โรแยลซีรามิค ปรับกลยุทธ์ทางการตลาด ของกระเบื้อง RCI ขยายแนวรบสู่ตลาดต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น จับใจลูกค้าด้วยกลยุทธ์ CRM

29 Jan 2003

กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์

โรแยลซีรามิค ปรับกลยุทธ์ทางการตลาด ของกระเบื้อง RCI ขยายแนวรบสู่ตลาดต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น จับใจลูกค้าด้วยกลยุทธ์ CRM และการจัดนิทรรศการเคลื่อนที่ ไปทั่วประเทศ ตั้งเป้าเติบโตกว่า 20% ในปี 2546

บริษัท โรแยล ซีรามิค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและผู้จำหน่ายกระเบื้องเซรามิคปูพื้นและบุผนังภายใต้ชื่อ "RCI" ปรับกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อรับมือกับสถานการณ์โลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปิดเสรีทางการค้า โดยมุ่งเน้นเพิ่มกำลังการผลิตสินค้าในกลุ่มที่มียอดขายสูง และขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดต่างจังหวัดมากขึ้นโดยใช้กลยุทธ์ CRM (Customer Relation Management) และมีการออกบูธ-นิทรรศการเคลื่อนที่ไปทั่วไปประเทศ คาดว่าปีนี้จะเติบโตกว่า 20%

นายเจมส์ อาร์ คัทเทอร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โรแยล ซีรามิค อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปัจจุบัน การที่ภาครัฐได้มีการยืดอายุมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของชาติต่อไปอีก 1 ปี ได้แก่ การลดภาษีธุรกิจเฉพาะ การลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม หรือการลดค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาฯ ประกอบกับการแข่งขันการปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย อัตราดอกเบี้ยที่ลดต่ำลง ซึ่งจากปัจจัยสนับสนุนต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยส่งผลให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมา

นับแต่ปี 2545 และคาดว่าในปีนี้ ก็จะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งส่งผลดีไปยังต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัสดุก่อสร้าง ในปีที่ผ่านมาก็มีการขยายตัวค่อนข้างสูง โดยในปีที่ผ่านมา บริษัท มียอดขายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่า 22% จากยอดขายตลาดในประเทศ 90% และตลาดต่างประเทศ 10% สำหรับในปี 2546 นี้ บริษัท ตั้งเป้าการเติบโตด้านยอดขายไว้ที่ 20% คิดเป็นยอดขาย 1,200 ล้านบาท

สำหรับปีนี้ ในวงการวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มกระเบื้องซีรามิค ทั้งบุผนังและปูพื้น จะมีการแข่งขันกันสูงมากขึ้น และยิ่งในช่วงนี้ ยังมีตัวแปรจากสถานการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ประกอบกับการเปิดเสรีทางการค้า ขององค์การการค้าโลก (WTO) อาฟตา การลดกำแพงภาษีจาก 30% ลงเหลือเพียง 5% เท่านั้น ทำให้เกิดการแข่งขันทางการค้าจากหลาย ๆ ประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มผู้ผลิตในประเทศเพื่อนบ้านในแถบอาเซียนด้วยกันที่มีกำลังการผลิตสูงและอัตราค่าแรงต่ำ ส่งผลให้สามารถจำหน่ายสินค้าได้ในราคาต่ำกว่า เข้ามาแข่งขันกับผู้ผลิตในไทยกันมาก

"สืบเนื่องจากการเปิดตลาดการค้าของประเทศจีนสู่โลกภายนอก เนื่องจากการเปิดเสรีทางการค้าของ WTO ทำให้จีนกลายเป็นคู่แข่งขันที่สำคัญของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ไม่เฉพาะในไทยหรืออาเซียนเท่านั้น เนื่องจากจีนสามารถผลิตสินค้าได้ในปริมาณที่สูงมาก ประกอบกับค่าแรงงานที่ต่ำมาก ส่งผลให้ราคา ของสินค้าที่นำออกจำหน่ายถูกกว่ากันมาก ๆ RCI จึงได้เปลี่ยนยุทธวิธีทางการตลาด ด้วยการคัดเลือกสินค้ากระเบื้องจากโรงงานในประเทศต่าง ๆ อาทิ อิตาลี สเปน จีน อินโดนีเซีย เป็นต้น ที่มีคุณภาพในระดับเดียวกันกับสินค้าของ RCI เพื่อนำเข้ามาจำหน่ายเพื่อให้สามารถตอบสนองได้ตามความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า โดยคัดเลือกเฉพาะสินค้าที่มีคุณภาพเดียวกัน หรือเหนือกว่า โดยมีการตรวจสอบคุณภาพ (QC-Quality Control) จาก RCI อีกครั้งหนึ่งก่อนนำออกจำหน่าย เพื่อให้สามารถจำหน่ายได้ภายใต้ปรัชญาเดียวกันคือ "World Class Beauty, World Class Quality" โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทได้มีการนำเข้ากระเบื้องจากต่างประเทศประมาณ เพื่อจำหน่ายประมาณ 7-8% ในปีนี้ (2546) คาดว่าจะมีการนำเข้าประมาณ 10-15%" นายเจมส์ กล่าว

