กรุงเทพฯ--7 ม.ค.--กรุงไทย แอกซ่า ประกันชีวิต
"กรุงไทยแอกซ่า ประกันชีวิต" เปิดตัวกรรมการผู้จัดการคนใหม่ "มร.บิมาล บาลาซิงกัม" พร้อมโชว์วิสัยทัศน์ ต้องการยกระดับบริษัทให้เป็น
บริษัทชั้นนำระดับโลก และเป็นผู้ให้บริการการประกันชีวิตที่คนไทยไว้วางใจ โดยเน้นการตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก
มร.บิมาล บาลาซิงกัม กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงไทยแอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยภายหลังเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ
บริษัท กรุงไทยแอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด ว่า ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเติบโตอย่างมั่นคงและรวดเร็ว โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น คือ
ธนาคารกรุงไทย จำกัด และ กลุ่มแอกซ่า ในการเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 340 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวและการพัฒนาธุรกิจให้องค์กรมีความมั่นคง
รวมทั้งมอบการบริการที่ดีแก่ลูกค้า และบริษัทมีเป้าหมายที่จะเป็นบริษัท 1 ใน 5 ของธุรกิจประกันชีวิตในปี 2553 ให้บริการที่มีคุณภาพระดับสูงและต่อ
เนื่องแก่ลูกค้า
จะเห็นได้ว่า บริษัทมีการพัฒนาทางธุรกิจ โดยดูจากการเติบโตของบริษัท ดังนี้
ปี 2542 ปี 2543 ปี 2544 คาดการณ์ปี 2545
เบี้ยประกันรับรวม(ล้านบาท) 35 211 458.62 843
จำนวนกรมธรรม์ (ราย) 1,600 13,000 30,355 39,000
จำนวนพนักงาน (คน) 58 102 159 250
กรรมการผู้จัดการ ได้กล่าวถึง วิสัยทัศน์ในการบริหารงาน ว่า ตนมีจุดมุ่งหมายที่ต้องการให้บริษัท กรุงไทยแอกซ่า ประกันชีวิต ก้าวขึ้นเป็น
บริษัทชั้นนำระดับโลก (World Class) โดยเป็นผู้ให้บริการด้านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่คนไทยให้ความไว้วางใจ และมีจุดประสงค์ที่จะสนองความต้อง
การอันพึงพอใจของลูกค้า ในการเสนอแนะให้คำปรึกษาเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้า บริษัทจึงสร้างสรรผลิตภัณฑ์อันหลากหลายเพื่อสนองความต้องการ
ของลูกค้าให้ครบทุกช่วงอายุ เช่น ลูกค้าอาจจะต้องการวางแผนในอนาคตให้ได้รับผลตอบแทนที่ดี หรือ ต้องการออกทรัพย์สำหรับวัยเกษียณอายุ เป็นต้น
นอกเหนือจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นสนองตอบตามความต้องการของผู้ถือหุ้น พนักงาน และตัวแทน เพื่อพัฒนาให้พนักงานและตัวแทนได้ยกระดับเป็นมืออาชีพ
ในธุรกิจประกันชีวิต และบริษัทสนับสนุนให้รางวัลตามความสามารถทั้งส่วนบุคคลและส่วนรวม
ทั้งนี้บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะมอบความคุ้มครองทางด้านการเงินให้แก่ลูกค้าในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต และ
เรามีความมุ่งมั่นที่จะมีบทบาทในการพัฒนาธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยให้มีการพัฒนาแบบยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทมีนโยบายในการดำเนิน
ธุรกิจโดยรับผิดชอบเสมือนกันเป็นคนไทยคนหนึ่ง โดยเราจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือแก่องค์กรการกุศล ซึ่งเป็นการช่วยเหลือสังคม เช่น ในประเทศไทย
บริษัทมีโครงการ KTAXA Hearts in Action ซึ่งมุ่งเน้นให้การช่วยเหลือแก่เด็ก ในด้านสุขภาพและการศึกษา เป็นต้น
