กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--กทม.
ที่ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร เมื่อวานนี้ (30 ต.ค. 45) เวลา 10.00 น. นายสมชาย เอี่ยมมงคลสกุล รองประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 2 (ครั้งที่ 4) ประจำปีพุทธศักราช 2545 ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณา ญัตติของนายกวี ณ ลำปาง ส.ก.เขตพญาไท เรื่องขอให้กรุงเทพมหานครรณรงค์ในการปลูกจิตสำนึกของประชาชนให้มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม พร้อมทั้งดำเนินมาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อผู้ฝ่าฝืนในเรื่องการทิ้งสิ่งปฏิกูลมูลฝอยลงในคูคลองสาธารณะ ตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535
นายกวี ณ ลำปาง ส.ก.เขตพญาไท กล่าวว่า ที่ผ่านมากรุงเทพมหานคร ได้มีคำสั่งแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบในการดูแลรักษาคูคลองสาธารณะ ระหว่างสำนักระบายน้ำและสำนักงานเขต ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวได้มีการดูแลและเก็บสิ่งปฏิกูลมูลฝอยตามคูคลองสาธารณะทุกวันแต่ยังมีประชาชนจำนวนมากที่อาศัยในบริเวณใก้เคียงทิ้งสิ่งปฏิกูลมูลฝอยลงในคูคลองสาธารณะ ทั้งที่ตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 บัญญัติไว้ว่าห้ามมิให้ผู้ใดเท หรือทิ้งสิ่งปฏิกูล มูลฝอย น้ำโสโครกหรือสิ่งอื่นใดลงบนถนนหรือในทางน้ำ หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท แต่กรุงเทพมหานครไม่ได้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างจริงจังเท่าที่ควร ประกอบกับในทางปฏิบัติประชาชนส่วนหนึ่งยังขาดจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อส่วนรวม จึงมีการทิ้งสิ่งปฏิกูล มูลฝอยลงในคูคลองสาธารณะเป็นการสร้างมลพิษทางน้ำ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มภาระในการปฏิบัติงานและสิ้นเปลืองงบประมาณให้แก่หน่วยงาน ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาจึงขอให้กรุงเทพมหานครรณรงค์ในการปลูกจิตสำนึกของประชาชนให้มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมพร้อมทั้งดำเนินมาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อ ผู้ฝ่าฝืนในเรื่องการทิ้งสิ่งปฏิกูล มูลฝอย ลงในคูคลองสาธารณะ ตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 ต่อไป
สำหรับญัตตินี้สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ได้มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวางว่า กทม. น่าจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังกับผู้ที่ชอบทิ้งขยะลงคูคลอง เช่น จัดเทศกิจสายตรวจ คอยตรวจตราทางน้ำ หากพบเห็นผู้ทิ้งขยะลงคูคลองก็ให้ดำเนินการจับ-ปรับ เพื่อไม่ให้น้ำในคูคลองต่างๆ สกปรก เพราะหากมีขยะในคลองมากๆ จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร และจะต้องปลูกจิตสำนึกในเรื่องนี้ตั้งแต่วัยเด็กด้วย
ด้านนายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครได้มีการรณรงค์ปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชนด้านการรักษาความสะอาดเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เช่น การจับปรับผู้ทิ้งขยะลงในที่สาธารณะ หรือคูคลอง รวมทั้งมีเรือของสำนักระบายน้ำเก็บขยะในคลองอยู่ถึง 55 ลำ นอกจากนี้หากประชาชนชี้ช่องหรือมีหลักฐานชัดเจน เช่น การถ่ายวิดีโอผู้เท หรือทิ้งสิ่งปฏิกูล มูลฝอย น้ำโสโครกหรือสิ่งอื่นใดลงบนถนนหรือในทางน้ำ ก็จะได้รับเงินนำจับ โดยถ้าปรับ 10,000.- บาท ผู้ชี้ช่องหรือมีหลักฐานฯ ชัดเจน จะได้รับ 5,000.- บาท ทั้งนี้กทม. จะได้ดำเนินการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้นเกี่ยวกับรายละเอียดขั้นตอนในเรื่องของเงินนำจับที่จะได้รับต่อไป
อนึ่ง ที่ประชุมสภากทม. ได้มีมติเห็นชอบญัตติดังกล่าว และจะนำเสนอผู้บริหารกทม. พิจารณาดำเนินการต่อไป--จบ--
-นห-