เมเจอร์ เอคคอร์ด แถลงข่าวเปิดแนวรุกขยายช่องทางการทำตลาดของ 2 ธุรกิจ SMEs ของคนไทย

26 Sep 2002

กรุงเทพฯ--26 ก.ย.--เมเจอร์ เอคคอร์ด

งานแถลงข่าวเปิดตัวผู้บริหารคนใหม่และงานแถลงนโยบายทางการตลาด พร้อม "เปิดแนวรุกขยายช่องทางการทำตลาดของ 2 ธุรกิจ SMEs ของคนไทย" 25 กันยายน 2545 ณ ร้านนารายณ์ พิซเซอเรีย สาขารัชดา ชั้นใต้ดิน อาคารฟอร์จูน ถนนรัชดาภิเษก

หลังจากวนเวียนอยู่ในธุรกิจอาหารมากว่า 20 ปี คุณอภิชาติ เธียรพิรากุล ได้ฤกษ์เข้ารับตำแหน่งใหม่ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ แอคคอร์ด จำกัด พร้อมเตรียมเพิ่มกลยุทธ์ในการทำตลาดให้กับ 2 ธุรกิจ SMEs ที่เข้ามาดูแล

ธุรกิจแรกเป็นการเปิดแนวคิดใหม่ในการทำตลาด สุกี้ยากี้ ภายใต้แบรด์ "HELLO SUKI" ธุรกิจอาหารสุกี้ยากี้ที่ให้บริการแบบ Delivery โดยเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปลายปี 2544 ปัจจุบันมี 4 สาขา ได้แก่ รามอินทรา, ถนนจันทร์, สุขุมวิท และปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นธุรกิจที่เน้นการให้บริการส่งแบบครบเครื่องทั้งอาหารและอุปกรณ์ในการรับประทาน ซึ่งลูกค้าสามารถใช้บริการโดยการโทรสั่งผ่าน Call Center 1142

คุณอภิชาติกล่าว "HELLO SUKI" เป็นรูปแบบการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ เพราะเราตระหนักดีว่าเราไม่ใช่ธุรกิจสุกี้-เดลิเวอร์รี่ เจ้าแรกในธุรกิจอาหารแบบ Delvery ซึ่งเราก็มีโจทย์ว่าจะทำอย่างไรจึงจะแข่งขันในตลาดได้ ที่ผ่านมาเราต้องทำการวิจัยตลาดและลูกค้าอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อจะได้รู้ถึงความต้องการของลูกค้า ซึ่งการให้บริการของ"HELLO SUKI" นั้นเราเชื่อมั่นว่าสามารถตอบสนองความต้องการและความสะดวกสบายของลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ส่วนนโยบายในการขยายพื้นที่ให้บริการนั้น ช่วงนี้ทางบริษัทฯ กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับเจ้าของพื้นที่อยู่

ส่วนอีกหนึ่งธุรกิจนั้นถือได้ว่าเป็นแบรด์ที่รู้จักกันดี คือ "KING'S BAKERY HOUSE" ซึ่งการจับมือกันในครั้งนี้จะเป็นการแบ่งการทำงานโดยในด้านการผลิตนั้น ทางบริษัท คิงส์เบเกอร์รี่ เฮ้าส์ จำกัด จะเป็นผู้ดูแล ส่วนในด้านการทำตลาดภายในประเทศนั้น บริษัท เมเจอร์ เอคคอร์ด จำกัด จะเป็นผู้ดำเนินการโดยจะเน้น 4 ช่องทางหลักคือ

1. เปิด OUTLET เป็นการตั้งจุดโชว์สินค้าที่จำหน่ายเค้กในหลายรูปแบบ โดยจะขยายเพิ่มเติมจากเดิม 10 แห่ง เป็น 20 แห่งภายในสิ้นปี 2545

2. เพิ่มจุดขายในซุปเปอร์มาร์เก็ต โดยใช้เค้กถ้วย C-FINE ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ซึ่งปัจจุบันมี 73 สโตร์ คาดต้นปี 2546 ภายในไตรมาสที่ 1 จะสามารถขยายได้ประมาณ 60 สโตร์ รวมเป็น 132 แห่งทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

3. ขยายจุดที่ให้บริการแบบ Delivery จากเดิมมี 1 แห่ง จะเพิ่มอีก 2 แห่ง ภายใน สิ้นเดือนกันยายนนี้ โดยช่องทาง Delivery นี้จะเป็นการใช้ศักยภาพการจัดส่งของ "HELLO SUKI" เข้ามาเสริม และทำการขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้นจากปัจจุบัน 25,000 ราย เป็น 30,000 รายในปี 2546

4. เน้นการตลากแบบการขายตรงโดยเน้นเข้าถึงผู้บริโภคและขยายเข้าสู่ โรงเรียน, ร้านอาหาร, มหาวิทยาลัยและทำตลาดในลักษณะการ CO-BRANDING ร่วมกันกับอีกหลายธุรกิจ เช่น เริ่มจากการแผนการทำโปรโมชั่น "สั่งสุกี้พร้อมเค้กนมสด" ได้ในเวลาเดียวกัน

ทั้ง "HELLO SUKI" และ "KING'S BAKERY HOUSE" จัดได้ว่าจะธุรกิจ SMEs ของคนไทยอย่างแท้จริง และคาดว่าด้วยศักยภาพตลอดจนความพร้อมของทั้ง 2 ธุรกิจนี้ จะสามารถช่วยผลักดันและขยายตลาดสร้างยอดขายในปี 2546 ได้อน่างแน่นอน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-641-4333 หรือ 01-911-8322--จบ-- -ยอ-