ม.ล. กอกฤษต กฤดากร ผู้จัดการฝ่ายขาย กล่าวเสริมว่า ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวมประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยในส่วนของตลาดในประเทศ คิดเป็นรายได้จาก ตลาดในกรุงเทพฯและปริมณฑล 70% และตลาดต่างจังหวัด 30% โดยหากแบ่งแยกตามประเภทของกระเบื้องแล้วจะมาจาก กระเบื้องบุผนัง (WALL TILES) 70% และกระเบื้องปูพื้น (FLOOR TILES) 30% ในปีนี้ เพื่อเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นผู้เชี่ยวชาญในวงการกระเบื้อง บริษัทฯ จึงได้มีการปรับแผนการดำเนินงาน ตลอดจนกลยุทธ์ทางการขายและการตลาด โดยในส่วนของกระเบื้องปูพื้น จะยังคงผลิตตามปกติและมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศด้วยเพื่อให้ครบทุกความต้องการของผู้บริโภค และในส่วนของกระเบื้องบุผนัง (WALL TILES) ซึ่งเป็นสินค้าที่ขายดีมากทั้งในตลาดกรุงเทพฯ และตลาดต่างจังหวัด ซึ่งถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว WALL TILES มียอดขายถึง 70% ของยอดขายทั้งหมด จึงได้เพิ่มกำลังการผลิตในส่วนของกระเบื้องบุผนังเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ขณะเดียวกันก็มีการพัฒนาทั้งด้านสีสันและลวดลายใหม่ ๆ ตลอดเวลา นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการพัฒนาและเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าและร่านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่องภายใต้โปรแกรม CRM (Customer Relation Management) ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบเป็นอย่างดีจากตัวแทนจำหน่ายของบริษัท

นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน รองผู้จัดการฝ่ายขายตลาดภูมิภาค เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการตลาดภูมิภาคก็เป็นตลาดที่น่าสนใจ เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันหันมาให้ความสนใจในการเลือกใช้กระเบื้องเพื่อการตกแต่งเพิ่มมากขึ้น ในปีนี้บริษัทฯ จึงได้เปิดเกมรุกเข้าไปยังตลาดส่วนภูมิภาคหรือตลาดในต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น โดยจะมุ่งเน้นในเรื่องของการทำ CRM, การขยายร้านค้าตัวแทนจำหน่ายหรือ การเปิด Outlet ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นช่องทางในการขายสินค้า และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี โดยจะพยายามกระจายไปให้ได้ทั่วทุกภาคของประเทศ ตั้งเป้าหมายในการเติบโตของตลาดในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นอีก 50%

นางปัทมน ภิรมย์ภักดี ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกิจกรรมสื่อสารการตลาดนั้น เนื่องจากตอนนี้ทางบริษัทฯ มีแผนที่จะใช้การโฆษณาและการประชาสัมพันธ์เป็นตัวช่วยในการกระตุ้นยอดขายและเป็นตัวสร้างการจดจำของ RCI ให้เกิดขึ้นกับลูกค้าหรือผู้บริโภคนั้น โดยผ่านทางสื่อวิทยุกระจายเสียง และทางสื่อสิ่งพิมพ์ ทั้งหนังสือพิมพ์และนิตยสาร ซึ่งสื่อให้ตรงถึงกลุ่มเป้าหมาย ในส่วนของต่างจังหวัดก็จะมีการจัดกิจกรรมร่วมกับลูกค้าหรือตัวแทนจำหน่ายของเรา รวมไปถึงการจัดนิทรรศการ เพื่อให้ชื่อของ RCI เป็นที่รู้จักและทำให้ผู้บริโภคทราบถึงคุณสมบัติ คุณภาพรวมไปถึงประโยชน์ใช้สอยของ RCI ว่าเป็นอย่างไร ซึ่งการที่บริษัทฯ เน้นในกลุ่มต่างจังหวัด ก็เพื่อให้ความสำคัญกับกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้นจากเมื่อก่อน

ในปัจจุบัน กระเบื้องเซรามิคได้รับความสนใจและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการตกแต่งได้แทบทุกพื้นที่ เนื่องจากมีคุณสมบัติในความสวยงาม มีลวดลายให้เลือกสรรมากมาย ง่ายและสะดวกในการใช้สอย และการ ดูแลรักษา มีความคงทนอยู่ได้นานกว่าวัสดุอื่น ๆ จึงมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมนำมาใช้ในการตกแต่งอาคาร บ้านเรือนมากขึ้น ทั้งห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนอน ห้องรับแขก นับตั้งแต่ พื้น จรด เพดาน ทั้งภายในและภายนอกอาคาร นอกจากนี้ ในธุรกิจก่อสร้างซึ่งมี แนวโน้มขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ทำให้ความต้องการกระเบื้องเพื่อการตกแต่งเพิ่มปริมาณขึ้นจากเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถาปัตยกรรมสมัยใหม่

รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ

จิดาภา ประมวลทรัพย์, นันทพร บุญ-หลง

บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด

โทร. 0-2693-7835-8 ต่อ 32,38, 0-1817-7153, 0-1851-2088

โทรสาร 0-2693-6919-20

E-mail Address: [email protected] จบ--

-ศน-