90 ปี กระทรวงคมนาคมสร้างสรรค์ จัดโครงการ เติมน้ำใจ คืนน้ำใส ให้เจ้าพระยา

กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--อิมเมจ พลัส คอมมิวนิเคชั่น 90 ปี กระทรวงคมนาคมสร้างสรรค์ จัดโครงการ เติมน้ำใจ คืนน้ำใส ให้เจ้าพระยา ปลุกจิตสำนึกให้เยาวชน ตระหนักถึงบทบาทสำคัญของน้ำและร่วมแก้ไขปัญหามลพิษในแม่น้ำเจ้าพระยา "น้ำ" เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งในการดำรงชีวิตของมนุษย์ อีกทั้งยังเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งสำคัญที่มีแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แม่น้ำเจ้าพระยา นับเป็นแม่น้ำสายหลักและสายสำคัญของประเทศไทยมาช้านาน มีการใช้ประโยชน์ทั้งด้านเกษตรกรรม การคมนาคม การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม การที่เราใช้น้ำอย่างไม่ระมัดระวังและขาดความรับผิดชอบในทรัพยากรของส่วนรวม นำมาซึ่งปัญหามลพิษทางน้ำ ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่าปัจจุบันแนวโน้มสถานการณ์เน่าเสียในแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มจะมีมากขึ้น หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมด้านการขนส่งทางน้ำ ประกอบด้วย กรมเจ้าท่า การท่าเรือแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวี และบริษัท ไทยเดินเรือทะเล จำกัด ร่วมกับกระทรวงคมนาคมโดยศูนย์ประชาสัมพันธ์ และสำนักโฆษกกระทรวงคมนาคม จึงได้จัดโครงการ "เติมน้ำใจ คืนน้ำใส ให้เจ้าพระยา" เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมและเฉลิมฉลองเนื่องในวาระที่กระทรวงคมนาคมครบรอบวันคล้ายวันสถาปนาปีที่ 90 วันที่ 1 เมษายน 2545 ศกนี้ นายประชา มาลีนนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวว่า น้ำคือทรัพยากรอันทรงคุณค่าที่ผูกพันกับมวลมนุษย์และสรรพสิ่งต่าง ๆ มานานแสนนาน และมีความสำคัญต่อมนุษยชาติอย่างมหาศาล ทั้งทางด้านสุขภาพอนามัย ด้านสาธารณูปโภค ด้านระบบนิเวศน์ และด้านเศรษฐกิจ แต่ในขณะเดียวกันมนุษย์ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำลายสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ โดยเฉพาะทางน้ำ ทั้งนี้เพราะมนุษย์ต้องนำทรัพยากรต่าง ๆ ที่มีอยู่ตามธรรมชาติมาใช้เพื่อการดำรงชีวิต และมีความต้องการในทรัพยากรต่าง ๆ เหล่านั้นเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วตามจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ปัญหาจึงเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งในปัจจุบันมิใช่เป็นเพียงปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังมีปัญหามลภาวะที่เป็นพิษ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่บั่นทอนคุณภาพสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตมนุษย์ลงพร้อม ๆ กันด้วย ปัญหามลพิษทางน้ำที่มีอยู่ในปัจจุบันมีสาเหตุสำคัญ 3 ประการ คือ การระบายน้ำเสียจากบ้านเรือนและสถานประกอบการต่าง ๆ ลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ มลพิษจากเรือ อาทิ จากน้ำมัน สารเคมี น้ำเสีย ขยะ และจากอากาศเป็นพิษ และมลพิษที่เกิดจากการประกอบการท่าเรือหรือการขนถ่ายสินค้า จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้หน่วยงานการคมนาคมทางน้ำในสังกัดกระทรวงคมนาคมตระหนักและและเล็งเห็นถึงวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับทรัพยากรน้ำ โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา อันเป็นแม่น้ำสายหลักของประเทศ และเปรียบเสมือนสายโลหิตที่หล่อเลี้ยงชีวิตของคนไทยมากนับตั้งแต่อดีตกาล ปัญหาเหล่านี้จึงจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนองแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และในโอกาส 90 ปี แห่งการสถาปนากระทรวงคมนาคม จึงได้ร่วมกันจัด โครงการ เติมน้ำใจ คืนน้ำใส ให้เจ้าพระยา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปลุกจิตสำนึกให้เยาวชน ประชาชน ชุมชน องค์กร หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ตระหนักถึงบทบาทสำคัญของน้ำร่วมมือกันอนุรักษ์ หวงแหนทรัพยากรน้ำ และร่วมกันแก้ไขปัญหามลพิษในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้เป็นสายน้ำแห่งชีวิตคนไทยตลอดไป สำหรับกิจกรรมแรกของการเปิดโครงการ "เติมน้ำใจ คืนน้ำใส ให้เจ้าพระยา" คือ การล่องเรือตรวจวัดคุณภาพน้ำ พร้อมเก็บตัวอย่างน้ำบริเวณปากคลองพระโขนง หน้าโรงพักสินค้า 1 ปากคลองลัดหลวง และปากคลองดาวคะนอง เพื่อสำรวจคุณภาพน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา นายประชา ได้กล่าวว่า ผลจากการตรวจสอบคุณภาพน้ำ ในบริเวณต่าง ๆ นั้น ค่าเฉลี่ยที่ได้คือ ค่ามาตรฐานของปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้ำ (DO) มีค่า = 0.45-0.50 มิลลิกรัมต่อลิตร (mg/1) เท่านั้น ซึ่งมาตรฐานน้ำที่ใช้ได้นั้นจะต้องมีปริมาณออกซิเจนละลายอยู่ในน้ำ (DO) ไม่น้อยกว่า 2.0 มิลลิกรัมต่อ 1 ลิตร (mg/1) จากรายงานผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดทั้งสายพบว่า น้ำที่บริเวณตอนกลางของแม่น้ำมีคุณภาพน้ำอยู่ในระดับต่ำ และบริเวณตอนล่างคุณภาพน้ำอยู่ในขั้นที่ต่ำมาก โดยเฉพาะบริเวณสะพานพระพุทธยอดฟ้าฯ สะพานกรุงเทพฯ และท่าเรือกรุงเทพฯ นายประชา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อปลุกจิตสำนึกให้กับเยาวชน ประชาชน องค์กร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหามลพิษในแม่น้ำเจ้าพระยานั้น ประกอบด้วย การจัดทำตัวการ์ตูนสัญลักษณ์ของโครงการชื่อ "น้องน้ำใส" ร่วมรณรงค์ในทุกกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับโครงการ นอกจากนี้แล้วยังมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องต่อไปอีกคือ การจัดสัปดาห์รณรงค์เพื่อการอนุรักษ์แม่น้ำเจ้าพระยา โดยใช้ชื่อว่า "7 วันหรรษาริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา" เพื่อเป็นการจุดกระแสการอนุรักษ์แม่น้ำเจ้าพระยา ณ บริเวณสวนสันติชัยปราการ ถนนพระอาทิตย์ ระหว่างเดือนมีนาคม - เมษายน 2545 การจัดเสวนาครู / อาจารย์โรงเรียนริมฝั่งน้ำ ในหัวข้อ "คุณภาพน้ำ คุณภาพชีวิต" เพื่อสร้างแนวร่วมกลุ่มผู้นำทางความคิดในการสนับสนุนแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำและสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นราวเดือนเมษายน 2545 หลังจากนั้น จะเป็นกิจกรรมประชาสัมพันธ์สัญจร (School Tour) สัญจรไปตามโรงเรียนริมฝั่งน้ำ โดยการสัญจรไปตามโรงเรียนต่าง ๆ นั้น จะมีการจัดแสดงนิทรรศการ ซึ่งประกอบด้วย การจัดนิทรรศการเคลื่อนที่เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของแม่น้ำเจ้าพระยา ประโยชน์ ปัญหามลพิษ แนวทางการอนุรักษ์แม่น้ำเจ้าพระยา เยาวชนไทยกับการอนุรักษ์แม่น้ำเจ้าพระยา และพระมหากษัตริย์ไทยกับการอนุรักษ์ พร้อมซุ้มเกมแจกรางวัล และกิจกรรมบนเวที โดยมีกำหนดจัดขึ้นราวเดือนพฤษภาคม 2545 นี้ "นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่กระทรวงคมนาคมได้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 90 ปี อาทิ งานนิทรรศการที่แสดงถึงวิวัฒนาการ เทคโนโลยี ของการคมนาคมขนส่งและการสื่อสาร รวมถึงการแสดงผลงานของกระทรวงคมนาคมและหน่วยงานในสังกัด การประชุม สัมมนา เสวนา ทางวิชาการเกี่ยวกับการขนส่ง สื่อสาร และอุตุนิยมวิทยา การจัดทำของที่ระลึก อาทิ การจัดทำหนังสือ ซีดีรอม แสตมป์ บัตรโทรศัพท์ บัตรโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ไดอารี่ การจัดทำเว็บไซต์ 90 ปี ซึ่งประกอบด้วย หัวข้อ โครงการพิเศษ ตราสัญลักษณ์ คำขวัญ ของที่ระลึก รับข้อเสนอแนะ และเกมชิงรางวัล ที่สำคัญยังได้มีการจัดประกวดตราสัญลักษณ์และคำขวัญ 90 ปี กระทรวงคมนาคม เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ในสื่อต่าง ๆ ของหน่วยงานในสังกัด " นายประชา กล่าวในตอนท้าย--จบ-- -อน-

• ข่าวอิมเมจ พลัส คอมมิวนิเคชั่น
• ข่าวแม่น้ำเจ้าพระยา
• ข่าวคอมมิวนิเคชั่น
• ข่าวกระทรวงคมนาคม
• ข่าวการท่องเที่ยว