กรุงเทพฯ--1 ส.ค.--สธ.
กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสภากาชาดไทย และสมาคมแม่บ้านสาธารณสุข (มสส.) จัดอบรมอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) กว่า 70,000 คน ทั่วประเทศ เพื่อจัดหาผู้บริจาคโลหิตรายใหม่ ให้ความรู้ ติดตามผู้ที่บริจาครายเก่าให้กลับมาบริจาคเป็นประจำ และจัดทำทะเบียนโลหิตสำรองประจำหมู่บ้าน ถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 70 พรรษา
น.พ.วินัย วิริยกิจจา ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เปิดเผยภายหลังลงนามความร่วมมือโครงการส่งเสริมอาสาสมัครสาธารณสุข เพื่องานบริการโลหิตของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เนื่องในวาระมหามงคลที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงเจริญพระชนมายุครบ 70 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2545 นี้ คณะกรรมการส่งเสริมการดำเนินกิจกรรมเหล่ากาชาดจังหวัด สภากาชาดไทยร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทย สมาคมแม่บ้านสาธารณสุข และกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกันจัดทำโครงการส่งเสริมอาสาสมัครสาธารณสุขเพื่องานบริการโลหิตของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย โดยคัดเลือกผู้แทนอาสาสมัครสาธารณสุขที่มีผลงานที่ดีเด่น เป็นผู้มีความจงรักภักดี และมีความเสียสละต่อส่วนรวม หมู่บ้านละ 1 คน ทั่วประเทศกว่า 70,000 คน เพื่อเข้ารับการอบรมให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องหมู่เลือด วงจรโลหิตในร่างกาย วิธีการคัดเลือกผู้บริจาคโลหิตที่มีคุณภาพ การเตรียมตัวก่อนและหลังการบริจาคโลหิต นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เกี่ยวกับการบริการโลหิตในหมู่บ้านได้ อาทิ การให้ความรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการบริจาคโลหิต การจัดหาผู้บริจาคโลหิตรายใหม่ในหมู่บ้าน การติดตามดูแลให้คำแนะนำแก่ผู้ที่บริจาคโลหิตเป็นประจำอย่างใกล้ชิด และที่สำคัญคือการจัดทำทะเบียนโลหิตสำรองประจำหมู่บ้าน ในกรณีต้องการโลหิตฉุกเฉินอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน สามารถนำบุคคลที่มีหมู่เลือดตามที่ต้องการไปบริจาคได้ทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งจะลดการสูญเสียชีวิตจากปัญหาโลหิตสำรองได้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนนโยบายพึ่งตนเองของสภากาชาดไทยในด้านการจัดหาโลหิตให้ได้ตามเป้าหมายคือร้อยละ 2 ของประชากรทั้งประเทศ
พ.ญ.ดารณี วิริยกิจจา นายกสมาคาแม่บ้านสาธารณสุข ได้กล่าวว่า ในปัจจุบันนี้มีคนบริจาคโลหิตน้อยลง ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเอง มีเครือข่ายภาคประชาชน ทั้ง อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. และสมาชิกของสมาคมแม่บ้านสาธารณสุข ซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ จึงได้จัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมายุครบ 70 พรรษา และถือเป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์โดยที่ไม่หวังผลตอบแทน สมดังพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ--จบ--
-ตม-