กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--กทม.
นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ผู้ช่วยโฆษกคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกทม. เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2546 เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพิจารณากลั่นกรองงบประมาณว่า คณะกรรมการวิสามัญฯได้มีการพิจารณาการเสนอของบประมาณของหน่วยงานที่ไม่มีรายการเกี่ยวข้องกับค่าที่ดินและการก่อสร้างเพิ่มขึ้นอีก 4 สำนัก ได้แก่ สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร สำนักนโยบายและแผนกรุงเทพมหานคร สำนักการคลัง และการพาณิชย์กรุงเทพมหานคร ซึ่งคณะกรรมการวิสามัญฯ ได้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบ หากมีรายการใดที่ยังไม่ชัดเจน จะให้หน่วยงานนำข้อมูลรายละเอียดมาชี้แจงให้ชัดเจนก่อนจะพิจารณาเห็นชอบตามเสนอขอ หรือพิจารณาตัดทอนตามความเหมาะสม
อย่างไรก็ดี การเสนอของบในรายการที่เห็นว่ามีความจำเป็นและเกิดประโยชน์ คณะกรรมการวิสามัญฯจะเห็นชอบให้ผ่านโดยดี เช่น ค่าใช้จ่ายของกองป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน สำนักปลัดกทม. ซึ่งมีความจะเป็นสูงเพราะเป็นหน่วยงานที่ต้องดูแลความปลอดภัยใช้ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ส่วนรายการที่เห็นว่ายังจำเป็นไม่มาก และยังไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจน เช่น งบประมาณด้านการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร ในส่วนของ ส.ข.และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางสถาบันพัฒนาข้าราชการกทม. เสนอขอมา ได้มีการตัดทอนลงไปบ้างตามความเหมาะสม
นอกจากนี้เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีประสิทธิภาพ คณะกรรมการวิสามัญฯ จึงมีการตั้งข้อสังเกตการเสนอขอและการใช้จ่ายงบประมาณไว้หลายประการ อาทิ งานด้านสารสนเทศภูมิศาสตร์ระบบแผนที่ GIS ของสำนักนโยบายและแผนกทม. ถือเป็นโครงการที่เป็นหัวใจสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ และค่าธรรมเนียมการจัดเก็บขยะ รวมทั้งค่าธรรมเนียมบำบัดน้ำเสียในอนาคต เป็นโครงการที่หน่วยงานต้องให้ความสำคัญมาก แต่ปีนี้กลับเสนอของบมาน้อยกว่าที่ควร ส่วนการตั้งงบฯสนับสนุนเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมและภาษีรถ ให้แก่สำนักงานทะเบียนล้อเลื่อนรถยนต์นั้น คณะกรรมการวิสามัญฯตั้งข้อสังเกตว่า ทางสำนักการคลังเสนอของบมาค่อนข้างน้อย จึงเสนอแนะให้จัดสรรรายได้เป็นเปอร์เซ็นต์ให้แก่ผู้จัดเก็บ เพื่อเป็นกำลังใจและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บหนี้ค้างชำระให้กับกทม.ได้มากขึ้น ส่วนงบฯสำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานซ่อมบำรุงยาพาหนะและเครื่องกล ซึ่งจะรื้อย้ายจากดินแดงไปอยู่ตั้งอยู่ในที่ดินของกทม.ที่จังหวัดนครปฐมนั้น คณะกรรมการวิสามัญฯ พิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องดังกล่าวจะต้องผ่านความเห็นชอบจากสภากทม. ก่อน จึงให้สำนักงบประมาณนำโครงการนี้กลับไปพิจารณาใหม่
สำหรับการเสนอของประมาณของการพาณิชย์กรุงเทพมหานครนั้น ในส่วนของสำนักงานตลาดคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาแล้วเห็นว่ายังขาดรายละเอียดที่ชัดเจน ในการตั้งงบกลางไว้สูงถึง 26.3 ล้านบาท จึงให้หน่วยงานกลับมาชี้แจงเพิ่มเติมอีกครั้ง ส่วนสถานธนานุบาลกทม. คณะกรรมการฯตั้งข้อสังเกตว่า ควรมีการปรับเปลี่ยนตัวผู้บริหารและนโยบายการดำเนินงานบ้าง โดยเชื่อว่าจะทำให้มีผลประกอบการดีขึ้น--จบ--
-นห-