กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--ยนตรกิจเกียมอเตอร์
ยนตรกิจเกียมอเตอร์ สรุปยอดขายในงานมอเตอร์เอ็กซโป 2002 ณ เมืองทองธานี ทะลุเป้า เกินความคาดหมาย ยอดจองรถคาเรนส์ ล็อตแรกหมดแล้ว
นายบุญฤทธิ์ ผ่องเมฆินทร์ กรรมการบริหาร บริษัท ยนตรกิจเกียมอเตอร์ จำกัด ได้เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ ได้เข้าร่วมงานมอเตอร์เอ็กซ์โป ครั้งที่ 19 นี้ ได้นำรถยนต์เกียรุ่นต่าง ๆ เข้ามาแสดง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์เกียคาร์นิวัล เอนกประสงค์ 7 ที่นั่ง รถตู้เพรจิโอ เอนกประสงค์ 12 ที่นั่ง ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ทำตลาดอยู่ในปัจจุบัน โดยในงานนี้ทางบริษัทฯยังได้นำรถยนต์เกีย รุ่นโซเรนโด รถออฟโรดขนาดใหญ่ เครื่องยนต์ 3.5 ลิตร V6 24 วาล์ว นำมาแสดงให้ชมด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำมาจำหน่ายได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2003 พร้อมกันนี้ยังเปิดตัวรถยนต์เกีย รุ่น คาเรนส์ MPV ขนาดกลาง เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร คอมมอนเรียล ไดเร็คอินเจ็คชั่น (CRDI) เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ซึ่งถือว่าเป็นรายแรกที่นำรถยนต์ MPV ขนาดกลาง เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรียล ไดเร็คอินเจ็คชั่นเทคโนโลยีล่าสุด ซึ่งให้สมรรถนะสูงและประหยัดน้ำมัน มาเปิดตัวพร้อมจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในงานมอเตอร์เอ็กซโป ที่เมืองทองธานี
นายบุญฤทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ในงานมอเตอร์เอ็กซโป ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม ที่ผ่านมานี้ ได้กำหนดเป้าหมายในการจำหน่ายรถยนต์เกียทุกรุ่น รวม 400 คัน แต่ผลปรากฎว่า มีผู้ใช้ความสนใจรถยนต์เกียรุ่นต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ทำให้มียอดจองเข้ามาถึง 625 คัน โดยเป็นรถยนต์เกียรุ่น คาร์นิวัล จำนวน 277 คัน เกียรุ่น เพรจิโอจำนวน 198 คัน สำหรับรถยนต์เกีย รุ่น คาเรนส์นั้น มีลูกค้าอีกจำนวนมากที่ต้องการรถยนต์เกีย รุ่น คาเรนส์ล็อตแรกกว่า 500 ราย แต่ล็อตแรกสั่งเข้ามามีจำนวนเพียง 150 คัน ปรากฎว่า ลูกค้าสนใจสั่งจองเข้ามาจนล็อตแรกหมดแล้ว ลูกค้าที่สั่งจองเข้ามาในล็อตแรกจะได้รับรถประมาณปลายเดือนมกราคม 2003 นี้ และต้องรอล็อตที่สอง โดยจะส่งมาอีกประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2003 ซึ่งหากลูกค้าสนใจสามารถสั่งจองได้กับตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เกียทั่วประเทศ
ในด้านบริการ นายบุญฤทธิ์ ได้กล่าวว่า การบริการเป็นหัวใจสำคัญหลัก และขณะนี้มีลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถยนต์เกียมีจำนวนเพิ่มขึ้น และเพื่อเป็นการรองรับด้านการบริการหลังการขาย ทางยนตรกิจเกียมอเตอร์ จึงมีนโยบายในด้านการบริการหลังการขาย โดยในปี 2003 นี้ ทางยนตรกิจเกีย และเกียมอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศเกาหลี ได้ร่วมมือกันในด้านการบริการหลังการขาย โดยได้ส่งทีมวิศวกร จากประเทศเกาหลี มาประจำอยู่ในประเทศไทย โดยมีศูนย์กลางในการอบรมช่างเทคนิค ณ โชว์รูมพระราม 1 เพื่อจะได้ควบคุมดูแลการบริการหลังการขายให้ได้มีมาตรฐานเดียวกันกับทั่วโลกและในปัจจุบันนี้เรามีโชว์รูม และศูนย์บริการ จำนวน 40 แห่ง โดยแบ่งเป็นกรุงเทพฯและปริมณฑลจำนวน 20 แห่ง และตัวแทนจำหน่ายในต่างจังหวัดอีก จำนวน 20 แห่ง ทางบริษัทฯ ยังคงยืนยันนโยบายที่จะขยายโชว์รูมและศูนย์บริการเพิ่มขึ้นอีก เพื่อเป็นการรองรับลูกค้า และเป็นการอำนวยความสะดวกสบายในการนำรถเข้าตรวจเช็คสภาพ ซึ่งผู้ขับขี่จะได้รับการบริการที่มีประสิทธิภาพ และน่าประทับใจจากช่างผู้เชี่ยวชาญเป็นอย่างดี
ฤชุดา จันทรวงษ์ ส่วนประชาสัมพันธ์ 02-611-6888 ต่อ 5043--จบ--
-ขธ-