กทม.และการเคหะแห่งชาติประสานความร่วมมือสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยให้ผู้มีรายได้น้อย

15 Oct 2003

กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--กทม.

เมื่อเร็ว ๆนี้ ที่ห้องราชเทวี 2 โรงแรมเอเซีย เขตราชเทวี นางณฐนนท ทวีสิน ปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมสัมมนาประสานความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร กับการเคหะแห่งชาติ โดยมีนางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ นายฐิตานนท์ พิบูลนครินทร์ นายพรศักดิ์ บุณโยดม รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ. และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมในการสัมมนา

ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาความไม่มั่นคงในการอยู่อาศัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก้ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มผู้มีรายได้น้อย รัฐบาลโดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ได้มีนโยบายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงการคลังร่วมดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมอบหมายให้การเคหะแห่งชาติจัดสร้างที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มผู้มีรายได้น้อย รวมถึงข้าราชการชั้นผู้น้อย และพนักงานหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้ได้เช่าซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาที่สามารถรับภาระได้ รวมทั้งสิ้น 600,000 หน่วย ภายในระยะเวลา 5 ปี (พ.ศ.2546-2550) โดยใช้หลักวิชาการพัฒนาเมือง สำรวจกลุ่มเป้าหมายก่อนการจัดทำโครงการเพื่อคัดเลือกทำเลที่ตั้งโครงการให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และพิจารณาแนวทางความร่วมมือกับภาคเอกชนในการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในระบบอุตสาหกรรม แสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อร่วมดำเนินการโครงการบ้านเอื้ออาทร รวมทั้งให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์จัดตั้งวงเงินหมุนเวียนจำนวน 300 ล้านบาท เพื่อให้การเคหะแห่งชาติในการซื้ออาคารคืน และนำกลับมาขายใหม่ในกรณีที่ผู้เช่าซื้อขาดการชำระติดต่อกันเกิน 3 เดือน โดยรัฐบาลเป็นผู้รับภาระดอกเบี้ย

เพื่อเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงในการอยู่อาศัยในแก่กลุ่มเป้าหมาย และตอบสนองนโยบายดังกล่าว การเคหะแห่งชาติได้ดำเนินการจัดทำ โครงการบ้านเอื้ออาทร กำหนดรูปแบบที่พักอาศัยในลักษณะอาคารชุดและอาคารแนวราบทุกภูมิภาคทั่วประเทศเป้าหมายจำนวนรวมทั้งสิ้น 601,727 หน่วย ซึ่งจะดำเนินการในปี พ.ศ.2546-2550 โดยการเคหะแห่งชาติเริ่มดำเนินการโครงการระยะที่ 1 และ 2 ในปี พ.ศ.2546 จำนวน 11,727 หน่วย และระยะที่ 3 จะเริ่มดำเนินการในปี พ.ศ.2546-2547 อีกจำนวน 140,000 หน่วย ในส่วนของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเป้าหมายการก่อสร้างทั้ง 3 ระยะ ทั้งสิ้น 478,172 หน่วย ทั้งนี้การเคหะแห่งชาติจะจัดหาสถาบันการเงินเพื่อให้การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่กลุ่มเป้าหมายได้เช่าซื้อที่อยู่อาศัย ในอัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่ ร้อยละ 5-7 ปรับทุก 3-5 ปี ผ่อนชำระในอัตราก้าวหน้า ระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี โดยมีอัตราการผ่อนชำระของกลุ่มเป้าหมายไม่เกิน ร้อยละ 10-15 ของรายได้ครัวเรือนต่อเดือน

ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า โครงการดังกล่าวนับว่าก่อให้เกิดประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ด้อยโอกาสและผู้มีรายได้น้อย ให้ได้รับการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยการสร้างความมั่นคงในด้านที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ตนอยากให้การเคหะแห่งชาติดำเนินการในส่วนของการบริหารสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จำเป็นให้เพียงพอ สร้างลานกีฬา สวนสุขภาพ สวนสาธารณะสำหรับการพักผ่อนและการออกกำลังกาย การจัดการขยะ การบำบัดน้ำเสีย รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนในครอบครัว ชุมชน และสังคม ให้เกิดความเข้มแข็งมีดุลยภาพ ร่วมกันพัฒนาให้เกิดชุมชนที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน อันจะส่งผลต่อเนื่องถึงการพัฒนาประเทศชาติโดยรวมต่อไป

ผู้ว่าการการการเคหะแห่งชาติ กล่าวอีกว่า การเคหะแห่งชาติได้ประกาศพิจารณาดำเนินการจัดซื้อที่ดินเพื่อใช้สำหรับจัดทำโครงการบ้านเอื้ออาทรในเขต กทม.และปริมณฑล โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ที่ดินที่เสนอขายต้องอยู่ในขอบเขตให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายผังเมือง กทม. ที่ดินต้องมีเนื้อที่ติดต่อกัน หากอยู่ในกทม.ต้องมีเนื้อที่ 10-30 ไร่/แปลง ในเขตชานเมืองและปริมณฑล ต้องมีเนื้อที่ 30-150 ไร่/แปลง ที่ดินที่เสนอขายต้องยืนราคาไม่น้อยกว่า 6 เดือนนับแต่วันยื่นแบบเสนอขายที่ดิน และไม่อยู่ในพื้นที่หวงห้ามของราชการ ผู้สนใจเสนอขายที่ดินสามารถยื่นเอกสารตามแบบเสนอขายของการเคหะแห่งชาติได้ทางไปรษณีย์ หรือยื่นได้ที่ กองที่ดิน ศูนย์บริหารงานที่ดินและอาคารชุด การเคหะแห่งชาติ ถนนนวมินทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. ตั้งแต่ บัดนี้ถึง 31 ต.ค.46 ในวันราชการ ระหว่างเวลา 8.30-16.30 น. หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมทางโทรศัพท์หมายเลข 0 2375 8901, 0 2375 8800, 0 2374 0411, 0 2377 7375 ต่อ 6235, 6532, 6533 และ 6534--จบ--

-นห-