รัฐบาลตั้งศูนย์ประสานข่าว 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการก่อการร้ายสากล

กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--สำนักโฆษกฯ วันนี้ (30 ตุลาคม 2545) ที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล น.ต.ศิธา ทิวารี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงว่า สืบเนื่องจากเกิดเหตุการณ์วางระเบิดสถานบันเทิงในเกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อคืนวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา และยังมีการลอบวางระเบิดสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ จนทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและประชาชนเสียชีวิตบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยคาดการณ์กันว่าการกระทำดังกล่าวเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายสากล ซึ่งส่งผลให้หลายประเทศวิตกกังวลเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก ดังนั้น รัฐบาลในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเดนมาร์ก ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น มาเลเซีย จึงได้ออกแถลงการณ์เตือนพลเมืองของตนเองที่จะเดินทางเข้ามายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งประเทศไทย ให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง นั้น ขอเรียนว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยเป็นอย่างมากและไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว ซึ่งกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ หน่วยงานด้านข่าวต่าง ๆ ได้ร่วมกันป้องกันภัยอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างเข้มงวด โดยมีมาตรการที่สำคัญ 3 ประการ คือ 1. จัดให้มีศูนย์ประสานข่าว 24 ชั่วโมงระหว่างนักท่องเที่ยว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ต.ม.) ตำรวจทางหลวง ตำรวจน้ำ เฝ้าดูแลตลอดเวลา 2. เพิ่มจุดตรวจ ความถี่ในการตรวจตรา สถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศ สถานกงสุล สถานีรถไฟ ท่าอากาศยาน จุดท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ 3. ตั้งศูนย์ข่าวกรอง 24 ชั่วโมงเพื่อขจัดความเป็นไปได้ของการก่อการร้าย ขณะเดียวกันรัฐบาลได้ประสานไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ขอให้ชี้แจงทำความเข้าใจให้ต่างประเทศได้เข้าใจว่า ประเทศไทยไม่ได้เป็นเป้าหมายของการก่อการร้ายสากลและไม่มีภัยคุกคามจากเครือข่ายที่ไม่ปรากฎในประเทศไทย อีกทั้งประเทศไทยเป็นดินแดนสงบใต้ร่มพระพุทธศาสนาที่ไม่เคยมีภัยคุกคามคนในชาติและทุกชาติศาสนาอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขเสมอมา--จบ-- -สส-

• ข่าวสำนักนายกรัฐมนตรี
• ข่าวทำเนียบรัฐบาล
• ข่าวนักท่องเที่ยว
• ข่าวนายกรัฐมนตรี
• ข่าวสถานบันเทิง