กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--ไนน์ อีสต์
นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการผู้จัดการกลุ่ม SME Solution บริษัท เทเลคอมเอเซีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะ (รักษาการ) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอเชีย ไวร์เลส คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ผู้ให้บริการโทรศัพท์บ้านยุคใหม่ หรือ พีซีที ได้แถลงถึงผลการดำเนินงานของ พีซีที ในช่วงเวลาที่ผ่านมาว่า บริษัทฯ ยังคงมีผลประกอบการที่ดี แม้ว่าอัตราการเติบโตจะชะลอตัวไปบ้าง แต่รายได้ที่บริษัทฯ สร้างให้กับเครือเทเลคอมเอเซีย ก็ยังคงเป็นอันดับสองรองจากโทรศัพท์พื้นฐาน ทั้งนี้การที่พีซีที ไม่มุ่งเน้นการสร้างฐานลูกค้าในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ใช้บริการพีซีที ทั้งสิ้นประมาณ 600,000 ราย ทั้งที่ระบบโครงข่ายส่วนกลาง อาทิ โครงข่ายอัจฉริยะ หรือ IN สามารถรองรับลูกค้าได้เพียง 500,000 รายเท่านั้น จึงจำเป็นต้องมีการขยายโครงข่ายอัจฉริยะ หรือ IN ดังกล่าว โดยได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2545 และกำหนดแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสแรกของปี 2546 อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามารถของทีมวิศวกรรมสามารถดำเนินการปรับปรุงปรับให้ IN ตัวเดิมรองรับฐานลูกค้าจำนวน 600,000 ราย ในระหว่างปี 2545 ได้โดยไม่เกิดปัญหาใดๆ และในปัจจุบันนี้บริษัทฯ ได้ทำการโอนย้ายฐานลูกค้าทั้งหมด ไปที่โครงข่ายอัจฉริยะ หรือ IN ตัวใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งไม่เพียงแต่สามารถรองรับการเติบโตของลูกค้าได้ถึง 1 ล้านรายเท่านั้น IN ตัวใหม่ยังมีความสามารถพิเศษเพิ่มเติมอีกหลายอย่าง ที่สามารถสนับสนุนการให้บริการที่หลากหลาย และเป็นระบบที่เอื้ออำนวย ให้บริการ พีซีที สามารถสร้างสรรค์บริการในลักษณะที่เป็น Total Customer Solution ได้อย่างสมบูรณ์
นอกจากนี้ในปี 2545 ที่ผ่านมา เครือเทเลคอมเอเซีย ได้มีการพัฒนาระบบ Billing ครั้งใหญ่ เพื่อรองรับการแข่งขันเสรีที่จะเกิดขึ้น ทำให้ พีซีที จำเป็นต้องชะลอแผนการตลาดบางอย่างเพื่อให้สอดคล้องกับแผนการพัฒนาระบบ Billing ในภาพรวม ดังนั้น ในปีที่ผ่านมา จึงเปิดโอกาสให้ พีซีที มีเวลาที่จะหันกลับมาดูแลหลังบ้านอย่างจริงจังและจัดการกับหลายเรื่องที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง รวมทั้งได้มีการศึกษาความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าทั้งระบบ เพื่อกำหนดรูปแบบบริการใหม่ ๆ ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มให้มากที่สุด จึงเป็นที่มาของการปรับแผนธุรกิจในปีนี้เพื่อสนับสนุนการให้บริการ ในแบบ Customer Centric โดยจะเริ่มต้นดำเนินการตามแผน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีนี้ เป็นต้นไป
นอกจากนี้นายอติรุฒม์ ยังได้กล่าวถึงถึงเป้าหมายหลักของแผนธุรกิจในปี 2546 ของ พีซีที โดยแบ่งความสำคัญออกเป็นด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. มุ่งเน้นการสร้างระบบ Customer Relation Management (CRM) เพื่อให้ พีซีที มีข้อมูลของลูกค้าปัจจุบันครบทุกด้าน รวมถึงเพื่อสามารถกำหนดแผนการตลาดในกลุ่มลูกค้าเดิมได้อย่างเหมาะสม เพื่อสร้างคุณค่า (Value) ให้กับผู้ใช้บริการทุกรายทั้งลูกค้าที่ใช้น้อยจนถึงลูกค้าที่ใช้มาก เพื่อให้ลูกค้ายังคงใช้งานอย่างต่อเนื่องและมีการใช้งานเพิ่มขึ้น
