Smile SMS สื่อโฆษณาบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ในรูปแบบ Promotion on demand

กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--วิชั่น คอร์เนอร์ ในปัจจุบันจำนวนผู้ที่ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบเครือข่ายของ GSM มีจำนวนมากกว่า 10 ล้านคน ทั่วประเทศ ส่วนเครือข่าย DTAC มีผู้ใช้บริการมากกว่า 5 ล้านคน ทำให้ทั้งสองระบบมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในเครือข่ายรวมกันมากกว่า 15 ล้านคน และยังมีแนวโน้มการขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่อง นายเอกพล ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิชั่น คอร์เนอร์ จำกัด ผู้ให้บริการ Smile SMS เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการการโฆษณาผ่านโทรศัพท์รายใหม่ ที่ใช้ระบบ Short Message Service (SMS) เพื่อเป็นช่องทางในการส่งเสริมการขาย และเข้าถึงตัวผู้บริโภค โดย Smile SMS จะทำหน้าที่เสมือน คูปองส่วนลดสินค้าทั่วไป ต่างกันเพียงแค่รูปแบบของ Smile SMS อยู่บนโทรศัพท์มือถือที่ติดตัวผู้บริโภคตลอดเวลา และยังเป็นบริการผ่านโทรศัพท์มือถือ ที่ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริโภคเท่านั้น (Promotion on demand) จากผลการสำรวจอัตราการใช้ Short Message Service (SMS) ของนิตยสาร Brand Age โดยสำรวจสำรวจกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 500 คน อายุระหว่าง 20-40 ปี ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พบว่ามากกว่า 75.5% เคยใช้ SMS และจากการสำรวจยังพบว่าอีกว่ามากกว่า 74.6% มีความถี่ในการส่ง SMS มากกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ทำให้ทราบว่าผู้บริโภคมีความรู้ทันเทคโนโลยีมากพอสมควร ทำให้การบริการของ Smile SMS เกิดได้ไม่ยาก นายเอกพล ยังได้กล่าวว่าขณะนี้มีสินค้าที่เข้าร่วมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 10 ตราสินค้าแล้ว อาทิ เช่น EGV, TV Direct, Brunswick, CVD, Shabushi, สวนสยาม, ร้านนายอินทร์, Boots, Buskin Robbins และ NK CAR นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่อยู่ระหว่างการเจรจาอีกมากกว่า 10 ตราสินค้า จากการทำวิจัยข้อมูลของประเทศญี่ปุ่นพบว่า โทรศัพท์เคลื่อนที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และมีอิทธิพลสูงในการใช้ชีวิตประจำวันทำให้สินค้า และบริการหันมาให้ความสำคัญต่อสิ่งนี้ โดยพบว่าโทรศัพท์มือถือมีความสำคัญเป็นอันดับ 2 รองจากกระเป๋าสตางค์ โดยมีความสำคัญมากกว่ากุญแจ และเครดิตการ์ด จึงเป็นไปได้ว่าผู้บริโภคในประเทศไทย ซึ่งมักก้าวตามกระแสเทคโนโลยีของประเทศญี่ปุ่นนั้น จะหันมาให้ความสนใจ และใช้บริการ Smile SMS เป็นจำนวนมากอันจะส่งผลให้สินค้า และบริการต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วประเทศหันมาให้ความสนใจบริการนี้เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการของผู้บริโภคต่อไป สำหรับด้านการตลาดและการโฆษณา ใช้กลยุทธ์แบบ Promotion on demand เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ GSM และระบบ DTAC โดยสร้าง Brand Attraction ถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรงทำให้กลุ่มเป้าหมายสามารถตัดสินใจได้ทันที นอกจากนี้จะเพิ่มกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ไม่ใช่ลูกค้าเดิม จากการสร้าง Campaign ที่ดึงดูด