มร.บิมาล ได้กล่าวถึง จุดมุ่งหมายประการสำคัญในการบริหารงานไว้ 5 ประการคือ
1. บริษัทต้องการนำเสนอบริการที่มีคุณภาพและระดับสูงอย่างต่อเนื่องให้แก่ลูกค้า เพราะลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ โดยจะ
เน้นการให้บริการตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก พร้อมทั้งสร้างความเชื่อให้แก่พนักงานว่าหน้าที่การบริการลูกค้ามิใช่เป็นหน้าที่เฉพาะของฝ่าย
บริการลูกค้าเท่านั้น แต่พนักงานของบริษัททุกคนจะต้องทำหน้าที่ให้บริการแก่ลูกค้าด้วย ซึ่งบริการได้เริ่มโครงการ KTAXA Gold Service Project
*** แล้ว
2. บริษัทจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 ประเภท คือ กรมธรรม์สำหรับวัยเกษียณอายุ และกรมธรรม์การออมทรัพย์ในระยะสั้น รวมทั้งกรมธรรม์
ประเภททุนการศึกษา เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าครบทุกช่วงอายุ
3. บริษัทต้องการจะพัฒนาฝ่ายขายให้ทำงานแบบเต็มเวลาและเป็นมืออาชีพ โดยบริษัทมีโปรแกรม AIC (AXA Insurance Counselor)
ซึ่งเป็นการสร้างและพัฒนาตัวแทนเต็มเวลา ให้เป็นมืออาชีพในธุรกิจประกันชีวิตอย่างแท้จริง ซึ่งตัวแทนที่ผ่านโปรแกรมนี้จะเป็นผู้ที่มีระเบียบวินัย สามารถ
วางแผน การทำงานและบริหารเวลาได้อย่างเหมาะสม ผลิตผลงานที่มีคุณภาพ ให้บริการที่ดี และมีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทอย่างแท้จริง
ทั้งนี้บริษัทได้ตั้งเป้าที่มีตัวแทนฝ่ายขายและระดับผู้จัดการที่ทำงานเต็มเวลา (Full Time) ประมาณ 1,350 คนในปี 2545 และบริษัทจะยก
ระดับตัวแทนฝ่ายขายให้เป็นมืออาชีพโดยการพัฒนาด้านความรู้และทักษะโดยบริษัทได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยนานาชาติ RMIT ของประเทศออสเตรเลีย
ในการพัฒนาหลักสูตรโปรแกรม PEAK (the Professional Educational and Applied Knowledge) ซึ่งโปรแกรมนี้จะเป็นโปรแกรมเฉพาะ
สำหรับตัวแทนของกลุ่มแอกซ่าเท่านั้น และบริษัทจะสนับสนุนช่วยยกระดับตัวแทนให้เป็นตัวแทนระดับชั้นนำของโลก และได้รับการติดคุณวุฒิ MDRT
ซึ่งเป็นคุณวุฒิที่ตัวแทนทั่วโลกยอมรับ
4. บริษัทมีความมุ่งมั่นในการสร้างความแข็งแกร่งของการร่วมทุนกับธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยการสร้างโอกาสทางธุรกิจแก่
กันและกัน ซึ่งจะเป็นการดำเนินธุรกิจแบบข้ามองค์กร (cross selling) กล่าวคือบริษัทจะใช้เครือข่ายของธนาคารกรุงไทยเป็นช่องทางการขายช่อง
ทางหนึ่ง และธนาคารก็จะใช้สินค้าของบริษัทในการให้บริการแก่ลูกค้าของธนาคาร
5. นอกเหนือจากการพัฒนาภายนอกแล้ว ในส่วนของภายในบริษัทเองก็จะต้องมีการพัฒนา ทั้งในด้าน ความรู้ ทักษะ ทัศนคติ และเพิ่มคุณค่า
ในตัวองค์กร ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนประกอบของบริษัท กรุงไทยแอกซ่าประกันชีวิต เพื่อที่จะสนองความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าในเวลาเดียวกัน
"ตนมีความเห็นว่า ธุรกิจประกันชีวิตในประเทศยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น แต่มีศักยภาพที่จะเติบโตได้มาก ซึ่งตนมั่นใจว่ายุทธศาสตร์และประสบการณ์
ของบริษัท รวมทั้งการสนับสนุนจากธนาคารกรุงไทยฯ และกลุ่มแอกซ่า จะสามารถประสบผลสำเร็จในการดำเนินธุรกิจนี้ได้" มร.บิมาลกล่าวในตอนท้าย--จบ--
-ปส-