2. ปรับปรุงคุณภาพโครงข่ายทั้งระบบ เพื่อให้มีคุณภาพการใช้งานที่ดี เชื่อถือได้รวมถึงสามารถขยายพื้นที่ให้บริการเพิ่มเติมจากเดิม โดยจะมีการติดตั้งสถานีลูกข่ายในระบบใหม่ ที่มีความสามารถรองรับการสื่อสารข้อมูลความเร็วสูงที่ 64 Kbps. (กิโลบิตต่อวินาที) ในพื้นที่กลยุทธ์ (Strategic Location), ยกระดับความสูงของการติดตั้งสถานีลูกข่ายเดิมทั้งหมดให้สูงขึ้น เพื่อให้สัญญาณครอบคลุมพื้นที่ได้ดีขึ้น และจะมีการนำเทคโนโลยี Smart Antenna เข้ามาใช้งานในพื้นที่ที่สัญญาณไม่ดี ซึ่งจะทำให้จุดบอดสัญญาณ (Blind Spot) ทั้งภายในและภายนอกอาคารหมดไป โดยในภาพรวมจะสามารถโยกย้ายสถานีลูกข่ายในพื้นที่ปัจจุบันจำนวนกว่า 3,000 สถานีที่ติดตั้งเกินความจำเป็นออกไป เพื่อนำไปติดตั้งในพื้นที่ใหม่ ๆ รอบนอกเพื่อขยายพื้นที่ให้บริการ พีซีที ออกไปให้กว้างขวางครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลมากยิ่งขึ้น ท้ายที่สุดการใช้ พีซีที ภายในเขตกรุงเทพมหานคร จะมีคุณภาพดี สัญญาณเสียงคมชัด ไม่มีจุดอับสัญญาณในจุดที่มีการใช้งาน
3. มุ่งเน้นการเจาะฐานลูกค้าที่เป็นกลุ่มเฉพาะ (Community) โดยการสร้าง Value Proposition ที่เป็น Customer Solution ในแต่ละกลุ่มควบคู่กับจุดการผนวกเด่นของ พีซีที ในด้านความประหยัด รวมถึงการพัฒนา Application ที่เป็นแบบ Personalize เฉพาะกลุ่มด้วย เช่น กลุ่มโรงเรียน, โรงพยาบาล, โรงแรม และกลุ่มชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นต้น
4. เพิ่มเติมบริการที่เป็น Non-Voice Application ให้มากขึ้น เช่น Data Communication ที่ 32 และ 64 Kbps. ,บริการ PCT Portal ,บริการ Voice SMS, E-Mail และ Internet Browser Phone เป็นต้น เพื่อสร้างการแข่งขันในตลาดในพื้นที่ที่ พีซีที เหนือกว่าหรือทัดเทียมกับคู่แข่ง และเป็นบริการที่สร้างรายได้ต่อผู้ใช้บริการสูง
5. ปรับภาพลักษณ์ (Image) ของ พีซีที ให้ดูทันสมัย เป็นกันเอง อบอุ่น สดใส ทั้งนี้จะมีการจัดกลุ่มของสินค้าและบริการออกเป็น 3 กลุ่ม คือ PCT Mild, PCT Buddy และ PCT Next และให้สินค้าในแต่ละกลุ่มมีรูปลักษณ์และบุคลิก ตามกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกลุ่มอย่างตรงไปตรงมามากที่สุด
6. มุ่งเน้นการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมมากที่สุด และจะสร้างพันธมิตรรายย่อย (Retailer) ที่มีทุนน้อย แต่อยากที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นตัวแทนขายให้กับสินค้า ในเครือเทเลคอมเอเซียทั้งหมด แต่จะเริ่มจาก พีซีที ก่อน ซึ่งมีเป้าหมายที่จะต้องขยายให้ได้ถึง 5,000 จุดทั่วกรุงเทพฯ
อย่างไรก็ดี กลยุทธ์หลักที่ พีซีที จะนำมาใช้ในปีนี้ จะไม่เน้นกลยุทธ์ด้านราคาเพื่อการแข่งขัน แต่จะพยายามสร้างความแตกต่างจากผู้ใช้บริการอุปกรณ์สื่อสารไร้สายรายอื่น ๆ ด้วยการใช้จุดแข็งที่มีอยู่ของ พีซีที ให้เป็นประโยชน์ และเพื่อให้บริการ พีซีที เข้าไปอยู่ในใจของผู้ใช้บริการ และสร้างโอกาสทางการตลาดในระยะยาวอย่างแท้จริง นายอติรุฒม์ กล่าวในที่สุด
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
บริษัท ไนน์ อีสต์ จำกัด
รุจิกาญจน์ ภู่ระโหง และแสงเดือน สีแดง
โทรศัพท์ 02-255-3620-2 ต่อ 105 และ 109
โทรสาร 02-255-3624--จบ--
-พห-