กรุงเทพฯ--28 พ.ย.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
ก.เจริญทอยส์ มาแรงดันไมโครเพ็ทส์เวอร์ชั่น 2 ออกสู่ตลาดหลังประสบความสำเร็จจากเวอร์ชั่นแรกที่สามารถขายสินค้ากว่าหมื่นชิ้นภายใน 2 สัปดาห์ จนต้องสั่งนำเข้าจากประเทศใกล้เพียงเพื่อตอบสนองกำลังซื้อแต่ฉุดไม่อยู่ ประกอบกับของปลอมเริ่มระบาด พลิกโผส่งไมโครเพ็ทส์เวอร์ชั่นสองแก้วิกฤตรับปีใหม่อีก 6 เวอร์ชั่นในรูปแบบ "เจแปนนิส สไตล์" หวังตอกย้ำเจ้าตลาดอีกครั้ง
นายวีระรัตน์ กิจเลิศไพโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ก.เจริญทอยส์ จำกัด หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจของเล่นไทย เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้ทำการเปิดตัว "ไมโครเพ็ทส์ เวอร์ชั่น 2" ออกสู่ตลาดเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างดีเยี่ยมสามารถขายสินค้ากว่าหมื่นชิ้นภายในเวลา 2 สัปดาห์ ส่งผลให้ต้องเจรจากับพันธมิตรต่างชาติในการนำสินค้าดังกล่าวเข้ามาขายแต่ก็ไม่สามารถตอบสนองต่อกระแสตอบรับได้อย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันก็เริ่มมีผู้ผลิตบางรายได้ผลิตของเลียนแบบออกจำหน่าย ส่งผลให้บริษัทฯ ตัดสินใจเปิดตัว"ไมโครเพ็ทส์เวอร์ชั่น 2" ออกสู่ตลาดก่อนกำหนดวางเดิมที่วางไว้ในช่วงปีใหม่ โดยเลื่อนมาเป็นช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ซึ่งในเบื้องต้นก็เริ่มได้รับผลตอบรับอย่างดีแล้ว
"ในปีนี้ก.เจริญทอยส์ตั้งเป้าที่รุกหนักและก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านตลาดของเล่นในรูปแบบสร้างสรรค์อย่างแท้จริง โดยเริ่มจากการเปิดตัวไมโครเพ็ทส์เวอร์ชั่นแรก ส่วนไมโครเพ็ทส์เวอร์ชั่น 2 นี้ แต่เดิมเราวางแผนสั่งนำเข้ามาเพียง 2,000 ตัว แต่เมื่อวิเคราะห์กระแสตอบรับแล้วทำให้เราต้องเพิ่มการนำเข้ามาอีกเท่าตัวรวมเป็น 40,000 ตัว โดยจำหน่ายในราคาตัวละ 499 บาท ซึ่งในเวอร์ชั่น 2 นี้ จะมีความพิเศษที่เป็นเวอร์ชั่นที่ผลิตจำหน่ายเฉพาะประเทศญี่ปุ่น แต่ประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 2 ประเทศในเอเชียได้รับอนุญาตให้นำเข้ามาจำหน่ายเนื่องจากให้การตอบรับสมาชิกไมโครเพ็ทส์เป็นอย่างดี" นายวีระรัตน์กล่าว
บริษัท ก.เจริญทอยส์ จำกัด เป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยที่ได้รับอนุญาตให้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าในเครือของบริษัท โตมี่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจของเล่นโลก "ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ผมมองว่าตลาดของเล่นจะเป็นตลาดในลักษณะของ I-M-C คือ ประการแรก ตลาดเริ่มผลิตของเล่นที่สามารถตอบโต้กับผู้เล่นได้มากขึ้น (Interactive Technology) ประการที่ 2 ของเล่นที่จะขนาดเล็กลงจะสามารถพกพาได้อย่างง่าย (Micro Size) และประการสุดท้ายคือ ของเล่นจะต้องสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างเหมาะสมในทุกปัจจัย (Customization) แต่นอกจากนี้ เรายังต้องคำนึงถึงอีก 2 ปัจจัยที่ก.เจริญทอยส์ยึดถือมาตลอดนั่นคือ ความเป็น Family และ Creativity เพราะ 2 ปัจจัยนี้จะเป็นตัวผลักดันให้เกิดกิจกรรมที่สร้างสรรค์และสามารถหล่อหลอมความเป็นครอบครัวได้มากยิ่งขึ้น จากแนวทางในการดำเนินธุรกิจ ดังกล่าว ส่งผลให้ในปี 2546 เราวางแผนที่จะเปิดตัวของเล่นใหม่ๆ ประมาณ 4-10 ชนิดในแต่ละเดือน โดยจะรุกเข้าไปในตลาด Modern Trade ทั่วประเทศ" ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ก.เจริญทอยส์กล่าว
ในปี 2546 บริษัท ก.เจริญทอยส์ จำกัด วางแผนที่จะก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้านตลาดของเล่นในเชิงสร้างสรรค์อย่างหลากหลายรูปแบบ ทั้งนี้ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้ 180 ล้านบาท โยขยับเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมาประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์โดยในปีหน้าบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 300 ล้านบาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
วิภาวริศ เกตุปมา หรือ ยุลาวัลย์ เหลืองประเสริฐ
บริษัท โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
01-890-3568 หรือ 02-951-9119--จบ--
-กจ-