และเพิ่มความถี่ในการบริโภคสินค้า และบริการ สื่อโฆษณาที่จะใช้สำหรับ Campaign นี้ ได้แก่ สื่อ Offline และสื่อ Online สื่อ Offline แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 Leaflet ได้วางแผนกระจาย leaflet ทั่วกรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล ไปยังสถานที่ที่มีกลุ่มเป้าหมายของ Smile กลุ่มที่ 2 Billboard ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล กลุ่มที่ 3 โฆษณาในหนังสือพิมพ์ กลุ่มที่ 4 Press Release ประชาสัมพันธ์ในสื่อนิตยสารต่าง ๆ เช่น นิตยสารวัยรุ่น, นิตยสารด้านการตลาด และนิตยสารคอมพิวเตอร์ สื่อ Online แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 Website จัดการประชาสัมพันธ์ทางเว็บไซด์ www.smilesms.com โดยเน้นการสื่อสารแบบสองทางผ่านกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ร่วมสนุก กลุ่มที่ 2 Banner Ad. จะโฆษณาสื่อทางอินเตอร์เน็ตไปยังเว็บไซด์ของคนไทยในระบบ www.thaile.com มากกว่า 400,000 ครั้งต่อวัน กลุ่มที่ 3 Release Ad. จะประชาสัมพันธ์ไปยังเว็บไซด์ต่างๆ โดยจะทำการประชาสัมพันธ์ข่าวผ่านเว็บบอร์ด และ Content ในเว็บไซด์เพื่อกระจายข่าวให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทยได้รู้จัก Smile SMS นอกจากนี้ SMS จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพโดยตรง และสามารถกระตุ้นให้เกิดการบริโภคสินค้า และบริการได้เป็นอย่างดี คาดว่าในอนาคตจะมีการใช้สื่อโฆษณาอื่นๆ เพิ่มขึ้นอีก สำหรับงบประมาณที่ใช้ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในครั้งนี้ มีมูลค่ามากกว่า 15 ล้านบาท นายสุวิทย์ อารยะวิไลพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายบริการเสริม บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ และวัน-ทู-คอล! กล่าวถึงความร่วมมือในการเปิดให้บริการ Smile SMS ว่า "ปัจจุบันโทรศัพท์เคลื่อนที่ถือเป็นผู้ช่วยส่วนบุคคลที่เป็นมากกว่าเครื่องมือสื่อสารด้วยเสียงเพียงอย่างเดียว ดังจะเห็นได้จากปริมาณความต้องการใช้งานด้านข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ SMS, MMS โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SMS ที่นอกจากจะใช้เพื่อการสื่อสารแล้วในกรณีของบริการ Smile SMS ยังทำหน้าที่เป็นเสมือนหนึ่ง Electronic Coupon บนมือถือ ซึ่งสามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภค โดยที่ไม่จำเป็นต้องพกคูปองที่เป็นกระดาษอีกต่อไป แต่จะสามารถ Request หรือเลือกรับส่วนลดตามที่ตัวเองต้องการผ่านทาง SMS บนมือถือได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ผู้ค้าเองก็จะสะดวกในการจัดโปรโมชั่นได้อย่างรวดเร็ว และตอบสนองผู้บริโภคได้อย่างตรงใจในแต่ละกลุ่มเป้าหมายได้ทันทีซึ่งเอไอเอส ในฐานะผู้บริการ เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาบริการในฐานะเป็นช่องทาง รับ-ส่ง คูปองบนมือถือให้แก่ผู้ใช้บริการในระบบจีเอสเอ็ม แอดวานซ์ และวัน-ทู-คอล! ทั้งนี้ เอไอเอสเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของ บริษัท วิชั่น คอร์เนอร์ จำกัด และด้วยความหลากหลายของกลุ่มพันธมิตรที่เข้าร่วมในบริการนี้จะสามารถมอบบริการที่สร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้บริโภคได้อย่างแน่นอน"--จบ-- -ขธ/นห-

• ข่าวเอกพล ตั้งเผ่าศักดิ์
• ข่าวทั่วประเทศ
• ข่าวเครือข่าย
• ข่าวกรุงเทพฯ
• ข่าวกรุงเทพ