กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--บีโอไอ
- บีโอไอเพิ่มบทบาทส่งเสริมการลงทุน หนุนนักลงทุนไทยไปลงทุนในต่างประเทศ สอดรับนโยบายล่าสุดจากรองนายกฯ สมคิด
- ประเดิมจัดสัมมนาโอกาสและลู่ทางการลงทุนในนครโฮจิมินห์และเวียดนามตอนใต้ พร้อมนำคณะนักลงทุนเวียดนามมาเชิญชวนคนไทยไปลงทุนด้านสิ่งทอและรองเท้า
- เลขาธิการบีโอไอมั่นใจ ผลจากการลงนามความร่วมมือด้านการลงทุนไทย-เวียดนาม จะช่วยให้นักลงทุนไทยได้ข้อมูลเชิงลึกมากขึ้น
นายสมพงษ์ วนาภา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคมนี้ บีโอไอร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศจะจัดการสัมมนาเรื่อง "ลู่ทางการค้าและการลงทุนในนครโฮจิมินห์และเวียดนามตอนใต้" ในเวลา 13.30 - 17.00 น. ณ ห้องอยุธยา 2 โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยและผู้ที่สนใจจะเข้าไปลงทุนในเวียดนามได้มีโอกาสรับฟังข้อมูลข่าวสารด้านการค้าและการลงทุนจากผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐของเวียดนาม และได้พบปะกับนักธุรกิจจากประเทศเวียดนามด้วย
"การจัดสัมมนาในครั้งนี้เป็นหนึ่งในหลายกิจกรรมที่บีโอไอจะช่วยสร้างโอกาสและลู่ทางการลงทุนในต่างประเทศให้กับนักลงทุนไทย ซึ่งบีโอไอได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เมื่อไม่นานมานี้"
สำหรับเนื้อหาของการสัมมนาครั้งนี้ประกอบด้วย การปฏิรูปมาตรการลงทุนของนครโฮจิมินห์รวมทั้ง กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการลงทุนในเวียดนาม ตลอดจนโอกาสและลู่ทางการค้าการลงทุนในเวียดนามสำหรับบริษัทไทย บรรยายโดยผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องของเวียดนาม
นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายประสบการณ์การลงทุนในเวียดนาม โดยประธานหอการค้าสหรัฐอเมริกา-โฮจิมินห์ ที่สำคัญนักลงทุนไทยยังมีโอกาสได้พบปะกับคณะนักลงทุนจากประเทศเวียดนามที่มีความตั้งใจมาเชิญชวนคนไทยไปลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมสิ่งทอและรองเท้าด้วย
ที่ผ่านมาจนถึงปี 2545 มีการลงทุนของไทยในเวียดนามรวมทั้งสิ้น 110 โครงการ คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 1,160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นอันดับที่ 9 จาก 56 ประเทศที่ลงทุนในเวียดนาม และเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่มประเทศอาเซียนรองจากสิงคโปร์ การลงทุนของไทยส่วนใหญ่เป็นกิจการแปรรูปสินค้าเกษตร โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมประกอบชิ้นส่วนรถยนต์และจักรยานยนต์ ตลอดจนสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ โดยมีบริษัทชั้นนำ อาทิ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เบทาโกร กลุ่มอมตะ กระทิงแดง และไทยนครพัฒนา
"เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บีโอไอได้ลงนามความร่วมมือด้านการทุนกับบีโอไอของประเทศเวียดนาม เพราะทั้งสองประเทศมีปัจจัยทางเศรษฐกิจที่สามารถเกื้อหนุนซึ่งกันและกันได้ และสามารถร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันได้ นอกจากนี้ การลงนามความร่วมมือยังจะช่วยให้นักลงทุนไทยได้รับข้อมูลเชิงลึกและอาจจะเป็นปัจจัยให้มีการลงทุนของไทยในเวียดนามเพิ่มขึ้นด้วย" นายสมพงษ์กล่าว
ผู้ที่สนใจรับฟังโอกาสและลู่ทางการลงทุนในเวียดนาม สามารถเข้าร่วมงานสัมมนาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โดยติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณเจิดจันทร์ พรพิบูลย์ คุณทรงสิรินุช ตันติเวสส คุณสิทธิกิตติ์ รัชตะทรัพย์ โทรศัพท์ 02-537-8111 ต่อ 1061 - 1069--จบ--
-นห-