กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--เครือซีเมนต์ไทย
ค้าวัสดุซิเมนต์ไทย ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2544 เพิ่มขึ้น 20% มุ่งนำไอทีเสริมประสิทธิภาพ การแข่งขัน พัฒนา เครือข่าย การจัดจำหน่าย และการค้า และแสวงหาธุรกิจใหม่ สู่ความเป็นเลิศ ในการตอบสนอง ความต้องการ ของลูกค้า
นายดุสิต นนทะนาคร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทค้าวัสดุซิเมนต์ไทย จำกัด ในเครือซิเมนต์ไทย ผู้ดำเนินธุรกิจ การจัดจำหน่าย ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เปิดเผยกลยุทธ์ปี 2544 ว่าบริษัทฯ มุ่งพัฒนา ระบบไอที ให้ทันสมัย และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนอง ความต้องการของลูกค้า อย่างถูกต้อง และรวดเร็ว อาทิ อีคอมเมิร์ซ รูปแบบ B2B ซึ่งเป็นระบบขายผ่านอินเตอร์เน็ท เชื่อมต่อผู้แทนจำหน่าย ประมาณ 600 รายทั่วประเทศ และผู้ผลิตใน เครือซิเมนต์ไทยกว่า 30 บริษัท ซึ่งจะขยายไป กลุ่มเป้าหมายอื่น เช่น ร้านค้าช่วง ผู้รับเหมา ผู้ผลิตนอกเครือฯ ตลอดจนใช้อินเตอร์เน็ท เพื่อสื่อสาร และให้ข้อมูลกับ ผู้บริโภคมากขึ้น
สำหรับธุรกิจกระจายสินค้า บริษัทฯ ได้นำระบบ WMS (Warehouse Management System) มาเพิ่ม ประสิทธิภาพบริหาร คลังสินค้า และระบบ TMS (Transportation Management System) เพื่อให้ จัดส่งสินค้า ได้ถูกต้องและตรงเวลา ด้วยต้นทุนต่ำสุด นอกจากนี้ ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ยังได้ใช้ระบบ (EDI) Electronic Data Interchange เชื่อมต่อกับเครือข่ายของกรมศุลกากร เพื่อเพิ่ม ความสะดวกรวดเร็ว ในการผ่านพิธีการ
บริษัทฯ ยังมีแผนพัฒนาเครือข่าย จัดจำหน่ายและการค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัด จำหน่ายสินค้า และให้บริการ ตรงความต้องการของลูกค้า โดยสร้างผู้แทนจำหน่าย ที่มีความชำนาญสินค้า เฉพาะทางเพิ่มขึ้น สำหรับตลาด ต่างประเทศ บริษัทฯ จะเน้นพัฒนา เครือข่ายจัดจำหน่าย สินค้าวัสดุก่อสร้าง ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ ในกัมพูชา ลาว เวียดนาม เมียนมาร์ และมาเลเซีย
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ โดยเพิ่มสัดส่วนการขายในตลาดใหม่ ขายผลิตภัณฑ์ และบริการใหม่ การทำธุรกิจ แนวใหม่ และมุ่งขยายธุรกิจใน ตลาดนอกเครือฯ สำหรับธุรกิจค้าปลีก "ร้านซิเมนต์ไทยโฮมมาร์ท" ที่ดำเนินการมา ตั้งแต่ปี 2540 บริษัทฯ ก็มีแผนนำ Know-how จากบริษัทค้าปลีก ชั้นนำของโลก มาใช้พัฒนา ระบบการค้าปลีก ให้ทันสมัย และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
"ปี 2544 คาดว่าเศรษฐกิจของประเทศ จะขยายตัวไม่มากนัก แต่จากกลยุทธ์ที่บริษัทฯ กำหนดไว้ คาดว่ากลุ่ม ค้าวัสดุซิเมนต์ไทย จะมีรายได้รวมกว่า 50,000 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2543 ประมาณร้อยละ 20 โดยรายได้ ส่วนใหญ่ มาจากการกระจายสินค้า ที่ให้บริการธุรกิจนอก เครือซิเมนต์ไทยมากขึ้น และการค้า ระหว่างประเทศ ที่ขยายสู่ตลาดใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้จาก การจัดจำหน่ายสินค้า ในประเทศ ขยายตัวตาม เศรษฐกิจของประเทศ" นายดุสิต กล่าว--จบ--
-สส-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit