กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--กรมแรงงานฯ
นายสุวัจน์ ลิมปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังการ เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานว่า กระทรวงแรงงานเป็นกระทรวงที่มีบทบาทที่สำคัญทั้งสังคมและเศรษฐกิจแต่ส่วนมากที่ผ่านมาจะเน้นไปทางสังคม แต่ต่อไปนี้ตนจะให้กระทรวงแรงงานเป็นทั้งกระทรวงสังคมและกระทรวงเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย เนื่องจากกระทรวงแรงงานถึงแม้ว่าจะเป็นกระทรวงเก่าแต่ก็เหมือนกระทรวงใหม่ เพราะอยู่ภายใต้การปฏิรูประบบราชการ และตรงใจกับพี่น้องประชาชน เนื่องจากในตอนที่เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีตนได้ดูแลสำนักงานสถิติแห่งชาติและมีการสำรวจความคิดเห็นของ ประชาชนในเรื่องการปฏิรูประบบราชการ ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะให้มีการปฏิรูปกระทรวงแรงงาน และสิ่งที่คาดหวังมากก็คือการได้รับบริการที่ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นจากราชการ ดังนั้นบทบาทจากนี้ ต่อไปของกระทรวงแรงงานจะต้องสร้างวัฒนธรรมใหม่ โดยการปรับบทบาทภารกิจให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนและมีบทบาทสำคัญด้านเศรษฐกิจ ด้วยการขยายตลาดแรงงานเก่าและสร้างตลาด แรงงานใหม่ที่เป็นภูมิปัญญาไทย ทั้งอาชีพนวดแผนโบราณ พ่อครัวแม่ครัว คนดูแลผู้สูงอายุ รวมทั้งการยกระดับให้แรงงานไทยมีขีดความสามารถเป็นผู้ประกอบการได้ต่อไปในอนาคต สำหรับในการสร้างตลาดใหม่จะให้ตลาดเป็นตัวกำหนดอย่างเดียวไม่ได้ต้องดูความได้เปรียบและสร้างขึ้นมาใหม่ด้วย ซึ่งวันนี้เรามีภูมิปัญญาไทยอยู่มากมายที่เป็นที่ต้องการของตลาด เช่น การนวดแผนโบราณแบบไทย รวมทั้งสปาซึ่งระดับฝีมือของคนไทยเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง เป็นที่ต้องการของเมือง ท่องเที่ยวพักผ่อนทั่วโลก ซึ่งกระทรวงแรงงานจะสามารถพัฒนาตลาดตรงนี้ได้เพราะสอดคล้องกับบุคลิกคนไทย หรือพ่อครัวแม่ครัวไปประจำร้านอาหารไทยที่มีอยู่ทั่วโลกก็เป็นอีกแง่มุมหนึ่งที่ไทยได้เปรียบ เพราะร้านอาหารที่มีชื่อเสียง มีสาขาทั่วโลกหลายร้าน พ่อครัวก็มีเป็นคนไทย หรือแม้กระทั่งการดูแลผู้สูงอายุ ทั้งนี้เพราะบุคลิก คนไทยมีความได้เปรียบกว่าประเทศอื่น ๆ แต่ต่อไปบทบาทการผลิตบุคลากรต้องไม่ใช่กรมพัฒนาฝีมือแรงงานอย่างเดียว ต้องทำแบบบูรณาการกับกระทรวงอื่นๆด้วย โดยต้องใช้ทรัพยากรร่วมกันทั้งการท่องเที่ยว แห่งประเทศไทย ทบวงมหาวิทยาลัย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวิทยาศาตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมากระทรวงแรงงานมีข่าวที่กระทบกับความรู้สึกประชาชน ในทางที่ไม่ค่อยดี ดังนั้นเมื่อเข้าสู่ยุคของการปฏิรูประบบราชการแล้วขอให้ข้าราชการทุกคนต้องปรับวิสัยทัศน์ และรูปแบบการทำงานใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะการปรับบทบาทให้เป็นกระทรวงที่โปร่งใสเป็นกระทรวงเศรษฐกิจ ดูแลโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ส่วนปัญหาเรื่องการหลอกลวงคนหางานนั้นตนจะได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ของกรมการจัดหางานทุกคนเพื่อรับฟังปัญหาและหาแนวทางแก้ไขแต่นโยบายหลักคือต้องโปร่งใสไม่มีการหลอกลวงคนหางาน ไม่คิดค่าใช้จ่ายที่ไม่เป็นธรรม และไม่มีการใช้จ่ายเงินที่ไม่เหมาะสม เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ใช้แรงงานด้วย--จบ--
-สส-