส์รอยซ์ จากองค์กรเงินทุนระหว่างประเทศ หรือไอแอลเอฟซี (International Lease Finance Corporation) โดยจะเริ่มส่งมอบเครื่องบินในเดือนมิถุนายน 2548

ชาร์ลส์ คัดดิงตัน กรรมการผู้จัดการฝ่ายสายการบินของโรลส์รอยซ์ กล่าวว่า “เรายินดีที่ลูกค้าเก่าแก่เช่นคาเธ่ย์ แปซิฟิก สั่งซื้อเครื่องยนต์เพิ่มจากเรา ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความแข็งแกร่งและความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของผลิตภัณฑ์ตระกูลเทรนท์”

คาเธ่ย์ แปซิฟิก คือลูกค้ารายแรกที่ใช้เครื่องบินแอร์บัส เอ330 ติดตั้งเครื่องยนต์เทรนท์ 700 เมื่อปี2538 พร้อมเลือกติดตั้งเครื่องยนต์เทรนท์ 800 ให้กับเครื่องบินโบอิ้ง 777 เช่นกัน และเมื่อเร็วๆนี้ เครื่องบินแอร์บัส เอ 340-600 สำหรับบินไกลพิเศษของคาเธ่ย์ แปซิฟิกได้ติดตั้งเครื่องยนต์เทรนท์ 500 ซึ่งเป็นสมาชิกลำดับสามของตระกูลเทรนท์ โดยเครื่องบินรุ่นนี้เริ่มให้บริการในเส้นทางฮ่องกง-นิวยอร์ค ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป

ปัจจุบันโรลส์รอยซ์ติดตั้งเครื่องยนต์แก่เครื่องบินแอร์บัส เอ 330 จำนวน 23 ลำ เครื่องบิน โบอิ้ง 777 จำนวน 15 ลำ เครื่องบินโบอิ้ง 747 จำนวน 28 ลำ และเครื่องบินแอร์บัส เอ340-600 จำนวน 3 ลำของของสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก

ข้อมูลสำหรับกองบรรณาธิการ

โรลส์รอยซ์เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก ซึ่งมีการเติบโตทางธุรกิจอย่างแข็งแกร่งในตลาดอุตสาหกรรม 4 ประเภท ได้แก่ การบินพาณิชย์ การบินทหาร การเดินเรือ และการพลังงาน มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีและสมรรถนะซึ่งนำไปใช้ประโยชน์และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพโดดเด่นสำหรับธุรกิจแต่ละประเภท ความสำเร็จของผลิตภัณฑ์เหล่านี้วัดได้จากส่วนแบ่งการตลาดของโรลส์รอยซ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมั่นคงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปัจจุบันโรลส์รอยซ์มีเครื่องยนต์ก๊าซเทอร์ไบน์ให้บริการอยู่กว่า 54,000 เครื่องทั่วโลก ทั้งนี้การลงทุนด้านผลิตภัณฑ์ สมรรถนะ และโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้โรลส์รอยซ์สามารถคงตำแหน่งผู้นำในตลาดเครื่องยนต์เหนือคู่แข่งรายอื่น

โรลส์รอยซ์มีลูกค้าหลายกลุ่ม ได้แก่ ลูกค้าสายการบินกว่า 500 แห่ง บริษัทให้เช่าเครื่องบินสำหรับองค์กรและผู้ประกอบการสาธารณูปโภคอีก 4,000 ราย กองทัพนานาชาติ 160 แห่ง ผู้ประกอบการเดินเรือพาณิชย์ 2,000 ราย และกองทัพเรืออีกกว่า 50 แห่ง นอกจากนี้ บริษัทยังมีลูกค้ากลุ่มพลังงานในเกือบ 120 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบันโรลส์รอยซ์มีพนักงานประมาณ 35,000 คนประจำการอยู่ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงทีมงานกว่า 21,000 คน ในสหราชอาณาจักร โดยพนักงานประมาณร้อยละ 40 ประจำการอยู่ในประเทศอื่นๆ อาทิพนักงาน 5,000 คนในยุโรป และอีกกว่า 8,000 คนในอเมริกาเหนือ

เครื่องยนต์ในประจำการจำนวนมากของโรลส์รอยซ์ก่อให้เกิดความต้องการบริการหลังการขายที่แน่นอน ทั้งในส่วนของการจัดหาอะไหล่สำรองและบริการอื่นๆ ดังนั้นบริษัทจึงดำเนินกลยุทธ์พัฒนาประสิทธิภาพของบริการครบวงจร เพื่อเพิ่มรายได้ในส่วนของบริการหลังขาย ซึ่งในช่วงห้าปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้จากธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 60

โรลส์รอยซ์มีรายได้รวมต่อปีประมาณ 6 พันล้านยูโร โดยร้อยละ 50 ของรายได้ทั้งหมดมาจากธุรกิจบริการหลังการขาย ทั้งนี้ยอดสั่งซื้อเครื่องยนต์มูลค่าสูงกว่า 18 พันล้านยูโร ผนวกกับความต้องการบริการหลังการขาย สะท้อนแนวทางธุรกิจของโรลส์รอยซ์ในอนาคต

บริษัท เอ็มดีเค คอนซัลแทนส์ (ประเทศไทย) จำกัด

สุชาดา วีระสกุลรักษ์ / อรวีร์ วิริยธนานนท์

โทรศัพท์ 0-2658-6111--จบ--

-นท-